![Monster Hunter Wilds – รีวิว [REVIEW]](https://thaigamewiki.com/wp-content/uploads/2025/02/Monster-Hunter-Wilds-Review-cover.jpg)
*ขอขอบคุณ Capcom สำหรับโค้ดรีวิวมา ณ โอกาสนี้ครับ
**รีวิวนี้เล่นบน PlayStation 5 Pro
แฟรนไชส์ Monster Hunter นี้ ปัจจุบันคงเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในเกมที่เปรียบเสมือนเสาหลักของ Capcom เลยก็ว่าได้ มีแฟนคลับติดตามมากมาย แถมยังทำรายได้ให้กับบริษัทเป็นกอบเป็นกำ ภาคสปินออฟก็มีและถูกนำไปดัดแปลงเป็นสื่อชนิดอื่นก็มากมาย ซึ่งภาคล่าสุดอย่าง Monster Hunter Wilds นี่ก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามีคนจำนวนมากมายมหาศาลรอคอยที่จะได้เล่นทั้งไทยและเทศ
ซึ่ง…ก่อนที่จะเข้าเนื้อหารีวิวนั้น ผมต้องออกตัวก่อนเลยว่าผมเป็นนู้บมาก ๆ เมื่อพูดถึงแฟรนไชส์นี้ หรือเอาง่าย ๆ ก็คือภาคนี้เป็นภาคแรกที่ได้เล่นเลยครับ ดังนั้นมุมมองของผมก็จะเป็นมุมมองของคนที่ไม่เคยมีความรับรู้อะไรใด ๆ เกี่ยวกับแฟรนไชส์นี้แบบลึกซึ้งมาก่อนเลยนะแบบรู้แค่ผิวเผิน ว่าแล้วเราก็เข้าเรื่องกันเลยดีกว่า
เนื้อเรื่อง
สำหรับเหตุการณ์ในภาค Monster Hunter Wilds นี้ เริ่มต้นเมื่อคณะสำรวจดินแดนต้องห้ามของสมาคมนักล่าจากทวีปฝั่งตะวันตก ซึ่งในขณะที่พวกเขากำลังสังเกตการณ์และเก็บข้อมูลเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมรวมถึงบรรดาสิ่งมีชีวิตพื้นถิ่นต่าง ๆ นั้น พวกเขาได้พบเข้ากับเด็กหนุ่มที่อ่อนแรงและล้มสลบอยู่ หลังจากที่ช่วยเหลือจนได้สติ เด็กหนุ่มผู้มีชื่อว่านาตะ (Nata) ก็ให้รายละเอียดว่าหมู่บ้านของเขานั้น โดนมอนสเตอร์ที่มีฉายาภูตสีขาว (White Wraith) เข้าโจมตี และเขาก็หนีรอดมาได้คนเดียวแบบไม่รู้ทิศรู้ทาง คณะสำรวจจึงได้ตัดสินใจช่วยตามหาหมู่บ้านของนาตะ และหาข้อมูลเกี่ยวกับเจ้าภูตสีขาวตัวดังกล่าวไปพร้อมกัน
เซ็ตติ้งของเกมนี้ค่อนข้างเป็นไปตามมาตรฐานของสื่อบันเทิงแนวออกเดินทางสำรวจดินแดนที่ยังไม่เคยมีใครค้นพบ หรือไม่เคยได้รับการสำรวจมาก่อนครับ ดังนั้นทุกอย่างที่ชาวคณะสำรวจรวมถึงนักล่าที่เป็นตัวละครแทนผู้เล่นได้พบเจอ ก็จะค่อนข้างเป็นสิ่งใหม่หมดในสายตาของทุกคน (เว้นพวกมอนสเตอร์บางตัวที่เป็นพวกขาประจำ) ซึ่งในแง่นี้ผมคิดว่าเกมนำเสนอออกมาได้ดี เวลาไปสถานที่ใหม่หรือพบเจอกับวัฒนธรรมใหม่ ๆ มันก็จะทำให้คนเล่นมีความรู้สึกร่วมไปกับตัวละครได้ง่ายอยู่ เพราะทั้งคนเล่นทั้งตัวละครต่างก็ได้เห็นกันเป็นครั้งแรกเหมือนกันครับ
