Reviews

DEAD ISLAND 2 – รีวิว [REVIEW]

โดย ปอลนาโช่

รีวิว DEAD ISLAND 2

*ขอขอบคุณบริษัท PLAION และ Ripples TH สำหรับโค้ดเพื่อการรีวิว โดยรีวิวนี้เล่นบน PS5

ผมเฝ้ารอคอยเกมภาคต่อของ Dead Island มาเป็นสิบปีครับ! ใช่แล้ว ผมคือแฟนเกมนี้เมื่อสมัยเกมภาคแรกออกวางจำหน่ายในปี 2011 เพราะผมชอบเกมหรือหนังที่เกี่ยวกับซอมบี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว โดยหลังจาก Dead Island ก็มีเพียง Dying light (ภาค 1) เท่านั้น ที่ผมถือว่าทำได้ดีพอกัน เล่นแล้วถูกใจ สะใจ เล่นได้หลายรอบ

ทว่า ในช่วงเวลาสิบกว่าปีที่ผ่านมา ชื่อของ Dead Island ตกเป็นข่าวดราม่ามากมาย เกี่ยวกับเรื่องการเปลี่ยนทีมพัฒนาไปมาหลายเจ้าวุ่นวายไปหมด โดยผมจะไม่ยกประเด็นนั้นมาพูดถึงตรงนี้ เพราะเป็นเรื่องเก่าไปหมดแล้ว เอาเป็นว่าล่าสุดตัวเกม Dead Island 2 จากฝีมือของทีมงาน Dambuster Studios ณ นอตติงแฮม ประเทศอังกฤษ ก็กำลังจะวางจำหน่ายให้ได้เล่นกัน และผมก็ได้เล่นเกมล่วงหน้าไปจนจบเกมหนึ่งรอบถ้วน ใช้เวลาไปประมาณ 25 ชั่วโมง ซึ่งขอบอกเลยว่า คุ้มค่ากับเวลาสิบปีที่รอคอยจริง ๆ

โดยขออธิบายเป็นข้อ ๆ ให้ทราบกันดังนี้

STORY

พล็อตเริ่มเรื่องของเกมนี้เริ่มจาก เกิดวิกฤตเชื้อซอมบี้ร้ายแรงแพร่ระบาดไปทั่วลอส แองเจลิส เปลี่ยนผู้คนให้กลายเป็นผีดิบกระหายเลือด ทั้งเมืองตกอยู่ในการกักกันและกองทัพก็ล่าถอยไปแล้ว คุณถูกกัดและติดเชื้อ แต่ว่าไม่เพียงแค่มีภูมิคุ้มกันเท่านั้น เพราะคุณยังสามารถใช้พลังอันแปดเปื้อนที่ไหลเวียนอยู่ในร่างได้ โดยมีเพียงคุณและกลุ่มคนลึกลับอีกเพียงหยิบมือเท่านั้นที่ดันมีภูมิต้านทานเชื้อ ซึ่งจะเป็นผู้ที่กุมอนาคตของลอส แองเจลิส (และมนุษยชาติ) เอาไว้ คุณเกิดมาเพื่อสิ่งนี้!

นั่นล่ะครับ เริ่มต้นมาก็เข้าสู่ความชิบหายกันเลย เมื่อคุณโดนกัดตั้งแต่ฉากเปิดเกม และไม่มีไรจะเสียแล้ว ออกไปบู๊ให้มันเดือด ๆ ไปเลยดีกว่า!

คือกับประเด็นเนื้อเรื่องเนี่ย ผมจับใจความได้สองหัวข้อใหญ่ ๆ นั่นคืออย่างแรก ทีมงานเขาเข้าใจกำหนดทิศทางให้กับการเดินเรื่องได้ดี ถูกใจผู้เขียนมาก ในแง่ที่ว่า เขากำหนดให้บรรดาผีลืมหลุมในเกมนี่แหละ คือศูนย์กลางของเรื่องทั้งหมด มันจะไม่มีพล็อตประเภท…มนุษย์ฝ่ายนู้นฝ่ายนี้ แบ่งพรรคแบ่งพวกแล้วมาตีกันเอง แบบบรรดาซีรีส์ผีดิบหลายเรื่อง เพราะเอาเข้าจริง ๆ ปัญหาใหญ่ในวิกฤตลักษณะนี้ ก็คือการเอาชีวิตรอดจากซอมบี้ให้ได้นี่แหละ “ที่สำคัญที่สุด”

