![Ninja Gaiden 2 Black – รีวิว [REVIEW]](https://thaigamewiki.com/wp-content/uploads/2025/02/NINJA-GAIDEN-2-Black-Review-Cover.jpg)
*ขอขอบคุณ Koei Tecmo สำหรับโค้ดรีวิวมา ณ โอกาสนี้ครับ
**รีวิวนี้เล่นบน PlayStation 5
สำหรับ Ninja Gaiden 2 Black ในครั้งนี้ คือการกลับมาอีกครั้งบนแพลตฟอร์มปัจจุบันจากเดิมที่เกมต้นฉบับวางจำหน่ายบน Xbox 360 ในปีค.ศ.2008 และเวอร์ชัน Sigma บน PlayStation 3 ในปีค.ศ.2009 (ยังไม่นับว่ามีการรีมาสเตอร์และขายใหม่บนแพลตฟอร์มอื่น ๆ อีกหลังจากนั้น) ซึ่งในคราวนี้เป็นการรีเมกโดยใช้ Unreal Engine 5 และมีการปรับปรุงตัวเกมในบางจุด ส่วนจะเป็นอย่างไรบ้างนั้น ผมจะมาเล่าความรู้สึกให้ฟังครับ
เนื้อเรื่อง
Ninja Gaiden 2 Black เริ่มต้นขึ้นท่ามกลางบรรดาตึกระฟ้าในมหานครโตเกียว สาวผมบลอนด์ผู้ลึกลับคนหนึ่งนามโซเนียได้มาสอบถาม ณ ร้านขายของโบราณที่ชายแก่นามว่ามุรามาสะดูแลอยู่ เธอสอบถามว่าจะพบตัวริว ฮายาบุสะสุดยอดนินจาระดับตำนานได้ที่ไหน ซึ่งมุรามาสะเองก็ไม่ทราบได้ เพราะนินจานั้นไปมาไร้ร่องรอย แต่เธอก็เป็นกังวลเพราะมีเรื่องจะปรึกษาริวเกี่ยวกับการคืนชีพของเทพมาร (Archfiend) หากแต่ไม่ทันไร ร้านก็โดนบุกเข้ามาโดยกลุ่มนินจาแมงมุมดำ โซเนียพยายามต่อกรแต่สุดท้ายก็สู้ไม่ได้ แม้ว่าริวจะปรากฏตัวมาช่วยได้ทัน แต่เธอก็โดนจับตัวไป การต่อสู้ของริว ฮายาบุสะจึงเริ่มขึ้นอีกครั้ง
ถ้าจะว่ากันตรง ๆ เกี่ยวกับเนื้อเรื่องเกมนี้ก็คือ…มันไม่มีอะไรเลยครับ เนื้อหาตรงไปตรงมาไม่มีอะไรซับซ้อน มารร้ายจะคืนชีพ พระเอกต้องไปจัดการ โดยไล่เชือดตัวใหญ่เรียงตัวไปเรื่อย ๆ จนจัดการวายร้ายที่สุดได้ ไม่มีมุกประเภทใครวางแผนอะไรหรือจะหักหลังพลิกกี่ตลบอะไรพวกนั้น ตัวดีก็ดี ตัวร้ายก็ร้าย อารมณ์เหมือนหนังแอ็กชันแบบ 80s หลาย ๆ เรื่องนั่นล่ะครับ แต่ถามว่ามันสนุกไหมมันก็สนุกอยู่นะ เพราะซีนโม้เหม็นนี่มีให้ดูตลอดทั้งเกมในสไตล์นินจาซูเปอร์ฮีโร่ชนิดที่ว่าแรงโน้มถ่วงโลกนี่ยกเว้นให้ริว ฮายาบุสะไว้คนนึง นึกจะโดดโผต้านลมก็โผ บทจะโดดพรวดขึ้นไปบนยอดเขาก็โดดเลย (ส่วนในเกมเพลย์ก็ไม่เกี่ยวกัน)
