Reviews

Yasha: Legends of the Demon Blade – รีวิว [REVIEW]

by Reviewer Ocelot

Yasha: Legends of the Demon Blade – รีวิว [REVIEW]

Yasha: Legends of the Demon Blade – รีวิว [REVIEW]

Yasha Legends of the Demon Blade คือเกมแนวโรกไลท์ที่จะให้คุณเลือกตัวละคร 3 ตัว มาใช้เล่น ก็คือนางเอกขึ้นปก Shugura, ปิศาจสาวเตี้ยแบนจากนรก Sara และพี่เสือพลธนู Taketora ทั้งหมดต้องออกผจญภัยในดินแดนที่ได้แรงบันดาลใจมาจากญี่ปุ่นช่วงยุคเอโดะ เพื่อปราบจิ้งจอกเก้าหางและเปิดเผยความลับที่สำคัญต่อความหมายในชีวิตให้ได้

ถ้าให้พูดตามตรงคอนเสปต์ของเกมนี้ก็ไม่ใช่อะไรใหม่ทั้งในแง่เนื้อหาและเกมเพลย์ ยิ่งถ้าคุณเคยผ่านเกมอย่าง Hades มาแล้ว ไม่ต้องจับมือก็น่าจะเล่นได้ตั้งแต่ 20 นาทีแรก หัวใจของเกมแนวนี้ก็คือการวิ่งวนผ่านด่านซ้ำรอบไปมา ผู้เล่นจะเจอกับศัตรูที่ท้าทาย เรียนรู้ แล้วกลับมาพร้อมความสามารถที่ดีขึ้น จนกว่าจะผ่านได้จริง ๆ

สิ่งที่จะแบกให้ผู้เล่นทำซ้ำสิ่งเดิมไปเรื่อย ๆ นอกจากความอยากเอาชนะและการปลดล็อกความสามารถ, อาวุธชิ้นใหม่ ๆ แล้ว มันต้องมีเนื้อเรื่องที่จับใจชวนติดตาม การปะทะบอสแต่ละรอบจะมีบทสนทนาความพิเศษต่างกัน การสร้างบิลด์ได้อย่างหลากหลาย และความลับที่จะค่อย ๆ เผยตัวออกมาเมื่อคุณเล่นเกมไปหลายรอบ

นั่นทำให้ผมต้องแสดงความเสียใจว่า Yasha ไม่สามารถทำสิ่งเหล่านั้นได้ดีพอ ถ้าเปรียบเป็นการสอบก็คือเกือบจะตกแล้ว

ว่ากันในส่วนของเนื้อเรื่อง จุดขายและจุดที่ทำให้เกมหลุดโฟกัสก็คือการให้เราเล่นตัวละคร 3 ตัว ซึ่งในตอนแรกผมเข้าใจว่ามันจะเป็นเนื้อเรื่องเดียวกันแค่มองต่างมุม แต่พอได้เล่นจริงมันคือการสร้างเรื่องราวใหม่ให้ตัวละคร 3 ตัว ถ้าคนไหนได้เป็นตัวเอก ตัวละครสมทบคนอื่น ๆ ก็จะได้รับบทบาทแตกต่างกันไป ส่วนหน้าตายังเหมือนเดิม (พูดไปก็เหมือนอยู่คนละมัลติเวิร์ส)

ถ้าฟังแบบนี้ก็เหมือนจะท้าทายดี เพราะมีถึง 3 ตัวละคร 3 เรื่องราว แต่ปัญหาก็อย่างที่เดากันได้ครับว่า เมื่อมันต้องเล่า 3 เรื่องราวแยกกัน ด้วยทุนและเวลาที่น้อยหรืออะไรก็ตามแต่ ความอินและความน่าติดตามมันก็ขาดช่วงไป แถมแก่นเรื่องมันก็เป็นอะไรที่ใช้กันมาเยอะแล้ว อย่างการเป็นผู้ที่ถูกเลือกแล้วต้องออกต่อสู้เพื่อค้นหาตัวตนที่แท้จริงและอดีตของตัวเอง

แต่ไม่เป็นไร… เพราะถึงจะเป็นตีมที่ใช้กันมาตลอด ถ้าเล่าออกมาดีแถมมีระบบต่อสู้ที่หลากหลายและบอสเด่น ๆ ก็ไม่มีปัญหา นั่นคือความคาดหวังของผมในตอนแรก ถึงแบบนั้น Yasha ก็ไม่สามารถทำให้ความหวังของผมเป็นจริงได้

กลิ่นของเกมเริ่มบอกอาการไม่ดีตั้งแต่ผมจบรันครั้งที่ 2 นั่นคือมันแทบจะไม่มีอะไรแตกต่างกันเลยนอกจากการเล่าเรื่อง คุณเจอกีกี้หรือบอสตัวไหน คุณก็จะได้เจอกับพวกมันเหมือนเดิมไปเรื่อย ๆ ด้วยบทสนทนาที่แตกต่างกันสักรอบสองรอบ มูฟเซตท่าโจมตีก็เดิม ๆ

