Games News Reviews

Once Upon A Katamari – รีวิว [REVIEW]

โดย G-jang

Once Upon A Katamari – รีวิว [REVIEW]

*ขอขอบคุณ Bandai Namco Entertainment สำหรับโค้ดรีวิวมา ณ โอกาสนี้ครับ
**รีวิวนี้เล่นบน PlayStation 5

สำหรับ Once Upon a Katamari นี้คือเกมภาคล่าสุดในแฟรนไชส์ Katamari ที่ขึ้นชื่อเรื่องความเพี้ยน ความประหลาด และความฮาทั้งในแง่การนำเสนอและดีไซน์บรรดาตัวละครครอบครัวของราชาจักรวาลที่จะชวนให้สงสัยว่านี่มันตัวอะไรกันนะ? เกมแฟรนไชส์นี้วางจำหน่ายภาคแรกในปี 2004 บน PS2 แล้วก็มีการออกภาคใหม่รวมถึงภาครีมาสเตอร์เรื่อยมา จนกระทั่งภาคล่าสุดนี้เอง


เนื้อเรื่อง

คอนเซปต์และจุดเริ่มต้นของเกมก็ยังคงคล้าย ๆ กับภาคก่อนหน้านี้ครับ คือเกิดเหตุที่ทำให้ดวงดาวมากมายในจักรวาลมีอันต้องบึ้มไปด้วยความพิเรนทร์และเผลอเรอของราชาแห่งจักรวาล ซึ่งรอบนี้พี่แกทำความสะอาดบ้านแล้วเจอคัมภีร์เก่าก็เลยโยนเล่นขึ้นฟ้าก่อนที่คัมภีร์จะทำลายดาวเอยอะไรเอยไปหมด ภาระก็เลยตกมาอยู่ที่ตัวผู้เล่นซึ่งเป็นเจ้าชายต้องทำหน้าที่กลิ้งคาตามาริไปตามยุคสมัยต่าง ๆ ในคัมภีร์ที่บรรจุความทรงจำของจักรวาลเอาไว้เพื่อสร้างโลกและดวงดาวต่าง ๆ ในจักรวาลขึ้นใหม่อีกรอบ

เซ็ตติ้งนี่ก็เพี้ยนและบ้าบอแบบไม่ต้องไปหาเหตุผลอะไรแล้ว พูดง่าย ๆ คือเกมเน้นความฮาและความเพี้ยนเป็นหลัก พวกบทสนทนานี่ก็ติงต๊องไม่แพ้กัน (ในแง่ดีนะ) อย่างตัวราชานี่ก็เป็นประเภทตัวฮาแต่หน้านิ่งน่ะครับ อย่างเวลาคุณเริ่มแต่ละฉากพี่แกก็จะเป็นคนพูดอธิบายว่าฉากนั้น ๆ คุณต้องทำอะไร แต่ถ้าคุณไม่ฟังแล้วเริ่มไถคาตามาริเลย พี่แกจะทำหน้าช็อกแล้วพูดทำนองว่า มันเริ่มแล้วสินะที่เราโดนเมิน เราเริ่มจะกังขาในสถานะของตนเองเสียแล้วสิ อะไรแบบนั้น


เกมเพลย์

ในส่วนของเกมเพลย์เองก็เรียบง่ายครับและนำเสนอในรูปแบบที่ไม่ต่างกับภาคก่อน ๆ นั่นคือคุณจะต้องบังคับก้อนคาตามาริโดยใช้อนาล็อกทั้งสองข้างซ้ายและขวาในการควบคุม และเป้าหมายในแต่ละฉากของคุณโดยหลักก็คือการกลิ้งก้อนคาตามารินี่ไปทับวัตถุหรืออะไรก็ตามเพื่อทำให้กลายเป็นก้อนใหญ่ขึ้น และใหญ่ขึ้น และใหญ่ขึ้นไปอีก เพียงแค่ว่าบางฉากอาจจะมีเงื่อนไขพิเศษเพิ่มเติม เช่น ทำให้คาตามาริมีไซส์ที่กำหนดภายในเวลาจำกัด หรือกลิ้งเฉพาะวัตถุประเภทที่ระบุในฉากนั้น ๆ เป็นต้น ซึ่งในฉากก็จะมีพวกไอเท็มอื่น ๆ ซุกซ่อนให้คุณตามหาและไล่เก็บอยู่