เอาเป็นว่า ถ้าคุณชอบแอ็กชันสไตล์โม้ระเบิดระเบ้อชนิดที่ว่าตัวเอกนี่ให้อารมณ์แบบโคตรไร้เทียมทานเจออะไรก็ไม่ตระหนก เจออะไรก็ชนะได้ พูดน้อยต่อย (ดาบ) หนักล่ะก็ Ninja Gaiden 2 Black ก็น่าจะโดนเส้นคุณไม่น้อยครับ ถึงแม้ว่ามันจะแอบน่าเสียดายที่ไม่ได้มีการต่อยอดเนื้อหาอะไรเพิ่มเข้ามาจากของเดิมน่ะนะ
ทั้งนี้ทั้งนั้น ด้วยความที่ตัวเกมเองก็อยู่จักรวาลเดียวกันกับ Dead or Alive จึงมีบรรดาตัวละครสาว ๆ ที่นุ่มฟูเนื้อนมไข่เพียบทั้งเกมแน่นอนครับ แต่ถ้าใครเคยเล่น Ninja Gaiden Sigma 2 มาก่อนก็คงทราบกันดีอยู่แล้วในประเด็นนี้ล่ะนะ
เกมเพลย์
เกมเพลย์ของ Ninja Gaiden 2 Black นั้น เป็นการยกยอดมาจาก Ninja Gaiden Sigma 2 บน PlayStation 3 ครับ ซึ่งก็คือเป็นแอ็กชันลุยแหลก hack and slash ที่คุณต้องสู้กับศัตรูที่โผล่กันมาจำนวนไม่น้อยต่อรอบ และที่สำคัญคือพวกมันจะไม่นัดคิวกันตี แต่จะพุ่งเข้ามารุมคุณไม่ให้หายใจหายคอ ดังนั้นตลอดทั้งเกมคุณต้องเคลื่อนที่ให้ไว ตัดสินใจให้ว่อง โจมตีให้เฉียบ และรีบจัดการศัตรูเพื่อลดทอนกำลังพวกมันให้เร็วที่สุด เกมนี้เป็นเกมที่ไม่เปิดโอกาสให้คุณเพลย์เซฟมากนัก เพราะศัตรูมันจะเข้าประชิดคุณตลอด แถมดุกันมากด้วย
อาวุธที่คุณใช้ได้นั้นเริ่มเกมมาก็จะมีเพียงแค่ดาบมังกรคู่มือของริว ฮายาบุสะ แต่เมื่อเล่นไปเรื่อย ๆ ก็จะทยอยปลดล็อกอาวุธชิ้นอื่น ๆ ออกมาให้ใช้ตามแต่ความชอบและความถนัด ซึ่งก็จะมีความแตกต่างหลากหลายอยู่ไม่ว่าจะพลอง, เคียวโซ่, ดาบคู่, ดาบใหญ่, เคียวยักษ์, กรงเล็บ, ทอนฟา, กระบองสองท่อนติดใบมีด อะไรแบบนั้น แน่นอนว่าแต่ละชิ้นจะอัปเกรดได้และมีท่าโจมตีรวมถึงประโยชน์ใช้สอยที่ต่างกัน
ระบบคอมโบของเกมนี้จะใช้วิธีการผสมปุ่มระหว่างตีเบาและตีหนัก เพื่อออกเป็นท่าชุดโจมตี และมีการกดปุ่มทิศทางควบคู่บ้างในบางท่า ถ้าจะให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คล้ายกับการกดคอมโบชุดใน Dead or Alive นั่นล่ะครับ บางท่าก็เป็นท่าทุ่มที่คุณก็ต้องหาจังหวะเอาเองว่าควรกดอะไร ควรออกท่าไหน หรือหาโอกาสชาร์จท่าใหญ่เพื่อทำแดเมจรุนแรง (ซึ่งก็วืดได้เหมือนกัน…) ซึ่งดีไซน์การเล่นเกมนี้หลัก ๆ ไม่ได้ออกแบบมาให้คุณต้องออกท่าต่อคอมโบยาว ๆ แต่เน้นความเร็วและประสิทธิภาพในการต่อสู้เป็นหลัก อย่าลากนาน รีบปิดฉากได้ก็รีบปิดซะ อะไรทำนองนั้น
