Reviews

MotoGP 23 – รีวิว [REVIEW]

โดย ปอลนาโช่

รีวิว MotoGP 23

ขอขอบคุณโค้ดเกม (PS5) เพื่อการรีวิว จากบริษัท Ripples Thailand มา ณ โอกาสนี้ครับ

ถึงแม้ว่าผมจะได้เล่นเกม MotoGP มาหลายต่อหลายภาค แต่สิ่งหนึ่งที่ผมต้องสารภาพว่าทำไม่ค่อยได้ก็คือ การบิดเอาชนะคู่แข่งแบบขาดลอย ชนะได้หลาย ๆ สนาม…แบบนั้นผมทำไม่ได้หรอกครับ อย่างเก่งก็แค่ซิ่งเข้าเส้นชัยให้ครบจำนวนรอบ แล้วอาศัยสะสมคะแนนไปเรื่อย ๆ เก็บเกี่ยวความสนุกจากการได้เล่น การได้อินกับบรรยากาศในเกม แค่นี้ก็พอใจแล้ว

แต่สำหรับ MotoGP 23 ทุกอย่างกลับตาลปัตรโดยสิ้นเชิง เพราะด้วยระบบ Neural Aids ใหม่ในภาคนี้ ส่งผมให้สามารถขึ้นไปซิ่งขับเคี่ยวกับกลุ่มนำจ่าฝูงได้อย่างเมามันส์ และง่ายดาย ไม่ต้องกลัววิ่งผิดเลน หรือล้มคว่ำโง่ ๆ อีกต่อไป ตัวเกมกลายเป็นอาร์เคดเล่นง่ายขึ้นมาทันที…แล้วมันก็เจ๋งดีซะด้วย!

เอาล่ะ ก่อนจะไปแจกแจง, วิเคราะห์วิจารณ์บรรดาฟีเจอร์ใหม่ ๆ ทั้งหลาย เรามาไล่ดูกันทีละหัวข้อดีกว่า

GAME MODE

ขอพาย้อนอดีตก่อนว่า เมื่อตอนผมรีวิว MotoGP 22 ผมปลื้มปริ่มกับโหมด Season 2009 ที่เป็นโหมดแคมเปญเนื้อเรื่องอิงประวัติศาสตร์ เล่าเรื่องของ “เดอะ ด็อกเตอร์” วาเลนติโน่ รอสซี่ กับศึกทั้ง 17 สนามเมื่อปี 2009 เป็นอย่างมาก โดยผมมอบคะแนนไปให้มากถึง 90 คะแนนด้วยกัน

มาในภาคใหม่ ทีมงานเขานำเสนอโหมดอาชีพแบบใหม่มาให้กับผู้เล่นครับ โดยคราวนี้จะไม่ใช่ให้ไปเดินตามรอยเท้าใครอีกแล้ว แต่เกมจะให้คุณสร้างตัวละครนักบิดของตัวเองขึ้นมาเลย แล้วลองไปสร้างตำนานนักแข่งด้วยตัวคุณเอง

โดยโหมดนี้ (Career Mode) จะเริ่มต้นจากช่วงสิ้นสุดของการแข่งชิงแชมป์ Moto3 ซึ่งผู้เล่นจะอยู่ต่อในซีซันถัดไปหรือจะขยับไปแข่ง Moto2 ก็ได้ โดยก่อนเริ่มแต่ละซีซันผู้เล่นจะได้เลือกว่าจะอยากแข่งสั้น ๆ 10 รายการตามปฏิทินหรือจะลงแข่งรายการอย่างเป็นทางการที่จะประกอบไปด้วยการแข่งขันระดับโลกทั้งหมด 21 รายการ

