Previews Reviews

บันทึกยุทธภพแห่ง Burning Sword Death Sun – บทพรีวิวเกม เวอร์ชันเดโม

โดย Lnwza Papus

บันทึกยุทธภพแห่ง Burning Sword Death Sun

ณ ห้วงพสุธาแห่งเพลิงแค้น สวรรค์ลิขิตให้ยอดยุทธ์ถือดาบเพลิงออกผจญภัย ฝ่าดงหมอกแห่งอธรรม เพื่อทวงคืนความยุติธรรมให้แก่อาจารย์ผู้ล่วงลับไป

*ขอขอบคุณ Nomadic Games สำหรับโค้ด PC เพื่อการพรีวิว โดยสเปคเครื่องที่ใช้ทดสอบเป็นดังนี้ : Intel(R) Core(TM) i7-14700HX 2.10 GHz Ram 32 GB RTX4060

เนื้อเรื่อง

Burning Sword Death Sun หรือปิดบัญชีแค้น กระบี่โลกันตร์ พาคุณเข้าสู่โลกแอ็กชันแฟนตาซีสไตล์จอมยุทธ์จีนโบราณสมัย ดาบมังกรหยก แปดเทพอสูรมังกรฟ้า ตัวเอกของเกมคือ “จางอี้เซียน” จอมยุทธ์หัวหน้าพรรคมารหงเฉินผู้มีอดีตอันแสนเจ็บปวด ต้องแบกรับเปลวเพลิงแห่งความแค้นที่อาจารย์หลี่ซวนเหมา ของตนต้องมาตาย เขาต้องออกเดินทางเพื่อตามล้างแค้น “เกาเทียนฉี” คนที่สั่งสังหารอาจารย์ที่ฝึกสอนเขามาตั้งแต่เด็ก และบุกเผาบ้านจนวอดวาย

เกมเลือกเล่าเรื่องด้วยฉากแอ็กชันและภาพคัทซีน เนื่องด้วยยังไม่เปิดเผยทุกบทแห่งตำนาน ฉะนั้นเดโมที่ออกมาในเกมนี้ จะมีอยู่ 3 ด่าน ตัวหนึ่งเป็นจอมยุทธ์หน้ากากที่ใช้ดาบโซ่ตะขอ อีกตัวเป็นขุนพลร่างใหญ่ถือง้าวที่มีแรงฟาดอภิมหาโคตรแรง และตัวสุดท้ายจะเป็นใครไปไม่ได้ นั่นคือ “เกาเทียนฉี” จอมยุทธ์ชราผู้มีอาวุธเป็นเข็มพิษ ที่จะบินตามเสียบคุณเป็นห่าฝนไปจนสุดขอบจอ

เรียกได้ว่า ความมันส์ และอนิเมชั่นสุดอลังการระดับนี้ แทบรอไม่ไหวที่จะได้ฟาดหน้าบอส ๆ ของด่านต่อไปแล้ว!

เกมเพลย์

เกมนี้ถ่ายทอดวิชาต่อสู้ในรูปแบบมุมมองบุคคลที่สามด้วยวิถีทาง Hack and slash เมื่อเริ่มออกเดินทาง ระบบถ่ายทอดเคล็ดวิชา หรือ Tutorial จะเผยออกมาข้างจอ ถึงแม้ว่าบางครั้งมันจะขึ้นมาทีหลังเรากดใช้ไปแล้วก็ตาม…

เคล็ดวิชากระบี่ก็เข้าใจง่าย มีกระบวนท่าพื้นฐานฟันด้วยคีย์สามัญ และสามารถกดเพิ่มคอมโบได้ หรือหาก “แถบเพลิงกระบี่” เต็มเปี่ยม จักสามารถปลดปล่อยวิชากระบี่โลกันตร์!!! คือดาบเปลวเพลิงที่ฟาดฟันจนทั่วสะท้านจอ

ยัง! วิชาไม่หมดเพียงเท่านี้… พระเอกยังสามารถแยกร่างจู่โจม ฟาดซ้ำลงบนศัตรูด้วยร่างเงารวดเร็วในชั่วอึดใจ นอกจากนั้นพระเอกยังสามารถยิง “ฉี” ได้ เพื่อเป็นการโจมตีระยะไกล แต่!!! ต้องระวังให้ดี หากพลังปราณที่เป็นแถบสีฟ้าหมด มันจะดึงเลือดจากชีพจรมาทดแทน! ยิ่งยิงมาก ก็เสี่ยงตายก่อนศัตรูเสียเอง