ระดับความยากของเกมนั้นอยู่ในระดับที่สูงถึงสูงมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณเล่นในระดับความยากที่สูงกว่ามาตรฐานหรือไปเล่นในโหมดภารกิจที่ความนรกแตกและหัวร้อนจะรอคุณอยู่ ถ้าคุณเป็นเกมเมอร์สายสบาย ๆ ก็อาจไม่รู้สึกอะไรมาก แต่ถ้าคุณเป็นเกมเมอร์สายเพอร์เฟกชันนิสต์หรือสายเก็บความสำเร็จล่ะก็ รับรองว่าคุณจะได้กรีดร้องพลางสบถก่นด่าสรรพสิ่งอยู่หน้าจอหลายต่อหลายครั้ง
อย่างที่ผมบอกไปก่อนหน้านี้ว่าศัตรูเกมนี้มันดุ และมันรุมโจมตีคุณ เพราะฉะนั้นคุณจะยืนหล่อซัดพวกมันเป็นกระสอบไม่ได้ครับ เพราะพวกมันจะแทบไม่อยู่นิ่งเลย มันจะหาทางตีเราตลอดเวลา บางครั้งก็หลบ บางครั้งก็ป้องกัน ยิ่งกับพวกบอสที่ขนาดตัวพอ ๆ กับเรานี่คุณต้องหาจังหวะตี ต้องจำรูปแบบการโจมตีให้แม่นหน่อย เพราะถ้าแลกก็มีแต่ลงไปนอนอย่างเดียว
ผมคิดว่าระบบหนึ่งที่เน้นความดุของศัตรูในเกมนี้ได้ดีก็คือการที่เราตัดแขนขาหรือหัวของศัตรูได้ เมื่อใดที่เราตัดอวัยวะของศัตรูไป เราจะมีโอกาสใช้ท่าสังหาร (Obliteration Technique) เพื่อปิดฉากตัวนั้นได้ทันที แต่ในทางกลับกัน ศัตรูที่จนตรอกมันก็จะยิ่งอันตรายครับโดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกศัตรูที่เป็นนินจาด้วยกัน เพราะไม่ว่าจะแขนขาดหรือขาขาดก็ตาม พวกมันสู้ไม่ถอย และพร้อมจะระเบิดตัวเองแลกชีวิตกับคุณทันที ดังนั้นการที่คิดว่าทำให้มันบาดเจ็บแล้วจะไร้พิษสงนั้นไม่เกิดขึ้นกับเกมนี้แน่นอน
รูปแบบฉากของเกมนี้จะให้ความรู้สึกในแบบเกม arcade สมัยก่อนครับ คือค่อนข้างเป็นเส้นตรง ไม่มีอะไรให้ออกนอกลู่นอกทางมากนัก และจะมีพวกไอเท็มซุกซ่อนในบางจุดประปราย บ้างก็เป็นพวกเพิ่มขีดพลังชีวิต เพิ่มจำนวนสูงสุดของนินโป หรือเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับนินโป เป็นต้น แต่โดยหลักเกมจะเน้นที่ความสะใจของระบบสู้มากกว่าการค้นหาความลับในฉากครับ