บรรดาตัวละครสมทบต่าง ๆ ก็ออกแบบมาได้มีเอกลักษณ์และบุคลิกนิสัยที่โดดเด่นต่างกันไปชัดเจนอยู่ อัลมา (Alma) ที่คอยติดตามเราไปทุกที่ก็จะออกแนวหญิงจิตใจดีเรียบร้อยข้อมูลแน่น แต่ก็มีมุมโก๊ะ ๆ ของตัวเอง ส่วนเจ็มม่า (Gemma) ก็ออกแนวสาวลุยและค่อนข้างไฮเปอร์ถ้าได้เห็นอะไรที่เป็นวิทยาการหรือการสร้างสิ่งต่าง ๆ ฯลฯ และการที่ตัวละครนักล่าของเราในรอบนี้มีเสียงพากย์นี่ มันเลยทำให้ฉากเนื้อหาต่าง ๆ ดูมีชีวิตชีวามากขึ้นครับ ไม่ได้ยืนนิ่ง ๆ ผงกหัว แต่จะมีการพูดโต้ตอบซักถามพูดคุยกับคนอื่น ๆ ด้วย ทำให้ผู้เล่นดูมีส่วนร่วมกับเรื่องราวมากขึ้น
ส่วนตัวแล้วผมค่อนข้างชอบการนำเสนอเวลาเราต้องเจอกับมอนสเตอร์หลักแต่ละตัวในโหมดแคมเปญนะครับ แต่ละตัวมีฉากอินโทรที่ยิ่งใหญ่อลังการมาก ยังไม่นับว่าขนาดตัวของแต่ละตัวนี่บิ๊กเบิ้มทั้งนั้น มันเลยดูคุกคาม ดูอลังการและดูน่ากลัวสมกับที่เป็นมอนสเตอร์ซึ่งดุร้ายกันโคตร ๆ มาก ยิ่งพอภาคนี้ที่มีการใส่พวกฉากอีเวนต์เซ็ตพีซต่าง ๆ เข้ามาเป็นระยะมันเลยทำให้เกมดูมีความเป็นภาพยนตร์สูงกว่าภาคก่อน ๆ (เท่าที่เคยเห็นมาอะนะ)
เกมเพลย์
อันที่จริงในหัวข้อนี้ผมคิดว่าใครที่เป็นมือเซียนของ Monster Hunter ก็น่าจะพอรู้กันอยู่แล้วอะนะว่าเป็นยังไง เพราะงั้นผมจะข้ามไป…ล้อเล่น เอาเป็นว่าโดยแก่นแล้ว Monster Hunter Wilds คือเกมแอ็กชันที่มีองค์ประกอบความเป็นอาร์พีจีแบบไม่น้อยนั่นล่ะครับ
การที่คุณจะออกล่ามอนสเตอร์แต่ละตัวนั้น คุณก็ควรต้องเตรียมความพร้อมก่อนไปเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ผมคิดว่าถ้าใครเล่นแบบละเอียดยิบนี่ เกมก็มีขั้นตอนเตรียมความพร้อมสำหรับคุณเยอะมาก ทั้งการเลือกไอเท็มที่จะติดตัวไป การหาอาวุธที่จะรับมือกับมอนสเตอร์ตัวนั้น ๆ ได้ดี เซ็ตเกราะที่จะช่วยเสริมการป้องกัน (ทนไฟ, ทนสายฟ้า, ทนน้ำ ฯลฯ) การกินอาหารก่อนออกล่าเพื่อบัฟตนเองให้เต็มที่ มีอะไรต่อมิอะไรให้เตรียมตัวมากมาย หรือถ้าคุณขี้เกียจจะบุกไปลุยมันดื้อ ๆ เลยก็ได้ แค่ว่าโอกาสจะหลับแล้วโดนแมวลากกลับแคมป์ก็เยอะหน่อย
ลูปเกมเพลย์โดยรวมนั้น ผมรู้สึกว่าแฟรนไชส์นี้ (หรืออย่างน้อยก็ภาคนี้) ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นเกมสไตล์ Boss Rush ครับ ด้วยความที่เป้าหมายหลักส่วนใหญ่ของเควสต์คือการออกล่ามอนสเตอร์ตัวใหญ่ ซึ่งแต่ละตัวมีพฤติกรรมรวมถึงรูปแบบการโจมตีที่ต่างกัน การเล่นโดยรวมมันเลยจะเหมือนเป็นบอสไฟต์รัว ๆ ทั้งเกมและความสนุกก็อยู่ที่การพยายามจัดการพวกมันให้ได้นั่นล่ะครับ