การต้องหาเสบียง การช่วยผู้คนที่อ่อนแอ การค้นหาอาวุธ และหนทางหลบหนีออกจากเมือง ฯลฯ เหล่านี้แหละ คือพล็อตที่ควรเป็นแกนหลักของเกมหรือหนังซอมบี้

ประเด็นที่สองก็คือ เอาเข้าจริง ๆ ระยะเวลาที่เกิดขึ้นในเกมมันสั้นมาก ทำให้เกิดชุดเหตุการณ์ไม่ค่อยเยอะ จนเมื่อเล่นจบอาจรู้สึกว่า พัฒนาการของเรื่องราวมันขยับไปได้ไม่เท่าไหร่ ดูไม่อลังการเท่าที่ควร เหมือนหนังภาคต้นในไตรภาค ซึ่งผมเดาแบบแม่น ๆ ไว้ก่อนเลยว่า ต้องมีพวก DLC เนื้อเรื่องตามออกมาอีกเยอะแหง ๆ

ทีนี้มาว่ากันด้วยเรื่องตัวละครที่คุณเลือกได้ ซึ่งผมบอกไว้ก่อนเลยว่า เวลาคุณเลือกเล่นคนไหน จะต้องเป็นคนนั้นไปจนจบเกม ไม่มีเปลี่ยนได้กลางทาง และที่สำคัญคือ แต่ละราย จะมีทัศนะคติ, บทสนทนา, ค่าพลังพื้นฐาน และสกิลความสามารถ แตกต่างกันอย่างมาก ทำให้เกมนี้เล่นได้หลายรอบโดยให้บรรยากาศที่ต่างกันชัดเจน ผมขอยืนยันครับ

โดยทั้ง 6 คนได้แก่ – Dani สาวแสบจาก County Cork ในไอร์แลนด์, Jacob หน้าตาคล้ายเลนนี คราวิตซ์ ผสมกับปริ๊นซ์ เขาอยากเป็นสตั๊นท์แมนฮอลลีวูด…แต่ฝันสลาย(หรือเป็นจริงก็ไม่รู้) เพราะต้องมาเจอกับวิกฤตซอมบี้ถล่มแอลเอซะงั้น, Ryan นักเต้นระบำเปลื้องผ้าที่สวมรอยเป็นนักดับเพลิง ที่กำลังออกตามหาน้องชายคนเล็กที่ถูกทิ้งไว้ในเฟรสโน ก่อนเกิดโรคระบาด

Amy นักกีฬาพาราลิมปิกผู้เฉลียวฉลาด จุดเด่นของนางก็คือ นางจะมีสติสัมปชัญญะที่มั่นคง มีสมาธิ และสงบแน่วแน่, Bruno เป็นจอมวางแผน เขามักจะซ่อนทักษะการใช้มีดที่ร้ายกาจไว้เบื้องหลังเสน่ห์แบบชาวแคลิฟอร์เนีย และคนสุดท้าย Carla นางเป็นนักขี่มอเตอร์ไซค์ผาดโผน เธอพร้อมรับมือกับทุกหายนะในเมือง HELL-A แห่งนี้

GAMEPLAY

ในส่วนของเกมเพลย์นี่มีหลายประเด็นให้ผมพูดถึงเยอะเลยครับ ขอเริ่มต้นจาก Skill Cards หรือการ์ดทักษะ ซึ่งแบ่งย่อยออกเป็นสี่ประเภทหลัก ได้แก่ Abilities, Survivor, Slayer และ Numen

โดยไพ่สกิลต่าง ๆ เหล่านี้ ผู้เล่นจะได้มาตอนเลเวลอัป หรือหาเจอจากที่ซ่อนอยู่ในฉาก คุณสามารถรวบรวมไพ่ และติดตั้งความสามารถหลักได้สูงสุดสามอย่างพร้อมกัน ได้แก่ การป้องกัน(เลือกระหว่างจะโยกหลบหรือจะตั้งการ์ด) การกระโดดเตะ และการโจมตีพิเศษ และช่องความสามารถสองช่องสำหรับ Fury นั่นคือ Fury Skill และ Fury Special Attack โดยพลัง “คลุ้มคลั่ง” นี่มีลักษณะคล้ายภาคเก่า ๆ โดยกดใช้ได้ด้วยปุ่ม L3 + R3