และด้วยความที่ตัวเกมคือการนำเอาฉบับ Ninja Gaiden Sigma 2 มาปรับใหม่ จึงทำให้มีการเพิ่มเติมฉากที่ให้คุณสลับไปเล่นตัวละครสาวทั้ง 3 คนอย่างเรเชล, โมมิจิและอายาเนะเหมือนเคย รวมถึงนำพวกเธอไปเล่นใน Tag Mission ก็ได้เหมือนกัน
ถ้าจะให้กล่าวโดยสรุปเกี่ยวกับเกมเพลย์นั้นก็คือ มันเป็นแอ็กชันที่รวดเร็ว รุนแรง สะใจ ท้าทาย และสนุก ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบเล่นอะไรแบบเอาสนุกนี่สามารถเล่นได้เลย แต่สำหรับเพอร์เฟกชันนิสต์นี่คุณจะได้พบกับสิ่งที่เกินคำว่าความท้าทายไปเป็นความทรมานทรกรรมแทน
จุดหนึ่งที่เป็นความเปลี่ยนแปลงมาก ๆ ไปจากเดิม (เทียบกับสมัย Ninja Gaiden Sigma 2) ก็คือ Tag Mission ในรอบนี้ไม่มีโหมดออนไลน์ให้เล่นกับคนอื่นครับ ดังนั้นใครที่เคยรับรู้มาก่อนหน้านี้ว่า Tag Mission มันโหดหินแค่ไหน รอบนี้เตรียมตัวกรีดร้องกันได้เลย เพราะจะไม่สามารถเรียกใครมาช่วยแบกคุณผ่านได้ ต้องใช้ฝีมือตัวเอง (กับ AI) กันเพียว ๆ หากจะมีสิ่งที่ง่ายลงบ้างก็คือ AI ของเราอึดขึ้นและฉลาดขึ้นกว่าเก่า และในบางฉากบอสจะไม่ถึกทนเหมือนอย่างเคยครับ (ไม่งั้นคงไม่มีใครผ่าน) แต่ถึงจะแบบนั้นตัวเกมก็ยังอยู่ในระดับยากมากอยู่ดี
อีกสิ่งที่ต้องพูดถึงและเรียกได้ว่าเป็นจุดอ่อนของเกมเลยนับตั้งแต่เวอร์ชันเดิม ๆ ก็คือเรื่องมุมกล้องครับ มีหลายครั้งเลยที่นอกจากต่อสู้กับศัตรูแล้วคุณยังต้องต่อสู้กับมุมกล้องไปในคราวเดียวกัน ถ้าสู้ในที่กว้าง ๆ ก็พอไหว แต่ถ้าเข้าที่แคบ ๆ เมื่อไรปั๊บมุมกล้องจะเป็นปัญหาทันที แถมหลายครั้งเวลาคุณอยู่ใกล้มุมใกล้ผนังนี่ การจะหันกล้องหาศัตรูมันก็ไม่ได้ดั่งใจ พอเจอบอสตัวใหญ่ ๆ นี่หลายรอบจะมองแทบไม่เห็นเลยว่าเราอยู่ตรงไหน ซึ่งกับเกมที่ต้องอาศัยความรวดเร็วฉับไวในการตอบสนองนี่ จุดนี้น่าจะเป็นจุดที่ทำให้หลายคนพาลไม่สนุกไปเลยก็ได้
อนึ่ง ถ้าเทียบกับ Ninja Gaiden Sigma 2 แล้วก็จะมีบอสบางตัวที่หายไปจากเวอร์ชันนี้ครับ ซึ่งก็ไม่ค่อยแน่ใจว่าจะตัดออกไปทำไมเหมือนกัน อาจจะต้องการให้ใกล้เคียงกับต้นฉบับอย่าง Ninja Gaiden 2 บน Xbox 360 มากขึ้นก็เป็นได้ ส่วนพวกบั๊กหรือปัญหาอื่น ๆ ก็มีบ้างประปราย และบางครั้งตอนใช้ท่าใหญ่ที่เป็นการโจมตีชุดก็ไม่หันไปโจมตีศัตรูให้โดยอัตโนมัติทำให้เสียฟรีไปก็มีบ้าง แต่โดยรวมก็ถือว่าไม่ได้มีอะไรที่หนักถึงขนาดเล่นไม่ได้เลยครับ