ถ้าศัตรูถือโล่? อย่าหาญฟันมัน มันไม่สะทกสะท้าน! จงถอดใจจากวิชากระบี่ แล้วปลุก “ฝ่ามือมารอัคคี” เผาทะลุเกราะมันก่อน แล้วค่อยฟันซ้ำให้สิ้นซาก

เคล็ดการต่อสู้ที่ผู้เขียนโปรดปรานคือ ยามใดที่ศัตรูการ์ดแตกเส้นลมปราณสีครามจะปรากฏบนร่างมัน จงรีบกดใช้วิชา “ดูดลมปราณ” ให้ว่องไว มันคือการสูบเลือดจากศัตรูมาเติมชีพตนเองให้เต็มหลอดนั่นเอง

ในบางช่วงของการเดินทาง อาจต้องไต่เขา ปีนผา โดดผ่านชั้นหินใหญ่ อาจต้องตายซ้ำตายซาก ด้วยวิชาตัวเบาที่ยังอ่อนด้อยของผู้เขียน (แถมเกิดใหม่ยังเลือดลดอีก…บัดซบจริงๆ)

กลยุทธ์ยุทธภพต้องใช้เวลาศึกษาทำความคุ้นชินพอตัว ทุกการปะทะ มิใช่แค่ฟาดมั่ว เพราะต้องรู้จังหวะศัตรู บางท่าป้องกันได้ บางท่าป้องกันไม่ได้ ท่าที่ป้องกันได้ก็ต้องเล็งแพรี่ดีๆ เช่นบอสหัวเหม่งที่ฟาดโคตรแรง ถ้าเล็งไม่ดีก็ต้องไปเกิดใหม่ไกลลิบ ส่วน “เกาเทียนฉี” นั้น…หากหลบไม่ทัน โดนห่าฝนเข็มพิษของมัน ขอแนะนำให้วางกระบี่ หยิบบะหมี่ขึ้นมากินแทน เพราะรอดยากยิ่ง ตายสถานเดียว ต้องใช้วิชาตัวเบาวิ่งหนีหลบอย่างเดียว ผู้เฒ่าผู้นี้ยังชอบเหินเวหา เดี๋ยวบิน เดี๋ยวบิน เดี๋ยวบิน… แล้วเราจะฟันมันยังไง! นี่มันเป็นฉากแห่งการบังคับแพ้โดยแท้ (บัดซบจริง ๆ)

สรุปว่า ระบบการต่อสู้จะเน้นให้ผู้เล่นเข้าปะทะ หากต้องการทำลายการ์ด จะดูดลมปราณ จะจุดไฟดาบ หรือใด ๆ ต้องพุ่งเข้าบุกหน้า ซัดตรงอย่างเดียว แต่ปรับความยากได้หน่อยก็ดี คนไม่เชี่ยวเล่นเกมตะลุยฟันดะ นี่ผ่านโคตรยากเลย…

กราฟิกของเกม

หากจะกล่าวถึงความงามในยุทธภพนี้ ก็ต้องเอ่ยปากว่า “โคตรสวย!” ด้วยแรงขับของ Unreal Engine 5 ทำให้ภาพที่ออกมาสมจริง ป่าเขียวขจีเสมือนจริง ใบไม้ละเอียด ฝนสวย แสงสวย ลำธารน้ำละเอียดใส ดูสมจริงมาก งานออกแบบก็ถือว่าทำการบ้านมาดี บรรยากาศโดยรวมชวนให้นึกถึงยุคจีนโบราณ ทั้งแอมเบียนซ์ กลิ่นอาย และรายละเอียดที่ “ขลัง” ประกอบกับเส้นทางที่ดูซับซ้อน แต่เดินไปได้ ถือเป็นการออกแบบแผนที่ที่น่าสนใจ น่าเดินค้นหา สะกดใจให้ผู้เล่นอยากตะลุยเขา กระโจนตามเงา “จางอี้เสี้ยน” (แม้หลายครั้งจะโดดไม่ผ่านก็ตาม)

