![Like a Dragon Pirate Yakuza in Hawaii – รีวิว [REVIEW]](https://thaigamewiki.com/wp-content/uploads/2025/02/Like-a-Dragon_-Pirate-Yakuza-in-Hawaii_Review-Cover.jpg)
*ขอขอบคุณ SEGA Corporation สำหรับโค้ดรีวิวมา ณ โอกาสนี้ครับ
**รีวิวนี้เล่นบน PlayStation 5
สำหรับ Like a Dragon: Pirate Yakuza in Hawaii ในคราวนี้ หวนกลับสู่ความเป็นแอ็กชันโม้ระเบิดอีกครั้ง และให้คุณได้กลับไปเล่นเป็นอดีตยากูซ่าตาเดียวฉายา “หมาบ้าแห่งชิมาโนะ” อย่างมาจิมะ โกโร่อีกครั้ง ผมเชื่อว่าใครหลายคนที่ได้เล่น Yakuza 0 มาก่อน น่าจะติดใจกับบุคลิกและนิสัยของตัวละครนี้ที่สุขุมนุ่มลึก ก่อนที่ไทม์ไลน์หลังจากนั้นเขาจะแสร้งทำตัวบ้าบอคาดเดาไม่ได้มาตลอด ส่วนในภาคนี้จะเป็นอย่างไร ผมจะขอบรรยายความรู้สึกให้ฟังกันครับ
เนื้อเรื่อง
สำหรับเนื้อหาของ Like a Dragon: Pirate Yakuza in Hawaii ในครั้งนี้ จับเอาเหตุการณ์หลังภาค Like a Dragon: Infinite Wealth ไม่กี่เดือน ซึ่งมาจิมะได้ลอยมาเกย ณ ชายหาดของเกาะริช (Rich Island) โดยบังเอิญ เขาได้พบกับเด็กชายที่ชื่อโนอาห์ช่วยเหลือเอาไว้ หลังจากที่รอดตายมาได้ เขาก็เกิดคำถามในใจตนขึ้นมาว่าที่นี่ที่ไหน และเขาเป็นใคร? การพยายามตามหาความทรงจำของตัวเองจึงได้เริ่มต้นขึ้น
อย่างที่ผมกล่าวไปว่าเหตุการณ์นั้นต่อเนื่องจากภาค Infinite Wealth มาโดยตรง ดังนั้นเรื่องราวหลัก ๆ ของเกมก็จะมีการอ้างอิงถึงเหตุการณ์และบทสรุปของภาคดังกล่าวเอาไว้พอประมาณ รวมถึงผลต่อเนื่องจากเหตุการณ์ในตอนจบเกมด้วย ดังนั้นถ้าจะให้ดี ก่อนเล่นภาคนี้ควรเล่น Infinite Wealth มาก่อนก็จะทำให้เข้าใจอะไรมากขึ้นครับ ถามว่าไม่เล่นได้ไหม? ผมว่าก็พอได้นะแต่เกมมันก็จะบอกน่ะว่าในภาคนั้นใครที่อยู่เบื้องหลังเรื่องราวในรอบนั้น แต่ถ้าคุณไม่ซีเรียสอะไรก็ไม่ต้องกังวลครับ
ด้วยความที่มาจิมะความจำเสื่อม สถานการณ์ก็เลยพาไปให้เขาได้กลายมาเป็นกัปตันโจรสลัดและมีเรือของตัวเองแบบไม่คาดคิด แถมยังต้องไปพัวพันกับอาณาจักรแห่งอาชญากรอย่างแมดแลนติส (Madlantis) ที่มีผู้ปกครองอย่างราชินีมิเชลและราชาโจรสลัดอย่างเรย์มอนด์ ลอว์ จากเดิมที่กะแค่จะตามหาความทรงจำ ก็เลยต้องไปพัวพันกับอะไรที่มันใหญ่โตเกินเบอร์แบบเลี่ยงไม่ได้
ในแง่ของเรื่องราวในภาคนี้ ผมคิดว่าเป็นไปตามมาตรฐานของเกมในแฟรนไชส์ Like a Dragon นี้ครับ คือทุกอย่างมันจะมีอะไรมากกว่าที่ตาเห็น และตัวละครหลายคนก็มักจะมีวาระแอบแฝงของตัวเองกันอยู่ประจำ ดังนั้นเหตุการณ์ประเภทแบบ อ้าวเฮ้ย หรือการเผยอะไรในจังหวะที่นึกไม่ถึงก็มีเหมือนกัน ส่วนจะชอบกันหรือไม่อันนี้ก็สุดแท้แต่นะ
