*ขอขอบคุณ SEGA Corporation สำหรับโค้ดรีวิวมา ณ โอกาสนี้ครับ
**รีวิวนี้เล่นบน PlayStation 5
แฟรนไชส์ Sonic The Hedgehog นี้ เป็นหนึ่งในแฟรนไชส์ที่อยู่คู่กับวงการวิดีโอเกมมายาวนานครับ เกมภาคแรกนั้นวางจำหน่ายในปีค.ศ.1991 บนเครื่องเมก้าไดร์ฟ (Mega Drive) หรือเซก้าเจเนซิส (Sega Genesis) ในซีกโลกตะวันตก ซึ่งเป็นคอนโซลที่ SEGA ผลิตขึ้นมาเองในสมัยนั้น และนับแต่นั้นมาเจ้าเม่นสีฟ้าความเร็วสูงนี้ก็อยู่เคียงคู่วงการมาจนถึงปัจจุบันและมีภาพยนตร์ออกมาแล้วถึงสองภาคด้วยกัน ยังไม่นับสื่อบันเทิงชนิดอื่น ๆ อีกมากมายที่เคยออกมาโลดแล่นให้ได้ชมกัน
สำหรับ Sonic Origins Plus ในรอบนี้ เป็นคอลเล็กชันรวมเกมสี่ภาคหลัก ๆ เข้าไว้ด้วยกัน นั่นคือ Sonic The Hedgehog, Sonic The Hedgehog 2, Sonic The Hedgehog 3 & Knuckles ซึ่งเคยวางจำหน่ายบนเครื่องเมก้าไดร์ฟ และ Sonic The Hedgehog CD บนเครื่อง SEGA CD ครับ
แม้ว่าตัวเกมจะเป็นคอลเล็กชันและการรีมาสเตอร์เกมคลาสสิกจากยุคตลับและเครื่องเล่น CD รุ่นแรกของ SEGA ก็ตาม แต่ว่าแต่ละเกมได้รับการปรับปรุงให้รองรับกับขนาดจอมาตรฐานที่มีสัดส่วน 16:9 ในปัจจุบันโดยไม่มีการยืดภาพหรือไม่มีการใช้แบ็กกราวด์มาถมพื้นที่ว่างให้เต็มครับ หากคุณเลือกโหมด Anniversary ก็สามารถเล่นภาคคลาสสิกแต่ละเกมแบบเต็ม ๆ จอได้เลย แต่ถ้าใครอยากได้บรรยากาศแบบสมัยก่อนคุณก็เลือกโหมด Classic ได้ก็จะได้เล่นเกมในสัดส่วน 4:3 เหมือนต้นฉบับ
ผมคงไม่พูดถึงเกี่ยวกับตัวเกมแต่ละภาคมากนักเพราะโดยธรรมชาติของเกม Sonic นั้นทุกคนน่าจะพอเดาได้กันอยู่แล้ว นั่นคือตัวเกมจะเป็นแอ็กชันลุยด่านด้านข้างที่ความเร็วสูง ซึ่งคุณจะได้มีปฏิสัมพันธ์กับฉากที่เกี่ยวข้องกับความเร็ว ไม่ว่าจะการวิ่งขึ้นเนินตีลังกา เหยียบแท่นสปริงเพื่อโดดสูง เก็บแหวนตามฉากเพื่อเข้าเล่นฉากโบนัสในตอนจบฉาก ฯลฯ ซึ่งทุกอย่างเป็นสิ่งที่คุณคาดหวังได้จากเกมแอ็กชันแพลตฟอร์มในยุคนั้นนั่นล่ะครับ รวมถึงความยากระดับที่เราโดนสะกิดทีเดียวก็เล่นใหม่เหมือนกัน (เว้นแต่คุณจะเก็บแหวนหรือไม่ก็มีไอเท็มช่วยเหลืออยู่)
ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวไปนั้นคือสิ่งที่คุณจะได้รับจากเกมแต่ละภาคครับ เพียงแค่ว่าในคอลเล็กชันนี้คุณจะสามารถเลือกเล่นเป็นตัวละครอื่น ๆ ได้อีกสามตัวละครนั่นคือเทลส์ (Tails), นักเคิลส์ (Knuckles) และเอมี (Amy) ที่ก็จะมีกิมมิกในการเล่นต่างกันนิด ๆ หน่อย ๆ เช่น เทลส์ก็จะใช้หางลอยตัวได้เหมือนใบพัด, นักเคิลส์จะร่อนกลางอากาศและเกาะกำแพงได้ ส่วนเอมีก็โจมตีได้โดยใช้ค้อน (อ้าว โซนิกอ่อนสุดเลยนี่หว่า…)