เมื่อจัดการได้แล้วคุณก็จะได้วัตถุดิบต่าง ๆ เพื่อนำมาทำอาวุธใหม่ หรือชุดเกราะใหม่ ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติครับที่พอคุณจัดการมอนสเตอร์ตัวไหนไปแล้วก็จะยังได้วัตถุดิบมาทำของไม่ครบเซ็ต เพราะฉะนั้นการล่าครั้งเดียวไม่เคยพอและเกมก็จะกระตุ้นให้คุณล่าพวกมันซ้ำเพื่อสร้างเกราะให้ครบเซ็ตหรือทำอาวุธที่ต้องการ ซึ่งเกราะหลายเซ็ตนี่ก็เท่จริงจังชนิดที่ว่าของมันต้องมีน่ะครับ ส่วนจะเข้ากับธีมเกมหรือไม่นั่นไม่ใช่ประเด็น
ด้วยความที่เกมนี้มีอาวุธให้เลือกใช้ทั้งหมด 14 ชนิด ซึ่งก็มีวิธีใช้งานและจุดแข็งจุดอ่อนต่างกันแบบชัดเจนมาก เกมจึงเปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้ลองหาอาวุธที่จะเข้ามือตัวเองมากที่สุดไปใช้งาน ซึ่งก็แน่ล่ะว่าแต่ละประเภทก็มีสายการอัปเกรดของตัวเองเพียบ ดังนั้นถ้าใครที่เป็นเกมเมอร์สายคอมพลีชันนิสต์ที่แบบต้องเก็บทุกอย่างให้มันครบล่ะก็คุณใช้เวลากับเกมนี้กันไปยาว ๆ เป็นปีแน่นอน เพราะพวกอาวุธชุดเกราะหลายชิ้นนี่นอกจากใช้วัตถุดิบมอนสเตอร์ตัวไหนเฉพาะแล้ว บางครั้งอาจต้องใช้วัตถุดิบจากตัวอื่นเพิ่มเติมอีกต่างหาก
ในด้านของระบบต่อสู้นั้น จุดนี้ถ้าคนที่เล่นเกมแอ็กชันมาเยอะ ๆ แต่ไม่เคยจับแฟรนไชส์ Monster Hunter มาก่อนเลยอาจต้องปรับตัวเยอะมากเหมือนกันครับ เพราะว่าการเคลื่อนไหวของเราในเกมนี้มันจะต้องการ commitment หรือความตั้งใจของผู้เล่นสูง หมายความว่าอะไร? หมายความว่าถ้าคุณกดตีแล้วคุณรู้สึกว่าเฮ้ย ไม่ได้ว่ะ มอนฯมันพุ่งเข้าใส่ คุณจะกดกลิ้งหลบ…เกมไม่ยอมให้แคนเซิลอนิเมชันครับ คุณเหวี่ยงดาบไปแล้วดาบต้องเหวี่ยงให้สุด จะมาชักมือกลับแล้วกลิ้งหลบกลางคันไม่ได้ เพราะฉะนั้นการจะกดตีคุณต้องรับผลที่ตามมาเอง
อีกประการหนึ่งก็คือ เกมนี้จะไม่มีระบบล็อกเป้าให้คุณ เวลากดตี ตัวละครคุณหันหน้าไปทางไหนทิศทางอาวุธก็จะไปทางนั้น ไม่มีระบบช่วยเหลือที่จะหันเข้าหาเป้าหมายที่ใกล้ที่สุดให้คุณ ดังนั้นเหตุการณ์ตีวืดตีว่าวนี่เป็นเรื่องปกติของการเล่นครับ ถ้าจะหวดก็หาจังหวะที่หวดโดนชัวร์ ๆ ไม่งั้นก็หน้าหงายกันไปหรือไม่ก็ฟาดพื้นฟาดผนังเล่นให้เสียแรงเปล่า การออกล่าแต่ละตัวเลยมีองค์ประกอบการใช้กลยุทธ์ที่สูงมากเหมือนกัน