ทั้งนี้ทั้งนั้น ผมรู้สึกว่าตัวละครประจำภาคนี้อย่างเช่นโนอาห์และเจสันผู้เป็นพ่อนี้ก็มีบทบาทที่เด่นใช้ได้ มีมิติที่เข้าท่าและเป็นตัวละครสมทบที่ไม่รู้สึกว่าน่ารำคาญอะไรเลย ยิ่งกรณีของโนอาห์ที่คอยติดสอยห้อยตามมาจิมะไปทุกที่ก็ให้บรรยากาศคล้ายกับภาคแรก ๆ ที่คิริวต้องดูแลฮารุกะครับ คือเป็นเด็กที่เรียกได้ว่าฉลาดเกินวัยแต่ก็มีมุมที่สมเป็นเด็กอยู่ดี ทั้งนี้ทั้งนั้น ตัวละครสมทบอีกตัวอย่างเจ้าเหมียว…เอ้ย ลูกเสืออย่างโกโร่นี่ก็ปั้นโมเดลมาได้น่ารักมาก แถมยังตามมาจิมะต้อย ๆ ไปแทบทุกที่เหมือนกัน ยิ่งตอนต่อสู้แล้วโกโร่กระโดดตะปบศัตรูให้นี่ขโมยซีนสุด ๆ ก็ว่าได้
ในส่วนของมาจิมะนี่ ผมคิดว่าอาจเพราะเซ็ตติ้งที่ภาคนี้พี่แกความจำเสื่อมนี่ล่ะครับ ทีมงานเลยเลือกทำบุคลิกในแบบที่ดูไม่ใช่การแกล้งบ้า และจะกลับไปคล้าย ๆ นิสัยในตอนภาค 0 คือเป็นคนที่คุยปกติมนุษย์มาก และจะมีซีนโชว์ความฉลาดทันคนอยู่บ่อย ๆ ผมคิดว่าใครชอบบุคลิกมาจิมะจากภาค 0 จะชอบภาคนี้แน่ ๆ ครับ
และก็แน่นอน อารมณ์ขันในแบบของเกมแฟรนไชส์นี้ยังมีครบครับ ไม่ต้องกังวล เพราะพวกเนื้อหาในซับสตอรี่ต่าง ๆ หลายครั้งจะโบ๊ะบ๊ะฮาไส้แตกเหมือนเดิม
เกมเพลย์
หลังจากภาคหลักของอิจิบังใน Infinite Wealth เล่นในแบบเกม RPG ไปแล้ว รอบนี้ตัวเกมกลับมาเป็นแอ็กชันเต็มตัวอีกรอบ แต่ก็มีองค์ประกอบความเป็น RPG อยู่บ้างในลักษณะของการอัปเกรดตัวละคร และรวมถึงของสวมใส่นั่นล่ะครับ ซึ่งผมจะขอลงรายละเอียดในแต่ละหัวข้อเพื่อความสะดวก
ระบบต่อสู้
ถ้าใครคุ้นเคยกับแฟรนไชส์ Like a Dragon กันมาตั้งแต่สมัยก่อน ก็คงเข้าใจวิธีสู้ดีอยู่แล้ว คือเกมจะมีปุ่มตีเบาเพื่อโจมตีต่อเนื่อง และปิดท้ายด้วยปุ่มตีหนักเพื่อออกท่าปิดฉากที่จะต่างกันไปโดยขึ้นอยู่กับว่าคุณกดปุ่มตีเบากี่ฮิต และในรอบนี้เกมก็เพิ่มความลึกซึ้งให้กับระบบต่อสู้ของมาจิมะโดยการเพิ่มสไตล์ต่อสู้ให้สลับใช้ได้ตลอดเวลานั่นคือ Mad Dog กับ Sea Dog ครับ เช่นเดียวกับคิริวที่มีสองสไตล์ให้เลือกใช้ในภาค The Man Who Erased His Name นั่นล่ะครับ
สไตล์ Mad Dog นี่เป็นการผสมผสานระหว่างสไตล์ Thug ในภาค 0 เข้ากับสไตล์ Mad Dog ในภาค Kiwami 2 ครับ ส่วน Sea Dog นี่จะใหม่เอี่ยมเลยและโจมตีโดยใช้อาวุธในแบบโจรสลัดอย่างดาบคัตลาสคู่, ปืน และตะขอโซ่ ซึ่งทั้งสองสไตล์ก็มีประโยชน์ใช้งานต่างกัน แต่ที่เหมือนกันคือทั้งสองสไตล์ “เร็ว” มาก ๆ และให้ความรู้สึกแตกต่างชัดเจนถ้าเทียบกับการเล่นคิริว