กราฟิก
การกลับมาในคราวนี้ด้วย Unreal Engine 5 ถือได้ว่าให้ภาพที่สวยงามขึ้น คมชัดขึ้น ความละเอียดสูงขึ้น และสิ่งที่ควรเด้งก็ยังคงเด้งเหมือนเคย เอฟเฟกต์เลือดสาดกระจาย ชิ้นส่วนกระเด็นทั่วฉากนี่น่าจะถูกใจสายโหดกันไม่น้อย
กระนั้นผมว่าแปลกดีเหมือนกันที่รอบนี้หน้าตาตัวละครหลายตัว โดยเฉพาะสาว ๆ ก็ได้รับการปั้นหน้ากันใหม่ทุกคนในรูปแบบเดียวกับเกม Dead or Alive ยุคนี้ครับ คือแม้แต่โซเนียกับเรเชลที่เป็นสาวตะวันตกผมบลอนด์เอง ก็ยังมีหน้าตาจิ้มลิ้มปากนิดจมูกหน่อยต่างไปจากเดิมเอาเรื่องเหมือนกัน
แต่โดยรวมผมว่ากราฟิกเกมอยู่ในระดับที่ใช้ได้ครับ ส่วนหนึ่งก็ต้องยอมรับว่าของเก่าก็ดีอยู่แล้วด้วยน่ะนะ
งานเสียง
เพลงประกอบในแต่ละฉากและแต่ละช่วงนั้นทำออกมาดีและสมกับสถานการณ์ รวมถึงสมกับฉากขณะนั้น ๆ ครับ โดยมากเพลงจะมีจังหวะดนตรีที่หนักหน่วงและดุเดือดไม่แพ้การต่อสู้ที่เกิดขึ้นบนจอ บางเพลงก็จะให้บรรยากาศในแบบญี่ปุ๊นญี่ปุ่นแต่ผสมความโมเดิร์นเข้าไป (ก็เกมนินจาอะนะ) แต่นอกเหนือจากเพลงแล้ว พวกเสียงเอฟเฟกต์ขณะสู้นี่ก็ทำออกมาดีครับ พวกเสียงตอนดาบผ่าร่างศัตรูนี่ทำออกมาฉัวะฉะได้ใจ ให้ความรู้สึกถึงคมเหล็กที่แยกเนื้อแยกกระดูกได้ดี หรือพวกอาวุธสไตล์ฟาดนี่ก็ทำเสียงโลหะฟาดเนื้อและกระดูกออกมาได้ชัดเจนมาก
สรุป
Ninja Gaiden 2 Black นั้นเป็นการกลับมาของเกมแอ็กชันที่รวดเร็วและดุเดือดพร้อมท้าทายมากอีกเกมหนึ่งของวงการ ตัวเกมมีการปรับปรุงกราฟิกให้ทันสมัย แต่คงระบบการเล่นแบบเดิมไว้ ถึงอย่างนั้นก็มีบางสิ่งที่ยังคงเป็นปัญหาเช่นมุมกล้อง และโหมดการเล่นออนไลน์ที่ขาดหายไป ทั้งนี้ทั้งนั้น ถ้าคุณคิดถึงซีรีส์นี้ก็อยากให้ซื้อมาเล่นกันอีกครั้งได้เลย ส่วนใครที่ไม่เคยเล่นมาก่อน ลองมาพบกับเสน่ห์ของเกมแอ็กชันเพียว ๆ ที่ไม่มีค่าพลัง ไม่มีเก็บเลเวล ไม่มีการปั้นบิลด์ ไม่มีของสวมใส่มีแต่ฝีมือเพียว ๆ กันได้เลยครับ