ทั้งนี้ ช่องว่างที่ใส่ไพ่ได้ทั้งหมดจะมี 15 ช่องต่อตัวละคร พร้อมการ์ดโดยกำเนิด 2 ใบ (ไม่สามารถปรับแต่งได้) ซึ่งสกิลเหล่านี้แหละครับ คือที่มาของความสามารถพิเศษที่ช่วยในการต่อสู้ “ซึ่งคุณปรับเปลี่ยนไพ่เองได้ตลอดเวลา” ไม่มีการล็อกสกิล ผู้เล่นสลับไปมาได้ทุกเมื่อ จะปรับตามสถานการณ์ก็ได้ หรือจะเลือกใช้ตามความชอบเฉย ๆ ก็ย่อมได้

หัวข้อต่อมาก็คือ การปรับแต่งอาวุธ (ทั้งอาวุธตีรันฟันแทงและอาวุธ “ปืน”) ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของเกมในซีรีส์นี้ ผู้เล่นสามารถปรับแต่งอาวุธด้วยอุปกรณ์ mods และทักษะเสริมได้มากมายเพื่อเพิ่มระดับ, การโจมตีธาตุ หรือเพื่อเพิ่มความทนทาน โดยหากต้องการปรับแต่งอาวุธให้มุ่งหน้าไปยังโต๊ะทำงานซึ่งมีอยู่หลายจุดรอบ ๆ HELL-A และค้นดูได้โดยใช้แผนที่ จากนั้นผู้เล่นสามารถซ่อมแซมหรือปรับแต่งอาวุธได้หากชิ้นส่วนและเงินมีเพียงพอ

ประเด็นถัดไปก็คือ อาวุธขว้าง (กด R1 เพื่อใช้งาน) ถือเป็นตัวช่วยชีวิตตัวสำคัญอย่างหนึ่งในเกม โดยเฉพาะเวลาคับขัน ซึ่งคุณสามารถกดเพื่อใช้ปาระเบิดมือ, ระเบิดขวด, ดาวกระจายแบบนินจา ฯลฯ โดยมันไม่มีหมดครับ! ใช้ได้เรื่อย ๆ แต่จะมีระยะเวลาคูลดาวน์ คือปาครั้งนึงแล้วต้องรอสักแป๊บถึงจะปาได้อีกครั้ง ส่วนอาวุธขว้างระดับสูงในเกมนั้น คุณต้องออกค้นหาหรือทำพวกภารกิจเสริมในเกมเยอะ ๆ ถึงจะได้ของดี ๆ มาใช้

นอกจากที่ว่ามาแล้ว ตัวเกมยังมีท่าพิเศษอีกอย่างนั่นคือ ท่าที่ใช้กับศัตรูหมู่มาก โดยเมื่อกด L1 + R1 พร้อมกัน ตัวละครจะสามารถใช้พลังทุบพื้น หรือใช้การตะโกนแบบวอร์ คราย ก็ได้(แล้วแต่จะเลือกไพ่แบบไหน) เพื่อให้เกิดการโจมตีแก่ซอมบี้โดยรอบ ส่วนใหญ่จะทำให้เกิดการสตัน, ล้มลงไปกองกับพื้น หรือทำให้เกิดภาวะอ่อนแอต่อการโจมตีในช่วงระยะเวลาจำกัด เป็นต้น

สรุปความจากทั้งหมดทั้งมวลที่พูดไป ก็ได้ออกมาว่า Dead Island 2 จะมอบพลังและวิธีการต่อสู้ที่หลากหลายทางเลือกมาก ให้แก่คนเล่น คุณจะสนุกกับการงัดกลเม็ดต่าง ๆ ออกมาใช้เพื่อต่อกรกับฝูงซอมบี้และพวกบอสสุดแกร่งทั้งหลาย นี่ยังไม่นับว่า Dead Island 2 มีการออกแบบฉากที่เอื้อให้คุณใช้สภาพแวดล้อมในการร่วมต่อสู้เป็นอย่างมาก