ซึ่งในแง่นี้ผมคิดว่าทีมงานออกแบบการเล่นมาได้ดีครับ แม้จะกลับไปเป็นแนวแอ็กชันที่คุ้นเคยแต่มันก็มีองค์ประกอบที่ทำให้รู้สึกได้ถึงความสดใหม่อยู่ ยิ่งภาคนี้พอเพิ่มระบบงัดศัตรูลอยเข้ามา แถมมาจิมะก็กระโดดตามไปต่อแอร์คอมโบได้อีก มันทำให้เกมเกือบจะกลายเป็นเดวิลเมย์ครายรอมร่อเหมือนกัน แล้วการสลับสไตล์ได้ตลอดมันก็ทำให้คนเล่นครีเอตคอมโบแปลก ๆ ขึ้นมาได้พอควรด้วย
ผมรู้สึกว่าทีมงาน RGG Studio หาแนวทางของตัวเองเจอกันแล้ว ก็เลยเลือกที่จะนำเสนอในสิ่งที่ถนัดไปให้สุดครับ ไหน ๆ ภาคอิจิบังที่ทำอะไรกาว ๆ ออกมาแล้วคนชื่นชอบ ก็เอาความกาวมาใส่ในภาคอื่น ๆ ไปด้วยซะเลย เตะความสมจริงทิ้งไปแล้วเน้นความสนุกเพียว ๆ มันเลยทำให้ภาคนี้มีระบบอย่างเกจ Madness หรือความบ้าคลั่งนี่ล่ะครับ ประโยชน์ของมันคืออะไร? คือในสไตล์ Mad Dog นั้นมาจิมะจะสร้างร่างแยกเงาออกมาช่วยรุมโจมตีศัตรูแบบไม่ต้องสนเหตุผล ส่วนสไตล์ Sea Dog ก็จะทำให้คุณ…เรียกสัตว์อสูรออกมาช่วยโจมตีได้
อีกจุดก็คือการเล่นมาจิมะในภาคนี้จะไม่เน้นการซัดคู่ต่อสู้ตูมหลับ ตูมหลับด้วยท่า Heat Action รัว ๆ เหมือนคิริว แต่จะเน้นความไวในการตี ความไวในการหลบหาจังหวะแทนครับ แต่ท่า Heat ก็ยังแรงอยู่นะไม่ต้องกังวลแถมยังขี้โม้เกินคนไปไกลมาก ๆ อีกต่างหาก
ระบบต่อสู้ทางเรือ
ถ้าหากว่าใครที่ดูตัวอย่างเกมนี้แล้วคิดว่าระบบต่อสู้ทางเรือนั้นทีมงานหยิบยืมจาก Assassin’s Creed Black Flag มาใช้ ก็ไม่ผิดครับเพราะวิธีเล่นรวม ๆ นี่ผมคิดว่ามีพื้นฐานวิธีเล่นเหมือนกัน ต่างกันที่ว่าใน Pirate Yakuza in Hawaii นี้จะค่อนข้างทำให้มันเรียบง่ายกว่าหน่อยนึง
อย่างแรกที่ต้องพูดถึงเลยก็คือ การออกทะเลในเกมนี้ไม่ได้เป็นโอเพนเวิลด์เหมือนใน Black Flag ครับ เกมจะใช้วิธีให้เราเลือกว่าจะไปออกเรือในแมปไหน จากนั้นก็จะจำกัดพื้นที่ในการเล่นของเราในแมปนั้น คุณจะแล่นเรือไปไหนมาไหนตามอำเภอใจไม่ได้ และจุดที่จะแวะจอดได้ก็จะกำหนดเอาไว้แล้วซึ่งแต่ละจุดมันก็เป็นเหมือนมินิดันเจี้ยนให้คุณไปลุยกับศัตรูบนพื้นเพื่อตามล่าหาสมบัติครับ บางครั้งก็เจอบอสอึด ๆ บางครั้งคุณก็อาจต้องสู้กับศัตรูเป็นร้อย สุดแท้แต่ว่าจะเจอกับอะไร
การสู้รอบทางทะเลนั้นคุณจะมีอาวุธหลัก ๆ สามอย่างก็คือปืนกลที่ไว้ยิงด้านหน้า และมีปืนใหญ่ประจำกาบซ้ายและกาบขวาเรือ ซึ่งการจะยิงปืนใหญ่ได้คุณก็ต้องหันเอาด้านข้างเรือเข้าหาศัตรูเพื่อยิงโจมตี โดยในเกมนี้คุณไม่ต้องกดเลือกองศาเล็งเองแบบใน Black Flag เพราะพอเข้าระยะโจมตีได้แล้ว เกมจะขึ้นสัญลักษณ์บอกว่าโจมตีแล้วจะเข้าเป้าแน่นอน ซึ่งสภาพแวดล้อมเองก็มีส่วนในการต่อสู้บ้างระดับหนึ่ง เพราะถ้าคลื่นแรงบางครั้งเรายิงไปก็ติดคลื่นจะทำให้โจมตีไม่โดน หลายครั้งคุณก็อาจต้องเร่งความเร็วตีวงเพื่อหามุมยิงจะ ๆ บ่อยครั้ง