ไม่เพียงแค่นั้น แต่แอ็กชันสำคัญของตัวละครเราอย่างการฟื้นพลังนี่มันก็จำเป็นต้องรอจนจบโมชันการกระดกยาถึงจะเติมได้เต็มตามที่ควรจะเป็นครับ ถ้าในระหว่างที่กระดกยาอยู่คุณโดนหวดกลิ้ง หรือจะกลิ้งเองเพื่อหลบการโจมตีก็แล้วแต่ คุณจะเสียขวดยานั้นไปเลยแถมเติมได้ไม่ครบตามที่ควรจะเป็นด้วย เพราะฉะนั้นทุกการกระทำของคุณนี่คุณต้องคิดดี ๆ ก่อนว่าจะทำอะไรและทำแล้วมันจะได้ผลไหม
ส่วนตัวแล้ว ผมชอบระบบ Focus เพื่อโจมตีแผลของมอนสเตอร์ในเกมนี้ครับ นี่เรียกได้ว่าเป็นระบบที่ช่วยขัดจังหวะการโจมตีของมอนสเตอร์ได้ดีเลย นอกจากทำแดเมจได้หนักแล้วบางครั้งยังมีผลทำให้คุณทำลายหรือตัดชิ้นส่วนมอนสเตอร์ได้ทันทีเพื่อขจัดรูปแบบการโจมตีหรือเปลี่ยนพฤติกรรมของมันไปเลย แต่ก็เช่นกันอีกนั่นล่ะ ที่เกมไม่มีการล็อกเป้าดังนั้นการเล็งของคุณก็ต้องเล็งเอาเองให้แม่น ๆ แล้วหวดจุดอ่อนจึงจะเกิดประโยชน์สูงสุด
โดยหลัก ๆ แล้ว การสู้กับมอนสเตอร์หลักแต่ละตัวนี่มันจะมีความอลหม่านในระดับหนึ่ง ด้วยขนาดตัวที่ใหญ่ของพวกมันและท่าโจมตีที่กินวงกว้าง และในบางครั้งคุณก็จะเจอก่อกวนจากพวกบรรดามอนสเตอร์ตัวเล็ก ๆ ที่คอยเกะกะเรา ดังนั้นสัตว์พาหนะของเราอย่างเซย์เคร็ตนี่เรียกได้ว่าเป็นตัวช่วยชั้นยอดเลย ทั้งในการเดินทางไปหามอนสเตอร์ การล่าถอยเพื่อตั้งหลัก ถ้าจังหวะคับขันนี่การเรียกเซย์เคร็ตมาวิ่งทิ้งระยะแล้วกระดกยาหรือลับอาวุธให้คมคือสิ่งที่จะทำให้คุณรอดไปบู๊ต่อได้แน่นอน ซึ่งเกมก็ออกแบบมาให้คุณใช้ประโยชน์จากเซย์เคร็ตในลักษณะนี้ด้วยแน่นอนครับ
แมปในเกมนี้แต่ละแมปเรียกได้ว่ากว้างเอาเรื่องครับ ถ้าเดินเท้านี่วิ่งกันขาลากชัวร์ ๆ ซึ่งเซย์เคร็ตก็จะมาช่วยตอบโจทย์ในจุดนี้ และผมคิดว่าเกมนี้มีองค์ประกอบในแบบ Quality of Life ค่อนข้างเยอะอยู่ เพราะแมปกว้างจริง แต่แผนที่ในเกมก็บอกข้อมูลสำคัญให้เยอะ ทั้งวัตถุดิบในฉากที่เก็บได้ รวมถึงตำแหน่งของมอนสเตอร์ที่คุณต้องการล่า เรียกได้ว่าไม่ต้องกลัวจะหาทางไปไม่เจอ แถมยังตั้งแคมป์เฉพาะกิจในจุดที่กำหนดได้เพื่อเป็นจุดฟาสต์ทราเวลของคุณเอง (แต่มีโอกาสที่มอนฯทำลายแคมป์ได้นะ)
ในภาพรวมแล้ว ตัวเกมมันเรียกได้ว่ามีพลวัตสูงมากครับ ที่ทีมสร้างบอกว่าโลกในเกมเป็นโลกที่มีชีวิตก็เพราะพวกสิ่งมีชีวิตน้อยใหญ่มันมีพฤติกรรมของตนเอง มีถิ่นของตัวเอง เพราะฉะนั้นในตอนที่คุณรับเควสต์ล่าตัวไหนก็ตาม ในระหว่างเดินทางคุณอาจเจอเข้ากับมอนฯตัวอื่นแทนซึ่งคุณจะเข้าไปบวกก็ได้ หรือจะไม่ไปยุ่งกับมันก็ได้ สุดแท้แต่ว่าคุณรับมือไหวรึเปล่า