ไม่ว่าจะเป็น การใช้น้ำขัง (หรือสร้างขึ้นได้เองจากการเอาถังน้ำมาเทพื้น) ผสมกับปลั๊กไฟหรือแบตเตอรี่ เพื่อให้เกิดการช็อตไฟฟ้าเป็นวงกว้าง, การโยนไฟใส่แอ่งน้ำมันชุ่มโชก เพื่อสร้างกับดักเพลิงนรกไว้เผาเหล่าผีดิบ, การใช้ถังแก๊สพิษมารมควันทางเดินแคบ ๆ แล้วไปล่อให้ผีตายซากเดินเรียงแถวมาเข้าสู่โซนรมแก๊สของคุณ ฯลฯ เหล่านี้ทำได้หมดครับ ลองไปเล่นกันดู สนุกมากบอกเลย

อย่างไรก็ดี เกมนี้ใช้ระบบ “ศัตรูเลเวลอัปตามคุณ” และบรรดาผีดิบทั้งหลาย “เคลื่อนที่เร็ว” กว่าเกมอื่น ๆ นะครับ บางตัววิ่งเร็วกว่าคุณอีก แถมมีหลายสายพันธุ์ด้วยนะ บางตัวอึดถึกทน บางตัวยิงไกลได้ บางตัวเรียกพวกได้ บางตัวใส่ชุดกันไฟกันพิษ ฯลฯ คุณตึงมือแน่ ๆ แถมเกมนี้ไม่มีโหมดยากง่ายให้เลือก คุณเข้าสู่เกมก็จะมีอยู่โหมดเดียวนั่นแหละ ผมแนะนำว่า ถ้าเล่นไม่ผ่าน, เจอบอสยากเกินไป เรียกพวกมาเยอะเกินไป ให้ย้อนไปเล่นภารกิจรองเก็บเลเวลให้ขึ้นมาเยอะ ๆ ก่อน ค่อยกลับมาเล่นภารกิจหลักก็ได้

ART & CREATIVITY

ผมชอบตรงที่ Dead Island 2 ฉายภาพแอลเอสมัยใหม่ได้ดีมาก สวยงาม ดูน่าเชื่อถือ โดยเฉพาะฉากโรงถ่ายฮอลลีวู้ด ได้เห็นเบื้องหลังฉากถ่ายหนังล้อเลียนภาพยนตร์ฮิตมากมายที่เรา ๆ ท่าน ๆ อาจคุ้นเคยกันดี

โดยตัวเกมแบ่งพื้นที่เป็นทั้งหมด 10 ฉากโอเพ่นเวิลด์แบบกระทัดรัด ถึงจะบอกกระทัดรัด แต่ก็กว้าง(และซับซ้อน) มากนะครับ ทุกพื้นที่เชื่อมต่อกัน คุณจะวิ่งเอาเองหรือฟาสต์แทรเวลก็ได้ (แต่จะฟาสต์ได้ต้องเล่นไปถึงกลางเกมก่อนนะ)

ผมค้นพบว่า การเล่นเกมนี้ให้ดีคืออย่าเร่งรีบทำภารกิจ การค่อย ๆ ย่องไปตามถนนในเมืองร้างตอนกลางคืน คอยหลบหลีกหรือปะทะกับซอมบี้ในบ้านร้าง ให้ความรู้สึกตื่นเต้นระทึกขวัญสุด ๆ เล่นแบบไม่ต้องสนใจจุดหมายปลายทาง ทว่าสิ่งที่ค้นเจอเวลาเราออกนอกลู่นอกทางเควสต์ของเกมนั้น ให้สมบัติมหาศาล โดยเฉพาะบรรดาสุดยอดอาวุธทั้งหลาย ที่คุณจะหาได้ตามมุมแผนที่แบบนี้แหละ เพราะหากเล่นแค่ตามเนื้อเรื่องเป็นเส้นตรง คุณจะได้มากสุดก็แค่พวกของแรร์ไอเท็มเท่านั้นเอง

