Elden Ring Nightreign
หลังลองต้องบอกว่า…
*ขอขอบคุณ Bandai Namco Entertainment สำหรับโค้ดเพื่อการทดสอบ CNT ครั้งนี้ด้วยครับ
**พรีวิวนี้เล่นบน PlayStation 5
บอกตามตรงครับว่าตอนได้ยินคอนเสปของเกมนี้ที่แตกตัวออกมาจาก Elden Ring ผมนึกภาพไม่ออกว่ามันจะมาแนวไหน มันมีทั้งความ Roguelike ที่ใส่วงแหวนบีบแผนที่เข้ามา และมีคลาสตัวละครให้เลือกอีก
จนผมได้มาลองกับมือกับตาตัวเอง
เอาแบบเข้าใจง่าย ๆ Nightreign มันคือเกมออนไลน์ co-op ที่ใช้ผู้เล่น 3 คน มาลุยไปด้วยกัน ซึ่งในช่วงทดสอบเขาก็จะมีตัวละครให้เลือกก่อน 4 คลาส คือ Wylder, Recluse, Guardian และ Duchess
ถึงหลายคนอาจจะไม่ชอบที่มันเป็นตัวละครที่พรีเซ็ตเอาไว้แล้ว ไม่สามารถปรับแต่งแบบเต็มไม้เต็มมือได้ แต่ส่วนตัวขอชมนิดนึงว่าจากที่ลองมาทั้ง 4 แต่ละคลาสมีเอกลักษณ์และรูปแบบเกมเพลย์ที่ฉีกจากกันค่อนข้างชัด อยากทนมือทนเท้าหน่อยก็ไป Guardian อยากรัวคอมโบเน้นแทงหลังก็ไป Duchess อยากสายเวทก็ต้อง Recluse เท่านั้น แต่ละคลาสยังมีท่าไม้ตายและท่าอัลติเมทที่สามารถพลิกสถานการณ์ได้เลย (แอบสารภาพว่าช่วงแรกที่เล่นไม่ผ่าน เพราะไม่รู้จะกดท่าอัลติเมทยังไง)
เกมจะแบ่งหลัก ๆ ออกเป็น 2 เฟส คือช่วงเตรียมตัว (กลางวัน) ที่ปล่อยให้ทีมออกไปล่ามอน ล่าสมบัติ ล่าอาวุธ ล่า Trait อัปเลเวล แล้วเมื่อเข้าเฟสสอง (กลางคืน) วงแหวนไฟสีน้ำเงินจะบีบเข้ามาจนสุดท้ายมันจะเหลือแค่พื้นที่เล็ก ๆ ให้เราสู้บอสที่เกมสุ่มส่งมาให้ ถ้าชนะได้ คุณก็จะเป็นผู้มมีชีวิตรอดในค่ำคืนนั้น
พอฟังแล้ว หลายคนอาจจะรู้สึกว่าเกมจังหวะเร็วแบบนี้ มันจะเข้ากับ Elden Ring ได้ยังไง? มันไม่เข้ากันแน่นอนครับ แต่ทีมงานเขารู้เรื่องนี้ดีอยู่แล้ว เขาเลยไม่ได้เอาเมคะนิกของ Elden Ring มาดิบ ๆ แล้วโยนเข้าไปในเกม มันมีการบิด การทุบ ทำให้หลายอย่างมันเหมาะกับสภาพการเล่นที่เปลี่ยนไป สิ่งที่เห็นชัดเลยคือการบังคับตัวละคร เราสามารถวิ่งได้แทบจะตลอดเวลา ไต่หน้าผาแบบกระโดด 2 ชั้นได้ เวลาวิ่งพุ่งเข้าหาพรก็เติมเลือดเติมมานาอัตโนมัติ (ยกเว้นจะอัปเลเวล ยังต้องกดที่พรอยู่)
