ไปลองเป็นโจรมา ในช่วง Closed Beta ของ PAYDAY 3
*ขอขอบคุณทาง PLAION Limited สำหรับสิทธิ์ในการเข้าเล่นช่วง Closed Beta นี้ด้วยครับ
**Closed Beta นี้เล่นบน PC
“ก้าวเข้าสู่โลกแฟนตาซีแห่งการโจรกรรม” นี่น่าจะเป็นนิยาม และความใฝ่ฝันที่ทีมพัฒนา Starbreeze อยากจะให้ PAYDAY 3 เป็นมากที่สุด จากภาค 2 ที่คว้าทั้งเงินและเสียงชื่นชมมาแล้ว ไม่น่าแปลกใจว่าการมาถึงของภาค 3 ที่ทิ้งระยะห่างถึง 10 ปี จะต้องแบกรับความคาดหวังจากแฟน ๆ อย่างล้นหลามแน่นอน พร้อมทำให้คนที่ยังไม่เคยเล่นต้องตั้งคำถามว่า “เกมนี้มันมีดีอะไร?”
และก่อนที่เกมจะออก ทางสตูดิโอก็แสดงความพร้อมด้วยการเปิดแบงก์ให้ปล้นกันในช่วง Closed Beta ซึ่งจบไปแล้วนะครับ ผมในฐานะทีมงาน TGW ก็ได้รับโอกาสนั้นด้วย และต่อไปนี้คือความรู้สึกแรกที่ผมมีต่อ PAYDAY 3 ในฐานะของคนที่ไม่ชอบเกมแนว FPS (แถมยังเป็นโรคแพ้การ Co-op ด้วย)
- เอาเข้าจริง ประสบการณ์ในช่วง Closed Beta ของผมก็ไม่ค่อยต่างจากที่ผมได้เข้าไปร่วมการทดสอบเล่นในรอบพรีวิวสื่อเท่าไรนัก (ส่วนหนึ่งก็เพราะตัวเกม Closed Beta นี้ ผมรู้สึกว่ามันก็คือตัวเดียวกับที่ผมได้ไปเล่นในรอบนั้นมานั่นแหละ)
- ถึงตัวเกมจะมีงานออกแบบมาให้เราสามารถทำการโจรกรรมแบบทำให้ทุกคนในแบงก์ไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกปล้นได้ แต่เนื่องจากมันเป็นเกมที่ตั้งโจทย์ให้เน้น Co-op เป็นหลัก การลงภาคสนามกับเพื่อนที่รู้งานน่าจะทำให้คุณเข้าถึงประสบการณ์ PAYDAY 3 ได้มากที่สุด ไม่อย่างนั้นคุณก็จะมีชะตากรรมแบบผมที่ลงทุกรอบสเตลท์แตกทุกรอบ เกมนี้สเตลท์แตกง่ายจริง ๆ นะครับ
- ผมคิดว่าในเวลาเล่นจริงถ้าคุณไม่หนีบเพื่อนไป หรือ เคยมีประสบการณ์จากภาคก่อน เกมนี้ก็มี Learning Curve ที่ค่อนข้างสูงพอตัว คือคุณต้องใช้เวลาปรับจูนทั้งฝีมือคุณเอง และที่สำคัญที่สุดคือการสื่อสารกับเพื่อนร่วมทีม
- หาห้องเร็วมาก เพราะเอ็นจินหลักของภาคนี้เป็น Unreal Engine 5 และรองรับการเล่นข้ามแพลตฟอร์มอย่างสมบูรณ์แบบ คือพูดได้ว่ากดหาห้องแล้วรอไม่ถึง 10 วินาที คุณก็ได้แก๊งโจรครบคนแล้ว
- ในส่วนของสกิล PAYDAY 3 นับว่ามีสกิลให้เลือกใช้ในจำนวนที่ค่อนข้างเยอะมาก และการจะปลดล็อกสกิลสายต่าง ๆ จำเป็นจะต้องมีการวิจัย ซึ่งค่าการวิจัยนี้ก็จะมาจากการที่เราได้ไปลงสนามปล้นนั่นเอง โดยเราสามารถติดตั้งสกิลได้ 4 สกิล ต่อการออกปฏิบัติการหนึ่งครั้ง