ในระหว่างเล่น คัทซีนโผล่ขึ้นมาหลายครั้ง ราวกับกำลังชมภาพยนตร์กำลังภายใน ม้วนตัว หมุนเวียน ฟาดฟัน เต็มอิ่ม
จังหวะที่ดูดลมปราณ ตัวละครลอยจะขึ้นกลางเวหาแล้วดูดด้วยวิชาตัวเบา อนิเมชั่นทำให้ไม่โดนดาเมจจากศัตรูตัวอื่น นอกจากนั้นยังเท่อีกด้วย
หรือฉากประจัญบานกับบอสหน้ากาก ที่เข้าฉากยื้อยุดดาบโซ่นี่ก็สวยจนดูเพลิน จนลืมว่าต้องกดต่อสู้ เลยเด๊ดสะมอเร่ไปสองรอบ
อาจจะมีติดอยู่นิดหน่อย เวลาพระเอกสู้แล้วร้อง “ย๊ากกก” หน้าพี่แกนิ่งมาก …ปากไม่อ้าเลย จะเข้มไปไหน รึว่าต้องคีพลุค เดี๋ยวอ้าปากมากจะหลุดคาร์แรกเตอร์หนุ่มตี๋สุดคูล

งานเสียงของเกม

ในใต้หล้านี้เสียงประกอบเป็นอีกหนึ่งจุดแข็งที่ควรกล่าวถึง หรืออาจเรียกได้ว่า เป็นจุดขายของเกมเลยก็ว่าได้ที่ใช้เสียงพากษ์จากทีมพันธมิตร อาทิ น้าติ่ง น้าโต๊ะ มาให้ชีวิตชีวากับตัวละคร ซึ่งถ้าลองเปลี่ยนเสียงเป็นภาษาอังกฤษจะไม่ได้ฟิลชอว์ บราเธอร์ไปเลย แต่ด้วยความโดดเด่นสุดขั้ว ก็อาจเป็นข้อบกพร่องสุดขีดได้เหมือนกัน เพราะก็มีความสงสัยว่า ชาวต่างชาติ เค้าจะได้รับความอิมเมอร์ซีฟวิถีเด็กหนวด สำนึกรักปี 90 ได้แบบคนไทยรึเปล่า
มาในส่วนของดนตรีประกอบ ถูกออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน แฝงชั้นเชิงที่เป็นเอกลักษณ์ของบอสด่านต่างๆ ได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะเพลงประกอบของฉากเกาเทียนฉี่นี้ ให้ความรู้สึกเป็นเซียนมารมากๆ ขึ้นมาคีย์แรกผู้เล่นก็สัมผัสได้ว่า “อา…ลางร้ายมาเยือน”

สรุป

Burning Sword Death Sun เป็นเกมแอ็กชันแฟนตาซีที่ผสมผสานบรรยากาศแบบจีนโบราณกับระบบเกมเพลย์ได้อย่างลงตัว เนื้อเรื่องอาจไม่ได้อัดแน่นยืดยาว แต่มีระบบต่อสู้ที่ท้าทาย กราฟิกและเสียงประกอบที่ตรึงอารมณ์และมีเอกลักษณ์ด้วยเสียงพากษ์ที่คุ้นเคย ทำให้เกมนี้เหมาะกับผู้เล่นที่ชอบเกมแนว Hack and slash และมีระดับความยากพอสมควร หากคุณกำลังมองหาเกมที่ให้ความรู้สึก “ยุทธจักรแห่งจอมยุทธ์” ไปพร้อมกับ “เผาผลาญศัตรูอย่างสุดมันส์” Burning Sword Death Sun คือเกมที่ควรลองเล่นซักครั้งแน่นอน (คลิกไปหน้าสตีมเกม Burning Sword Death Sun)

ดาบหนึ่งเล่มแฝงเพลิงเผาเงามืด
ผ่านเลือดหยดหยาดยื้อทุกชะตา
แสงตะวันล่มฟ้าไร้เมตตา
เงาแห่งข้า…ล้างยุทธภพทั้งแผ่นดิน”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ข้ามไปยังทูลบาร์