จุดที่ผมรู้สึกว่าเขาเข้าใจคิดก็คือเวลาเราหรือคนร่วมทีมโดนตบลงไปนอน ถ้าเป็นเกมอื่นเพื่อนจะเข้ามาช่วยทำท่าพยุงหรือทำท่ารักษา ไอ้เกมนี้ไม่ครับ วิธีช่วยคือเอาอาวุธทุบหัวเพื่อนที่กำลังคลานอยู่ ทุบจนกลับมายืนใหม่ได้ เข้ากับตีมมาโซคิสม์ของเกมดี
ส่วนที่ต้องคอมเมนต์จะมีตั้งแต่ในแง่ของสุนทรียะ นั่นคือถ้าคุณไม่เคยเล่น Elden Ring มาก่อน คุณก็อาจจะไม่ได้รู้สึกว่าการเอามอน เอามินิบอสจากเกมหลักมาวางสุ่ม ๆ มันขัดหูขัดตาเท่าไร แต่ถ้าเคยผ่านมือ Elden Ring มาแล้ว มันอดคิดไม่ได้จริง ๆ ว่า Nightreign เหมือนม็อดเกมหลักที่มีการลงทุนมากกว่าม็อดตามท้องตลาดทั่วไป
อีกจุดที่จะทำให้คนล่าถอยก็คือต้องเล่นเป็นทีม หลายคนถอยตั้งแต่ได้ยินว่ามันต้องเล่นแบบนี้เลย แล้วผมเองก็รู้สึกครั้งแรกที่ได้เข้าไปลองว่าไม่รู้จะจับต้นชนปลายตรงไหน มันก็เลยจะมีเหตุการณ์ที่แยกทางใครทางมัน บางทีก็วิ่งตามไอ้คนนึงไป แต่สุดท้ายก็จบที่นอนคว่ำร้องแอ๊ทีละคน ทีละคน
ต้องสักสองสามตาขึ้นไป ผมถึงพอจะเข้าใจว่าเกมมันต้องการจะสื่อสารฟีลแบบไหนออกมา ซึ่งมันก็สนุกในระดับนึง ถ้าได้เพื่อนร่วมทีมที่อาจจะไม่ต้องเก่งมาก แค่รู้ว่าเวลาไหนต้องทำอะไรก็พอ ส่วนพวกที่รวมกลุ่มกันแล้วสื่อสารกันดี น่าจะทำวิดีโอโชว์กลยุทธ์เจ๋ง ๆ ได้เยอะ
คำถามคือถ้าหน้าใหม่มาเล่น เกมจะสามารถกุมความสนใจของผู้เล่นให้ทนเรียนรู้และเจ็บตัวไปกับคนอื่นจนถึงจุดที่สามารถเล่นเป็นได้แค่ไหน เพราะขนาดคนเล่นเกมหลักมาเองก็ยังต้องมาทำความเข้าใจกับมันพอสมควร มันคือเกมจังหวะเร็วที่ขัดกับสันดานของเกมภาคแม่ของมันมาก
อีกเรื่องคือโปรเกรสชัน (ความก้าวหน้า) ของเกม นอกจากการได้สเตตัสแบบถาวรแล้ว เกมจะให้อะไรอีก? เพราะถ้าเป็นเกมอย่าง Hades การตายแล้วกลับมาแต่ละรอบ มันมี Progression มากกกว่าแค่ตัวละครเราเก่งขึ้น มันยังให้เราได้รู้เรื่องราวแง่มุมต่าง ๆ ของเกมมากขึ้นด้วย Nightreign จะเป็นแบบนั้นมั้ย? หรือมันก็จะเป็นแค่การสุ่มฉาก เพิ่มฉาก แล้วก็เอาบอสใหม่มาใส่ตอนช่วงสุดท้ายวนเวียนไป
สรุป หลังจากทดสอบ ผมพอเข้าใจแล้วว่าคอนเสปของ Nightreign มันหน้าตาเป็นยังไง แต่พูดตามตรงว่าเกมก็ยังซื้อใจผมไม่ได้ ด้วยคำถามตัวโต ๆ ทั้งเรื่องความท้าทายในการเป็นเกมออนไลน์ co-op และระบบโปรเกรสชันของมัน
ถ้ามีข่าวคราวข้อมูลเปิดเผยอีกในอนาคต ไว้จะมาประเมินใหม่อีกครั้ง