- ระบบปรับแต่งของเกมยังเป็นหัวใจสำคัญที่ทีมพัฒนาสัญญาว่าจะจัดให้แบบฉ่ำ ๆ ซึ่งแค่ในช่วงทดสอบเล่นนี้ ผมก็เห็นแล้วว่าตัวละครของเราสามารถปรับแต่งอะไรได้หลายอย่างมาก ทั้งอาวุธ ชุด ถุงมือ หน้ากากที่ใส่ ซึ่งเราสามารถปลดล็อกได้จากการลงสนามปล้น เพื่อเอาเงินมาซื้อ ของในเกมนี้เห็นราคาแล้วตอนแรกอาจตกใจ เพราะขึ้นหลักหมื่นหลักแสน แต่ถ้าเราลงสนามปล้นเงินมาได้เยอะ แค่ครั้งสองครั้งเราก็มีเงินเฉียดล้านแล้ว
- ถ้าพูดกันในแง่ของ Replay Value แล้ว ผมขอให้คะแนนในระดับกลาง ๆ ไว้ก่อนแล้วกัน จริงอยู่ว่าเกมมีสกิลให้ปลดล็อก มีงานออกแบบฉากให้ปฏิบัติการได้หลากหลายกลยุทธ์ รวมถึงมีการสับเปลี่ยนองค์ประกอบของฉากในการเล่นแต่ละรอบ เช่น ตานี้สวิทช์ปล่อยน้ำดับเพลิงอยู่ห้อง A แต่พอเล่นอีกตามันก็อาจจะไปอยู่ห้อง C ก็ได้ แต่อย่างที่บอกไป มันเป็นเกมที่อาศัยความเป็นทีมค่อนข้างสูงจริง ๆ ซึ่งถ้าคุณมาเป็นแก๊งเลย ผมคิดว่าจะสนุกเพราะมันช่วยกันคิดและพลิกแพลงหาทางปล้นได้เยอะ คะแนนในแง่ Replay Value ก็จะเยอะตามไปด้วย การมีฉากให้เล่นเยอะก็เป็นเรื่องสำคัญมากเหมือนกัน (ส่วนนี้ต้องไปรอดูวันจริงอีกที)
- ในด่านที่เล่นยังมีให้ปรับระดับความยากถึง 4 กะโหลก โดยกะโหลกแรกจะเหมาะกับพวกมือใหม่อย่างผม ส่วนกะโหลกสุดท้ายคุณและเพื่อนจะต้องเข้าทรงวิญญาณทอม ครูซ
- ตลอดการเล่นยังไม่เจอปัญหาทางเทคนิคสำคัญ ๆ เช่น อาการแลคจนเล่นไม่ได้ หรือเกมแครช
- ด้านกราฟิกเมื่อดูแล้ว ก็รู้สึกได้เลยว่าเป็นงานในช่วง Beta จริง ๆ รอยหยักของวัตถุ หรือ ตัวละคร รวมถึงกล่องเมนูของเกมยังมีลักษณะไม่ได้สัดส่วน ซึ่งเป็นเรื่องที่เข้าใจได้นะครับ เพราะเป็นการทดสอบเล่น และเชื่อว่าตัวเกมเต็มภาพน่าจะออกมาได้ดีกว่านี้
- ดนตรีตอนบู๊กับเวฟตำรวจคืออย่างดุ โคตรติดหู
และนั่นคือความรู้สึกเบื้องต้นที่ผมได้สัมผัสจากช่วง Closed Beta ของ PAYDAY 3 ครับ และก็ต้องย้ำอีกรอบว่านี่เป็นการประเมินเกมในช่วง Beta เท่านั้น ผ่านสายตาของคนที่ไม่ใช่แฟนซีรีส์นี้ และไม่ใช่แม้กระทั่งคนที่ชอบกับเกมประเภท FPS แนว co-op ด้วย เพราะฉะนั้น ไว้รอเกมตัวเต็มออก แล้วผมค่อยมาตัดสินกันอีกครั้ง
ส่วนใครที่เป็นคนดี ๆ ไม่ชอบ ชอบการลักวิ่งชิงปล้น PAYDAY 3 จะวางจำหน่าย 21 กันยายนนี้แล้วนะครับ นับเป็นอีกเดือนตึง ๆ ของชาวเกมเมอร์ ถูมือไว้เตรียมเจาะเซฟได้เลย วางจำหน่ายบน PS5, Xbox Series X|S, และ PC