หากจะมีอะไรที่ผมแอบเสียดายนิดนึงในแง่เกมเพลย์ก็คือ ที่ผ่านมาเรามักจะได้เห็นเกมคลาสสิกรีมาสเตอร์ที่มาพร้อมฟังก์ชันอำนวยความสะดวกอย่างเช่น Save State, Load State หรือการย้อนเวลาการเล่นกลับไปก่อนหน้าได้เล็กน้อย เพราะก็ต้องยอมรับว่าเกมคลาสสิกสมัยก่อนนี่มักจะมีจังหวะที่ชวนให้แอบหัวร้อนได้บ่อย ๆ แต่กับ Sonic Origins Plus นี้จะไม่มีฟังก์ชันพวกนั้นครับ คุณจะต้องเล่นโดยใช้ฝีมือล้วน ๆ ตั้งแต่ต้นจนจบ
แต่เอาล่ะ ในคอลเล็กชันนี้มีสิ่งที่ดีมาก ๆ และเชื่อว่าแฟน ๆ Sonic น่าจะต้องชื่นชอบกันก็คือการปลดล็อกเพลง, ปลดล็อกงานศิลป์ และปลดล็อกวิดีโอต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Sonic มาฟังและมาชมกันครับ หลายภาพก็เป็นอะไรที่น่าจะหาดูกันได้ยากอยู่เช่นภาพวาดสำหรับนิตยสารภายในบริษัทของ SEGA เอง หรือไม่ก็เป็นวิดีโอให้ชมวงออเคสตราบรรเลงเพลง Sonic นี่ล่ะครับ วิธีการปลดล็อกก็ง่าย ๆ คือคุณเล่นเกมไปตามปกติหรือไม่ก็เล่น Mission Mode แล้วเคลียร์เงื่อนไขเพื่อเอาเหรียญมาปลดล็อกสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้
อีกหนึ่งอย่างที่ผมคิดว่าทีมพัฒนาเอาใจใส่ไม่เบาก็คือแต่ละเกมจะมีการเพิ่มอนิเมชันเริ่มต้นและฉากจบเข้ามาครับ จากที่ปกติเกมจะเริ่มต้นเลยแบบห้วน ๆ จบก็แบบจบดื้อ ๆ รอบนี้จะมีอนิเมชันเปิดเกมและอนิเมชันจบเกมให้ชมในแต่ละภาคด้วย เชื่อว่าแฟน ๆ น่าจะชอบกัน
นอกเหนือจากสี่เกมที่ถือเป็นภาคต้นกำเนิดแล้ว ในชุดนี้ยังมีแถมเกม Sonic อีกกว่าสิบเกมที่เคยลงให้กับเครื่องเกมเกียร์ (Game Gear) ซึ่งเป็นเครื่องเล่นเกมพกพาของ SEGA เองด้วยเหมือนกัน เรียกได้ว่าสมัยก่อนใครที่เคยอยากเล่นแต่ไม่มีโอกาสได้เล่น เกมเหล่านั้นถูกจับมัดรวมมาให้ที่นี่แล้วครับ แต่ว่าสัดส่วนภาพของเกมบนเกมเกียร์จะเป็น 4:3 อย่างเดียวนะ ปรับไม่ได้ ส่วนที่เหลือของหน้าจอก็จะแสดงผลเป็นภาพแบ็กกราวด์ไป
ในภาพรวมแล้ว ผมคิดว่านี่เป็นหนึ่งในคอลเล็กชัน Sonic ที่ทรงคุณค่าไม่เบา หากคุณอยากเล่นรำลึกความหลังก็เล่นได้ หากอยากทำความรู้จักแฟรนไชส์นี้ให้มากขึ้นก็ทำได้ แม้ว่าคุณจะไม่ใช่แฟนดั้งเดิมของ Sonic ก็ตาม แต่ลองมาสัมผัสต้นกำเนิดของเจ้าเม่นฟ้าความเร็วสูงตัวนี้ดูแล้วคุณอาจจะหลงรักก็ได้นะ