เป็นหน้าที่ของเราเองที่จะทำให้เกมรู้สึกแปลกแตกต่างด้วยการเลือกอาวุธคุณสมบัติอื่น ๆ มาลองจับผสมทำคอมโบกันไปมา เช่น การใช้ดาบที่โจมตีหนักได้อย่างเดียวของ Shigure หรือการแดชไวสร้างความเสียหายรวดเร็วและฉับพลันของ Sara

อย่างที่ผมเคยบอกไปในพรีวิวก่อนว่า ถึงตัวละคร 3 ตัว จะมีรูปแบบการโจมตีต่างกัน แต่คุณจะใช้เวลาไม่นานเลยในการสังเกตว่าเมคะนิกหรือแกนกลางของระบบต่อสู้มันไม่ได้โดดเด่นเฉพาะตัวขนาดนั้น มันคือเกมที่เน้นแดช โจมตี แพรี ถ้าคุณเลือกใช้ Shigure ก็จะเน้นจุดขายที่การใช้กระบวนท่าดาบสองรูปแบบ Sara เน้นแดชและความไว ส่วน Taketora เน้นการตีระยะไกลแถมด้วยการอัดศัตรูระยะใกล้ได้รุนแรง

ถึงอาวุธของสามตัวละครจะดูเยอะ แต่เอาเข้าจริงมันไม่ได้หลากหลายขนาดนั้น เพราะในช่วงจบแต่ละด่านที่เกมจะให้เราเลือกพรมาเสริมพลังอาวุธ พรก็จะมีลักษณะซ้ำซ้อนไปมาและหลายครั้งก็อัปเลเวลจนตัน เช่น พรที่เสริมพลังการโจมตีเบา ถ้าเน้นลงแต้มอัปไปบ่อย ๆ บางครั้งก็อัปต่อไม่ได้แล้ว ต้องเอาพรไปลงกับความสามารถอื่นที่เราอาจไม่ได้ใช้มันเยอะขนาดนั้น แต้มต่อที่คิดว่ามี 3 ตัวละคร แล้วจะมีความหลากหลายเยอะ จึงไม่เป็นความจริง

เรื่องคุณภาพของระบบต่อสู้ยังพอรับได้ อย่างน้อยมันก็ใช้ฆ่าเวลาได้เพลิน ๆ ผมคิดว่าปัญหาของเกมนี้จริง ๆ มันหนักไปทางปริมาณมากกว่า ก็คือความหลากหลายของอาวุธน้อย เวลาเล่าเรื่องแต่ละคนน้อย ศัตรูน้อย บอสน้อย ถ้าให้นับบอสที่เพิ่มเข้ามาในเกมเต็มเทียบกับพรีวิวก่อนหน้า ก็คือเพิ่มมาประมาณ 3 ตัว เท่านั้น

นอกจากงานอาร์ตที่ตั้งใจเจาะจงกลุ่มเป้าหมายแล้ว Yasha Legends of the Demon Blade ไม่ได้เป็นอะไรมากไปกว่าแค่ Hades ที่บ้าน ระบบต่อสู้ที่ให้ความสุขแบบฟาสต์ฟูด เป็นเกมที่กระโดดลงมาแข่งในสนามโรกไลท์และก็จากไปอย่างรวดเร็ว อดคิดไม่ได้ว่าเกมจะมีแนวทางที่ทำให้มันไปได้ไกลกว่านี้ ถ้ามันไม่ตั้งโจทย์ว่าจะต้องให้เล่นตัวละคร 3 ตัว แล้วก็สร้างเนื้อเรื่องแยก (ซึ่งเนื้อเรื่องก็ไม่ได้มีความน่าสนใจในตัวมันเองด้วย)

แต่ถามว่ามันเป็นเกมที่เลวร้ายขนาดนั้นมั้ย ก็พอจะกล้อมแกล้มบอกได้ว่าไม่ถึงขนาดนั้น มูฟเซตของบอสทุกตัวถูกออกแบบมาดี อย่างน้อยมันก็พอแสดงให้เห็นว่าทีมงานนี้มีของอยู่บ้าง ถ้าพวกเขามีทุนทั้งเวลาและเงินมากกว่านี้ในการลงลึกระบบต่อสู้และเนื้อเรื่อง เราอาจจะได้เกมโรกไลต์ตะลุยแดนเอโดะแฟนตาซีที่แนะนำคนอื่นได้อย่างเต็มปาก

The Review

50% เพลิน ๆ ถือซะว่าเป็น Hades ที่บ้าน

50%

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ข้ามไปยังทูลบาร์