นอกจากนั้นแล้ว หลายครั้งที่เวลาคุณตีกับมอนสเตอร์ที่ต้องการอยู่ พอมันบาดเจ็บถึงจุดหนึ่งมันจะหนีไปจุดอื่นซึ่งก็เปิดโอกาสให้คุณพักหายใจหายคอ เตรียมของ เตรียมไอเท็ม และเมื่อคุณไล่ตามมันไปก็อาจได้เจอมอนฯที่คุณล่าอยู่ตีกับมอนฯตัวอื่นอยู่ เพราะมันทับถิ่นกัน ซึ่งคุณจะดูห่าง ๆ อย่างห่วง ๆ หรือเข้าไปหาโอกาสโจมตีเสริมเลยก็แล้วแต่ แค่ว่าทั้งหาง ทั้งหมัด ทั้งครีบ ฯลฯ นี่มันไม่เข้าใครออกใครนะครับ
ถ้าพูดแง่เกมเพลย์เพียว ๆ จากใจคนไม่เคยเล่นมาก่อน ก็ต้องบอกว่าช่วงแรกต้องปรับตัวเยอะมากครับ และอาจรู้สึกว่าเกมมันติด ๆ ขัด ๆ ไม่ทันใจ ขนาดจะตียังต้องกดตั้งอาวุธก่อน แต่พอเริ่มชินและเข้าที่แล้วนี่คือเกมที่สนุกและเพลินมาก เวลาเห็นเซ็ตเกราะไหนก็จะอยากคราฟต์ให้มันครบ ๆ แม้จะไม่ได้ใช้ก็ตามที
กราฟิก
หากพูดถึงกราฟิกแล้ว เกมนี้ก็สวยงามตามมาตรฐานของ RE Engine ครับ โมเดลตัวละครและเสื้อผ้าหน้าผมนั้นมีความสวยงามและละเอียดดูดี ในส่วนของสภาพแวดล้อมและแสงเงาก็ทำออกมางามมาก พวกต้นไม้ใบหญ้าในฉากนี่ทำให้ทุกอย่างมันดูมีชีวิตชีวาไปหมด แต่มันก็ยังมีโมเมนต์ที่พวกเท็กซ์เจอร์โหลดไม่ทันอยู่บ้างนะ
ทั้งนี้ทั้งนั้น สิ่งที่ต้องชมเลยจริง ๆ ก็ไม่พ้นพวกโมเดลอาหารในเกมนี้ครับ ทำออกมาน่ากินมาก ถ้าเล่นตอนดึก ๆ นี่แม้ไม่หิวก็จะรู้สึกอยากหาอะไรกินขึ้นมาแน่ ๆ ล่ะ
ระบบเสียง
เพลงประกอบของ Monster Hunter Wilds นั้นยิ่งใหญ่อลังการ สมกับความกว้างใหญ่ของแมปในฉากรวมถึงขนาดตัวของมอนสเตอร์ด้วย มันทำให้รู้สึกได้ว่าเรากำลังเจอกับสิ่งมีชีวิตที่มันขนาดใหญ่กว่าที่คนทั่ว ๆ ไปจะรับมือได้ไหวจริง ๆ การสู้กับแต่ละตัวมันเลยทรงพลังและดุเดือดมาก ส่วนพวกซาวด์ประกอบฉากก็สร้างบรรยากาศได้เยี่ยม พวกเสียงสายน้ำไหล เสียงฟ้าผ่า เสียงลมแรง อะไรพวกนี้มันเสริมกันได้ดีมากครับ
สรุป
Monster Hunter Wilds นี่เป็นเกมที่พอเล่นแล้วทำให้เข้าใจขึ้นมาว่าทำไมหลายต่อหลายบริษัทถึงได้พยายามสร้างเกมแนวจัดปาร์ตี้ออกล่ามอนฯ กันออกมาเพื่อขอชิงส่วนแบ่งการตลาดมานักต่อนักในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และก็ต้องยอมรับว่านี่คือเกมแฟรนไชส์ที่แตกต่าง เป็นตัวของตัวเองและคิดว่าก็คงยากที่จะมีใครมาทำได้เท่าเทียมครับ หากคุณไม่เคยเล่นคุณอาจต้องปรับตัวเยอะมากหน่อย แต่ถ้าปรับตัวได้แล้ว คุณจะเล่นได้ยาว ๆ เลยครับ