ทีนี้ ระหว่างเล่น ๆ ไป ผู้เล่นจะได้พบกับระบบจุดเปลี่ยน (Turning Points) ซึ่งเป็นช่วงเวลาในการตัดสินใจเรื่องสำคัญในเกมที่จะส่งผลต่ออาชีพนักแข่งในแต่ละซีซัน ผู้เล่นจะได้พบกับเหตุการณ์หลากหลาย แต่ละเหตุการณ์ก็จะมีเป้าหมายต่างกันออกไปให้เคลียร์ ซึ่งจากผลลัพธ์ของการแข่งในแต่ละสนามนั้น เส้นทางอาชีพก็จะแตกต่างกันออกไป

ยกตัวอย่างให้เห็นภาพนะ สมมติจากการทดสอบวิ่งรถในช่วง Summer Break ฝีมือของผู้เล่นจะเป็นตัวตัดสินว่าพวกเขาจะอยู่ทีมเดิมต่อไป, ยังคงอยู่คลาสเดิม หรือก้าวขึ้นไปสู่ขั้นถัดไป เป้าหมายจะไม่เพียงแต่ประกอบไปด้วยการชนะการแข่งเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อการพัฒนามอเตอร์ไซค์ด้วย สรุปก็คือ มันจะมีแชลเลนจ์สำคัญ ๆ มาท้าทายคุณเป็นระยะ ซึ่งผลการแข่งที่ได้ออกมาจะเป็นจุดเปลี่ยนของเหตุการณ์ถัดไปในเกมนั่นเอง

นอกจากนี้ ฟีเจอร์อีกอย่างใน Career Mode ก็คือเรื่องของ “โซเชียลเน็ตเวิร์กเสมือน” ที่จะประกอบไปด้วยคอมเมนต์จากนักบิดคู่แข่งที่มีส่วนเกี่ยวพันกับเป้าหมายในสายอาชีพ พฤติกรรมทางสังคมของผู้เล่นจะส่งผลต่อการตอบสนองของ AI ในระหว่างการแข่งขันด้วยนั่นเอง เหมือนกับการเลือกตอบนักข่าวก่อนและหลังการแข่งในเกมฟุตบอลฟีฟ่านั่นแหละครับ

อีกอย่างที่เหมือนกับเกมฟุตบอลฟีฟ่าก็คือ หากคุณทำตามเป้าหมายไม่ได้ก็อาจทำให้โดนไล่ออกจากทีมในช่วงจบซีซัน! นอกจากนั้นแล้ว ในคราวนี้ตัวเกมจะมีแนวทางในการร่วมทีมที่สมจริงยิ่งขึ้น โดยเมื่อมีเพียงสองตำแหน่งที่ว่างอยู่ผู้เล่นจึงต้องแข่งขันกับนักบิดตัวจริงเพื่อพิสูจน์ฝีมืออีกด้วย

ด้านโหมดอื่น ๆ ที่มีให้เล่น ก็ได้แก่ โหมดมัลติเพลเยอร์ ซึ่งภาคนี้เขาออกแบบมาให้เกมมันเล่นครอส-เพลย์กับผู้เล่นแพลตฟอร์มอื่น ๆ ได้ด้วย ขณะที่การแข่งออนไลน์จะใช้ระบบแรงก์ เพื่อแบ่งระดับฝีมือผู้เล่น คนที่มีระดับใกล้เคียงกันก็จะได้แข่งกันเอง เพื่อให้การแข่งขันมีความยุติธรรมมากขึ้น อ้อ! ภาคนี้สามารถเลือกแบ่งจอแข่งกันเองในบ้านได้ด้วยครับ

โหมดสุดท้ายที่อยากเขียนถึงก็คือ โหมดปรับแต่ง ที่ตัวเกมออกแบบมาให้ปรับได้เกือบทุกอย่างในเกม มีตั้งแต่การปรับแต่งหมวก ที่ให้ผู้เล่นได้มีโอกาสเพิ่มเติมสีสันหรือ หรือดีไซน์ให้แก่ตัวละคร, การปรับแต่งสติกเกอร์ จะให้ผู้เล่นได้เลือกสรรจากหลากหลายดีไซน์และปรับแต่งรถของตนด้วยลวดลายที่ไม่เหมือนใคร ส่วนระบบปรับแต่งหมายเลขแข่ง ให้ผู้เล่นได้มีอิสระในการเพิ่มความเป็นตัวเองเข้าไปอีกชั้นหนึ่ง และสุดท้ายก็คือ ระบบปรับแต่งป้ายแพทช์ จะให้ผู้เล่นได้ออกแบบป้ายแพทช์ของตนเองเพื่อติดบนชุดแข่ง