ส่วนทางด้านการออกแบบซอมบี้, ซากศพ, อวัยวะและจังหวะการ “ฆ่า” นานาวิธีในเกมนี้ให้ภาพที่…ชวนแหวะ เลือดสาดกระจาย ไส้ ซี่โครง ขาดกระเด็น ผมไม่แน่ใจว่าในจุดนี้ ผู้เล่นแต่ละรายจะรับกันได้มากน้อยแค่ไหน ส่วนตัวผมพบว่า บางฉากที่มาถูกที่ถูกเวลามันก็ดูฮาดี เป็นความขำแบบดาร์ก ๆ หน่อย แต่ในบางฉากผมก็ต้องเบือนหน้าหนีเพราะความกระอักกระอ่วนบ้างเหมือนกัน เพราะทำมาซะสยองเหมือนจริงซะเหลือเกิน

CONCLUSION

มาถึงบทสรุป! ผมฟันธงแบบกระชับให้ทราบกันไปเลยว่า Dead Island 2 เป็นเกมที่ดีครับ เล่นสนุกมาก คุ้มค่าการลงทุนแน่ ๆ ผมไม่รู้สึกเสียดายเวลาแม้แต่นิดเดียวที่ได้เล่นเกมนี้ตั้งแต่ต้นจนจบ ทว่า หากใครตั้งคำถามทำนอง “เกมใช้เวลาทำเป็นสิบปี ผลออกมาเลอเลิศแค่ไหน?” ผมขอตอบแบบนี้…มันก็คือ Dead Island ที่อัปเกรดดีขึ้นในทุกภาคส่วนนั่นแหละ มันเดินเกมตามสไตล์เดิมทุกอย่างเลย อย่าหวังจะได้เห็นวิวัฒนาการสุดขั้ว อาวองการ์ด ใด ๆ จากภาคนี้ เขาเอาแค่ให้เกมมันมีความเป็นตัวเองและทำให้ดีที่สุดเท่าที่ตัวเองจะเป็นได้แค่นั้นแหละครับ…แต่คือเขาทำได้ดีจริงไงล่ะ!

Pros

  • เดินเรื่องกระชับ มันส์แบบหนังเกรดบี มุกตลกในบทสนทนาคือดี!
  • ภารกิจรองต่าง ๆ เขียนเนื้อเรื่องมาใช้ได้ น่าสนใจ (เผลอ ๆ จะฮากว่าเควสต์หลักอีกอ่ะ)
  • ระบบเกมในองค์รวมทั้งหมด สมดุลดีเยี่ยม ทั้งระบบต่อสู้ สกิล การโมฯ อาวุธ ไปจนถึงการออกแบบตัวละครทั้ง 6
  • ทั้ง 10 ฉากในเกมออกแบบได้ดี สวยงามและต่างกันชัดเจน มีความเป็นโอเพ่นเวิลด์ขนาดกระทัดรัดที่เชื่อมต่อกัน หรือจะฟาสต์แทรเวลก็สามารถทำได้, โหลดก็เร็ว

Cons

  • พล็อตเรื่องยังไม่จบ มีคนที่ต้องไปช่วย, ยังมีปมปริศนาที่รอการเปิดเผย
  • ตัวเกมในภาพรวมมีความ…โหดมาก ตับไต สมงสมองกระจายเกลื่อน และ “สมจริง” ซึ่งอาจทำให้บางคนรู้สึกอึดอัดได้เวลาเล่น
  • เกมใช้ระบบเสกซอมบี้ให้โผล่เข้ามาเติมในฉากดื้อ ๆ แทนที่จะสมมติให้วิ่งเข้ามาจากจุดไหนซักจุด…มันดูแล้วตลกเกิ๊น!

The Review

90% โคตรเกมซอมบี้ ขยี้เละไส้พุง!

Dead Island 2 เกมตะลุยซอมบี้ที่มีความโหดแหวะเป็นจุดขาย ตัวเกมเก็บงานได้ดี มีระบบเกมเพลย์ที่แข็งแกร่ง มีเนื้อเรื่องปลายเปิด รอให้ทำ DLC และภาคต่อได้สบาย ถ้าให้พูดตรง ๆ ก็คือตัวเกมหาจุดจับผิดยาก หาที่ตัดแต้มไม่ค่อยได้ ถ้าจะให้แนะนำสำหรับคนกำลังคิดจะซื้อ ก็ให้ไปพิจารณาที่แนวเกมเลยครับ ว่าชอบสไตล์เกมซอมบี้แบบนี้มั้ย

90%

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ข้ามไปยังทูลบาร์