จุดเด่นประจำภาคนี้ผมคิดว่าก็คงไม่พ้นเซ็ตติ้งที่จะให้คุณตระเวนไปในฉากต่าง ๆ ที่อ้างอิงยุคสมัยที่แตกต่างกันทั่วโลกนี่ล่ะครับ เช่น เอโดะยุคโบราณ ที่บ้านเรือน ผู้คนและวัตถุก็จะมาแนวญี่ปุ่นโบราณ (แต่ผสมความเพี้ยนตามสไตล์เกม) หรือยุคคาวบอย แม้แต่ยุคจูราสสิก เป็นต้น โดยในแต่ละยุคนั้น คุณจะเปิดฉากใหม่ ๆ ออกมาเล่นได้เมื่อเก็บบรรดามงกุฎที่กระจัดกระจายตามฉากต่าง ๆ ได้ถึงจำนวนที่เกมกำหนด มันเลยมีแรงจูงใจให้เล่นซ้ำฉากเก่าได้เยอะอยู่ ไม่ว่าจะเพราะคุณอยากทำแรงก์ให้ดีขึ้น หรือไล่เก็บมงกุฎ ไล่หาไอเท็มปรับแต่ง หรือหาบรรดาญาติ ๆ ที่จะมาเป็นสกินให้คุณเปลี่ยนก็ตาม

ถึงแม้ว่าเกมเพลย์จะดูไม่มีอะไรให้คิดเยอะ แต่เอาเข้าจริงถ้าจะเล่นให้ได้แรงก์ดี ๆ ในแต่ละฉากก็ต้องอาศัยการวางแผนระดับหนึ่งครับ เพราะว่าวัตถุ (หรือสิ่งมีชีวิต) ที่ขนาดใหญ่กว่าก้อนคาตามาริของคุณมาก ๆ นี่คุณกลิ้งทับไม่ได้ เลยต้องอาศัยเก็บพวกชิ้นเล็กชิ้นน้อยเพื่อทำให้ก้อนใหญ่ขึ้นเสียก่อน มันก็เลยมีองค์ประกอบในแง่การวางแผนว่าภายในเวลาจำกัดของฉากนี่คุณควรไปไหนก่อน แล้วจะย้อนกลับมากลิ้งเก็บชิ้นใหญ่กว่าตอนไหนอะไรทำนองนั้น โดยในฉากก็จะมีพวกไอเท็มที่เรียกว่า Freebies ให้คุณใช้งานเพื่อความสะดวกอย่างเช่นแม่เหล็กดูดวัตถุรอบ ๆ ตัวมั่ง นาฬิกาหยุดเวลามั่ง อะไรแบบนั้น

โดยรวมแล้วเกมแฟรนไชส์ Katamari นี้เป็นเกมที่เล่นได้เพลิน ๆ มีบรรยากาศรีแลกซ์ เล่นได้แบบไม่ต้องเครียด (เว้นแต่ถ้าคุณจะเก็บความสมบูรณ์) และผมคิดว่าอารมณ์ขันของเกมนี้เป็นอะไรที่เข้าถึงง่ายสำหรับคนทุกเพศทุกวัยด้วยนะ


กราฟิก

กราฟิกของเกมนี้ยังคงนำเสนอในสไตล์ของตัวเอง คือเน้นความเป็นการ์ตูนที่น่ารัก ชวนฮาและสีสันจัดจ้าน ซึ่งก็สมกับสไตล์การเล่นของเกมครับ ทุกอย่างเน้นความเรียบง่าย ดูง่ายและชวนให้สนุกเป็นหลักและไม่มีอะไรที่ซีเรียสจริงจังเลย


เพลงประกอบ

ผมคิดว่าสิ่งที่โดดเด่นอย่างหนึ่งของเกมแฟรนไชส์นี้ก็คือเพลงนี่ล่ะครับ เพลงประกอบหลายเพลงจะเป็นเพลงที่มาพร้อมเสียงร้อง ซึ่งทุกเพลงก็จะมีจังหวะที่สนุกสนานให้คุณได้กลิ้งคาตามาริได้อย่างเพลิน ๆ ในแต่ละฉาก ถ้าจะให้อธิบายก็คงบอกได้ว่าคล้ายเพลงงานเทศกาลรื่นเริงนั่นล่ะครับ


สรุป

Once Upon a Katamari ยังคงเป็นเกมในแฟรนไชส์ที่เล่นง่าย ไม่มีอะไรซับซ้อน และให้บรรยากาศสนุกสนานรื่นเริงเหมือนเคย หากคุณเคยเล่นภาคก่อน ๆ แล้วชื่นชอบก็จะยังชอบภาคนี้ไม่ต่างกันครับ แต่หากคุณคาดหวังอะไรใหม่ ๆ หรือการพัฒนาก้าวกระโดดก็จะยังไม่ได้เห็นนะ

The Review

80% กาลครั้งหนึ่ง คาตามาริมาแล้ว

Once Upon A Katamari ยังคงเป็นเกมในแฟรนไชส์ที่เล่นได้สนุกเพลิน และมีเพลงประกอบที่เยี่ยมยอด เพียงแต่อาจจะไม่ได้มีด้านใดที่พัฒนาก้าวกระโดดมากนัก ถึงอย่างนั้นนี่ก็ยังคงเป็นเกมที่เหมาะกับทุกเพศทุกวัย

80%

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ข้ามไปยังทูลบาร์