GAMEPLAY

ประเด็นที่ต้องเอ่ยถึงเป็นอันดับแรกเลยก็คือ การสร้างระบบใหม่ขึ้นมาที่เรียกว่า นิวรัล เอด (Neural Aids) ซึ่งเป็นระบบที่คุณเลือกเปิดหรือปิดใช้งานเองได้ โดยหน้าที่ของเจ้าระบบนี้ก็คือ การช่วยเหลือคนเล่นในเรื่องของการเบรก, การเร่งเครื่อง และการควบคุมทิศทาง

อธิบายแบบนี้ดีกว่า คือตัวเกมมันจะบังคับรถให้คุณ “ล่วงหน้านิดนึง” เพื่อเป็นไกด์ให้คุณตอบสนองต่อสถานการณ์ได้ง่ายขึ้น หากคุณไม่ฝืน AI ที่มันช่วยพยุงรถไว้อยู่ คุณก็จะสามารถทำความเร็วเข้าโค้งได้อย่างงดงามหมดจด ไม่มีล้มคว่ำแน่นอน ยิ่งถ้าเลือกเล่นแบบ “รุกกี้” ด้วยแล้ว จะเหมือนเล่น “รถราง” กันไปเลย ถ้าคุณไม่วางจอยปล่อยรถวิ่งเอง ก็ไม่มีทางสะดุดกลิ้งหน้าคะมำอ่ะครับ

แล้วถามว่า…ช่วยกันขนาดนี้ แล้วมันจะดีหรือ? ผมขอตอบจากประสบการณ์ตัวเองแบบนี้ครับว่า เมื่อผมลองเปิดใช้ระบบดังกล่าว มันช่วยให้ผมได้ทำความเร็วขึ้นไปบดกับจ่าฝูงได้อย่างที่ไม่เคยทำได้มาก่อน เหมือนได้เล่นเกม “แข่งรถ” ไม่ใช่แค่เกม “จำลองการขับขี่”

ถามว่ามันดูอาร์เคดขึ้นมั้ย ก็ยอมรับว่าใช่ครับผม แต่อย่าลืมว่า คุณปิดระบบนี้ได้ทุกเมื่อ อยากสมจริงแบบเดิมก็ไปเปิดโหมดนักแข่งนอร์มอลธรรมดาเล่นได้เลย หรือจะเลือกโหมดสมจริงขั้นสุดแบบซิมมูเลชันเล่นเลยก็ได้ ไม่ว่ากันครับ สไตล์ใครสไตล์มัน

แต่ที่ผมจะบอกก็คือ ภาคนี้ได้เปิดประตูต้อนรับนักบิด(ในเกม)มือใหม่ ให้เข้าถึงตัวเกมได้ง่ายกว่าแต่ก่อนมาก ไม่ต้องกลัวกันอีกแล้วว่า “เกมโมโตจีพีมันเล่นยากเกินไป ล้มง่าย” …อะไรแบบนั้น คราวนี้ใครอยากลองขี่แบบชิล ๆ ก็เลือกอีซี่เล่นยาว ๆ ไปได้เลย สบายสุด ๆ

ART & CREATIVITY

ด้านงานออกแบบ ภาคนี้เขาชูฟีเจอร์ใหญ่ในเรื่องของ Dynamic Weather แม้จะแข่งในสนามแบบแห้ง ก็สามารถเปลี่ยนเป็นช่วงที่ฝนตกหนักได้อย่างรวดเร็ว ตามแต่ปัจจัยทางภูมิศาสตร์ของสนามนั้น ๆ ซึ่งโดยส่วนตัวที่เจอ ผมว่ามันก็แปลกดี แล้วก็เหมือนเป็นตัวบังคับให้เราต้องปรับตัว เปลี่ยนสไตล์การขี่ในแต่ละรอบ อีกหนึ่งการออกแบบใหม่ก็คือในรุ่นโมโตจีพี จะมีกฎ Flag to Flag นั่นหมายความว่าการแข่งขันแบบ Dry Race จะไม่เกิดธงแดงเพราะมีฝนตก แต่จะเป็นการอนุญาตให้เข้ามาเปลี่ยนรถแทน