พอคุณจัดการเรือระดับบอสได้แล้ว เกมก็จะบังคับให้คุณเทียบเรือขนาบข้างเพื่อบุกขึ้นเรือศัตรูไปบู๊กันอีกทีหนึ่ง พอชนะแล้วถึงจะเป็นการปิดการต่อสู้และแย่งสมบัติอะไรก็ตามจากศัตรูมา ซึ่งคุณจะบู๊ไหวหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับลูกเรือที่คุณมอบหมายตำแหน่งให้รวมถึงเลเวลของพวกเขาด้วยครับ ดังนั้นการจัดงานเลี้ยงให้ลูกเรือเพื่อเพิ่มค่าประสบการณ์ให้พวกเขาก็เป็นสิ่งที่คุณควรทำเป็นประจำเพื่อจะได้ต่อกรกับเรือที่แข็งแกร่งต่อไปได้ โดยเฉพาะพวกการต่อสู้โหด ๆ ใน Pirate Coliseum นี่ต้องอัปเรือและอัปลูกเรือกันพอควรเลย
โปรเกรสชันของเกม
ผมคิดว่าเกมนี้เป็นเกมที่มีระบบโปรเกรสชันในแทบจะทุกองค์ประกอบของเกมเลยก็ว่าได้ครับ ทุกอย่างถูกออกแบบมาโดยมีสิ่งที่เสมือนเป็นความก้าวหน้าแทบจะตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการอัปสกิลของมาจิมะเอง การซื้อหรือการหาเครื่องแต่งกาย การปรับแต่งเรือ ฯลฯ ทุกอย่างแทบจะมีสายโปรเกรสชันของมันเองหมด
ยกตัวอย่างในแง่การต่อสู้นั้น นอกเหนือจากการอัปสกิลที่ทำให้ได้ท่าใหม่ ๆ หรือเพิ่มค่าพลังแล้ว มาจิมะยังใส่แหวนได้ทั้งหมด 10 วงด้วยกัน แต่ละวงก็จะมีประโยชน์ต่างกันไป บ้างก็มาเป็นเซ็ตที่พอติดครบแล้วจะให้ผลลัพธ์พิเศษ ผู้เล่นเลยสามารถเลือกได้เยอะมากว่าคุณจะเล่นยังไง จะติดแหวนแบบไหนให้เหมาะกับความถนัด
ในด้านของการแต่งเรือ ก็มีการอัปเกรดสมรรถนะ หรือเปลี่ยนอาวุธที่ติดตั้ง จะใช้ปืนใหญ่ปกติ หรือปืนพ่นไฟ หรือเป็นปืนเลเซอร์ไปเลย จะสลับลูกเรือคนไหนมาเพื่อรับสกิลพิเศษ หน้าตาของเรือแบบที่คุณอยากได้คืออะไร ฯลฯ เรียกได้ว่าเกมให้อิสระแก่คนเล่นค่อนข้างเยอะเอาเรื่องครับ
ไม่เพียงแค่นั้น แต่โปรเกรสชันที่ผมพูดถึงก็มาในรูปแบบของเนื้อเรื่องเฉพาะของตัวมันเองด้วย อย่างเช่นการสู้ทางเรือก็มีซับพล็อตเป็นการออกทวงคืนมหาสมบัติที่โดนกลุ่มโจรสลัดที่ชั่วช้าอย่างเดวิลแฟลกส์ช่วงชิงไป หรือกระทั่งมินิเกมอย่างดราก้อนคาร์ตเองก็มีซับพล็อตของตัวเองอีก (แถมยังมีรถคาร์ตให้คุณซื้อและอัปเกรด)
ยังไม่นับว่ามินิเกมอีกหลายอย่างที่มันก็มีระดับความยากง่ายแบ่งย่อยของตัวเองลงไปอีก (ซึ่งจุดนี้แฟน ๆ ของแฟรนไชส์ก็น่าจะรู้กันดี) แม้แต่มินิเกมทำอาหารก็มีเลเวลความเป็นเชฟของมาจิมะด้วย ดังนั้น เรื่องคอนเทนต์ที่มีให้นั้นไม่ต้องกังวลครับ เกมนี้มีให้คุณเหลือเฟือแน่นอน
อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องพูดถึงก็คือการอัปเกรดอะไรต่าง ๆ ในเกมนี้ใช้เงินล้วน ๆ จะอัปตัวละคร อัปเรือ อัปรถคาร์ต ทุกอย่างอัดแน่นด้วยจิตวิญญาณทุนนิยม เพราะฉะนั้นตระเวนหาสมบัติมันเข้าไปครับ หาจนกว่าจะได้ครบมาอัปทุกอย่างที่คุณพอใจ
การสำรวจ
ภาคนี้ยังคงใช้ฉากเป็นฮาวาย ดังนั้นถ้าใครเล่น Infinite Wealth มาแล้วก็ไม่ต้องทำความคุ้นเคยอะไรมากครับ เพราะมันแมปเดิมเลยนั่นล่ะ พวกร้านค้าต่าง ๆ ก็มีเหมือนเดิมสิ่งที่ต่างก็คือพวกเสื้อผ้าที่มีให้ซื้อนั้น รอบนี้ไม่ได้มีพวกค่าพลังอะไรแต่จะเป็นเสื้อผ้าให้มาจิมะเปลี่ยนตามใจชอบเท่านั้น พร้อมกับเพิ่มกิมมิคเล็ก ๆ น้อย ๆ เข้ามาอย่างการใช้ตะขอโซ่เกี่ยวขึ้นที่สูงเพื่อหาสมบัติที่ซ่อนอยู่อะไรแบบนั้น
สถานที่ใหม่อย่างเช่นเกาะริช กับแมดแลนติสนั้นก็ถือว่าเล็กมากถ้าเทียบกับแมปฮาวาย เพียงแต่ว่าสองสถานที่นี้ก็มีบรรยากาศที่ต่างออกไปพอสมควรครับ เกาะริชนี่ก็ให้ความรู้สึกเหมือนพวกเมืองชนบทที่มันจะโล่ง ๆ ไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจให้ทำ ส่วนแมดแลนติสนี่ก็แหล่งรวมอบายมุขทุกชนิด ดังนั้นภาพลักษณ์จึงดูเถื่อน ๆ และสกปรกให้ภาพลักษณ์ที่ต่างออกไปแบบชัดเจน
กราฟิก
ในส่วนของกราฟิกนั้น ผมคิดว่าก็ยังอยู่ในระดับที่ไม่ได้ต่างไปจาก Infinite Wealth มากนัก โมเดลเมืองและคนทำออกมาดูดีแต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นสมจริงสุด ๆ ยังดูมีความเป็นเกมอยู่ แต่ที่ต้องชมเลยคือพวกเอฟเฟกต์ต่าง ๆ ตอนต่อสู้ครับทำออกมาฉูดฉาดและสวยงามสะใจมาก สามารถรับรู้ได้ถึงความเร็วและรุนแรงในตอนโจมตีแน่นอน
เพลงประกอบ
สำหรับเพลงประกอบนั้นยอดเยี่ยมครับ ด้วยความที่เกมเป็นธีมโจรสลัด หลายเพลงก็เลยให้บรรยากาศยิ่งใหญ่อลังการคล้ายเวลาคุณดูภาพยนตร์โจรสลัดฟอร์มยักษ์ โดยเฉพาะในตอนต่อสู้ทางเรือ แต่ที่ประทับใจจริง ๆ ก็คงเป็นฉากเปิดเกมอย่างเป็นทางการครับ ทำเอาผมนึกว่ากำกับฉากโดยดิสนีย์เลยทีเดียว
สรุป
Like a Dragon Pirate Yakuza in Hawaii นั้น เป็นอีกหนึ่งภาคที่มีคุณภาพของแฟรนไชส์ครับ ถ้าคุณเป็นแฟนของแฟรนไชส์นี้อยู่แล้ว หามาเล่นกันได้เลย ถ้าใครชอบความหลุดโลกจากภาคอิจิบังล่ะก็คุณชอบภาคนี้แน่นอน และใครชอบมาจิมะจากภาค 0 ก็จะชอบภาคนี้เหมือนกัน ผมมีข้อตินิดหน่อยตรงที่ใช้แมปซ้ำกับกิจกรรมหลายอย่างที่ซ้ำของเดิมนี่ล่ะครับ แต่ในภาพรวมนี่คือการออกทะเลที่ถูกใจแน่นอน