การแปลภาษาไทย

ยังคงรักษาคุณภาพที่ดีมาตั้งแต่ภาค MotoGP 22 โดยในภาคนี้ตัวเกมรองรับภาษาไทยเต็มรูปแบบ แถมคุณภาพงานแปลยังดีมาก การแสดงผลฟอนต์ก็ปกติ ไม่มีวรรณยุกต์จมหรือลอยให้เห็น จะมีแอบขัดใจก็แค่ฟอนต์ที่ดูเชยไปนิดนึง ทั้งนี้ ตัวเกมมีภาษาไทยในแทบทุกส่วน ทั้งเมนู หน้าจอคำอธิบายอ็อปชั่นต่าง ๆ รวมไปถึงรายละเอียดนักแข่งและตัวรถ

CONCLUSION

สรุปจากทั้งหมดที่กล่าวไป ผมก็ยังยืนยันว่า แฟรนไชส์โมโตจีพีของ Milestone S.r.l นั้นเป็นผลงานเกมแข่งรถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหญ่ที่ดีที่สุดในท้องตลาด ระบบเกมแน่นปึ้ก แต่ละภาคก็มักจะแตกต่างกันไปเรื่องโหมดการเล่น ที่สลับเปลี่ยนแนว เปลี่ยนบรรยากาศไปเรื่อย ๆ แต่ระบบเกมเพลย์ในสนามแข่งยังคงเหมือนเดิมนั่นแหละ แต่ภาคนี้มีดีหน่อยกับระบบช่วยเหลือผู้เล่นสุดซูเปอร์อีซี่ เหมาะกับคนที่ไม่เคยเล่นเกมนี้มาก่อนครับ

Pros

  • ระบบ Neural Aids ที่ช่วยให้บรรดามือใหม่เข้ามาเล่นแฟรนไชส์นี้ได้ง่ายมากขึ้น
  • กราฟิกสวยงามเหมือนเดิม โดยเฉพาะการจำลองสนามแข่งที่ถอดแบบมาจากในชีวิตจริงได้อย่างน่าพอใจ
  • ระบบ Dynamic weather ช่วยเพิ่มความเร้าใจระหว่างการแข่งได้เยอะเลย
  • โหมดอาชีพแบบใหม่ ทำให้เข้าใจชีวิตนักบิดยิ่งขึ้น

Cons

  • ความหลากหลายของโหมดดูน้อยไปหน่อยหากไปเทียบกับภาค 22 เพราะภาคนั้นเขามีโหมดแชลเลนจ์ NINE Season 2009 ที่จำลองการแข่งในอดีตมาให้เล่นกันเยอะเลย
  • AI ยังเพี้ยนเหมือนเดิม ขี่ชน-เฉี่ยวเราบ่อยครั้ง แบบไม่มีทางเกิดขึ้นในชีวิตจริงแน่ ๆ

The Review

80% ภาคใหม่กับโหมดอีซี่แบบใหม่

MotoGP 23 คือวิดีโอเกม MotoGP อย่างเป็นทางการของฤดูกาลแข่งขันประจำปี 2023 ภาคนี้มีโหมดอาชีพที่สมจริง ที่ให้ผู้เล่นเลือกเส้นทางสู่ความรุ่งโรจน์ในแบบของตัวเองได้ และยังมาพร้อมด้วย 2 ฟีเจอร์ใหม่เพิ่มความสมจริงยิ่งขึ้นด้วย Dynamic Weather และ Flag-to-Flag

80%

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ข้ามไปยังทูลบาร์