รีวิว EA Sports FC 25
*ขอขอบคุณ Electronic Arts สำหรับโค้ดรีวิวมา ณ โอกาสนี้ครับ
**รีวิวนี้เล่นบน PlayStation 5
ก่อนอื่นขอแจ้งว่า ทุกท่านสามารถย้อนอ่าน “EA Sports FC 24 – รีวิว [REVIEW]” ได้ที่นี่ คลิก!
มาครับ ๆ มาคร้าบบบ เข้าช่วงเดือนก.ย.-ต.ค.ของทุกปีก็จะเป็นช่วงแห่งการวางจำหน่ายเกมฟีฟ่า…เอ้ย EA FC ภาคใหม่ โดยในปีนี้เราเดินทางกันมาถึงเลข 25 แล้วครับ ช่างเป็นหนทางอันยาวนานเสียนี่กระไร กับแฟรนไชส์เกมฟุตบอลระดับตำนานเกมนี้
เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ผมขอเข้าเรื่องกันเลย โดยจุดเด่นสุด ๆ ของเกมภาคนี้อยู่ที่การนำเสนอโหมดใหม่ที่ชื่อว่า “Rush”
โดยโหมด Rush ก็คือรูปแบบการเล่นฟุตบอลแบบ 5v5 ที่เน้นความรวดเร็วฉับไว ในรูปแบบของเทคนิคและแท็กติกในแบบบอลสนามใหญ่ 11 คน กล่าวคือ สนามมันจะกว้างมากขึ้น มีโกลและผู้รักษาประตูคล้ายฟุตซอล, มีกติกา “ล้ำหน้า”, ทางบอลจะไม่ใช่การโชว์ลีลาแบบสตรีตบอล แต่จะเป็นบอลระบบ เล่นแล้วคล้ายบอล 7 สี ที่เป็นบอลนักเรียนนั่นแหละ
ตัวโหมดมันสร้างขึ้นมาเพื่อเน้นการเล่นมัลติเพลเยอร์ (ทั้งแบบโลคัลและออนไลน์) กะให้เล่นแข่งกันได้แบบเร็ว ๆ แข่งเอาสนุกกันได้แบบด่วน ๆ เหมือนเล่นไฟท์ติ้งเกมอ่ะครับ
ที่สำคัญคือ โหมด Rush ที่มาแทน Volta ในรอบนี้ มันไม่ได้หมายถึงโหมดการเล่นเพียว ๆ รูปแบบเดียว แต่มันจะกระจายตัวไปอยู่ในโหมดอื่น ๆ ด้วย อาทิ Ultimate Team, Clubs, Career, และ Kick-off ซึ่งจะมาในรูปของการส่งผ่านไอเท็ม, การเลือกทีมสโมสรในชีวิตจริงมาแข่งกันแบบ Rush ฟุตบอล หรือการที่ระบบพัฒนาผู้เล่นเยาวชนของทีมในโหมด Career จะใช้บอล Rush เป็นตัวพัฒนาทักษะ เป็นต้น
ซึ่งผลจากการทดสอบลองเล่นของผมเอง ขอบอกเลยว่าผมชอบฟุตบอลแบบนี้มากกว่า Volta เยอะเลย เพราะมันเล่นง่ายกว่า เข้าใจง่าย และเล่นเหมือนเวลาเราเตะบอลเล่นกันในสนามข้างวัด หรือสนามเด็กเล่น ฯลฯ มันไม่ต้องมาเน้นการปล่อยท่าให้วุ่นวายอ่ะครับ เล่นบอลเร็ว อาศัยทีมเวิร์กนี่แหละ สนุกสุด
ถัดมาที่นับว่าเป็นของใหม่ในภาค 25 นี้ก็คือ FC IQ หรือก็คือระบบช่วยเหลือผู้เล่นในการแนะนำแผนการทำทีมแบบต่าง ๆ ระหว่างการแข่งขัน ตลอดจนการยกระดับ AI ที่ให้ผลเหมือนกับนักฟุตบอลในชีวิตจริง
คนที่เล่นฟีฟ่ามาอย่างช่ำชองจะรู้กันดีใช่มั้ยครับว่า เวลาการแข่งขัน เราสามารถกดทิศทางที่ปุ่มดีแพดเพื่อเรียกแผนต่าง ๆ ได้ มารอบนี้ คำสั่งที่ปรากฏมันจะเปลี่ยนไปครับ แนะนำให้ศึกษาเรียนรู้ให้ดีก่อนลงไปเล่น โดยเขาออกแบบในภาค 25 ให้มันลึกล้ำมากขึ้นขณะเดียวกันก็ใช้งานง่ายขึ้นมาก และเห็นผลทันตาในสนามด้วยนะ คุณจะเลือกแบบสำเร็จรูปที่ผู้ช่วยโค้ชในเกมจัดมาให้ หรือกำหนดเองแล้วเซฟไว้รอเรียกใช้ก็ย่อมได้
ขณะที่โมเดล AI ใหม่ซึ่งขับเคลื่อนโดยข้อมูลในโลกแห่งความเป็นจริงจากทีมฟุตบอลสโมสรใหญ่ ก็ดูจะละเอียดมากขึ้นกว่าภาค 24 โดยมันให้ความสมจริงอย่างมากเวลาแข่งขันจริง ผมจะอธิบายยังไงดีนะ…คือเวลาคุณเจอทีมใหญ่ชื่อดังทั้งหลาย ทั้งนักเตะสตาร์ดัง และระบบทีม มันถ่ายทอดออกมาได้เหมือนของจริงมากขึ้นกว่าเดิมเยอะอ่ะครับ
สรุปแล้ว จากเดิมที่มี HyperMotionV และ PlayStyles มาภาคนี้เขาเพิ่ม FC IQ เข้ามาอีกตัว ก็ยิ่งทำให้เกมซีรีส์ FC นี้พัฒนามากขึ้นไปอีกขั้น
ด้านการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงฟีเจอร์ตามโหมดดั้งเดิมต่าง ๆ ผมขอไล่ไปตั้งแต่ โหมด Career โดยจะมีการเพิ่มห้าลีกชั้นนำของฟุตบอลหญิงให้คุณไปรับตำแหน่งผู้จัดการทีมได้, มีการเพิ่มฟีเจอร์ FC IQ เข้ามาช่วยในออปชันการปรับแต่งวางแผนให้กับทีมของคุณ, จะมีการอัปเดตค่าสถิติของสโมสรต่าง ๆ แบบเรียลไทม์กับในชีวิตจริง (จะเป็นการอัปเดตแบบต่อเนื่องหลังวางจำหน่าย)
ต่อกันด้วยโหมด Football Ultimate Team ซึ่งจะมีการรวมเอาฟุตบอล Rush 5v5 มาไว้ในนี้ด้วย ให้คุณได้สร้างทีมของตัวเอง ส่วนฟีเจอร์อื่น ๆ ก็จะเป็นพวกไอเท็มใหม่ กราฟิกแบบใหม่ ๆ ไปจนถึงเพลงประกอบระหว่างอยู่ในเมนูตัวเลือก ฯลฯ
สำหรับ Club เกม FC 25 จะนำเสนอคลับเฮาส์ พื้นที่ทางสังคมส่วนบุคคล ควบคู่ไปกับ Clubs Rush และจะมีการกลับมาของการตกชั้น สำหรับการเล่นใน Clubs League อีกด้วย
สุดท้ายก็คือ EA SPORTS HIGHLIGHTER อันนี้ถือว่าดี นั่นก็คือ ระบบช่วยเหลือในการอีดิตไฮไลท์ลูกยิงของคุณ แล้วสามารถเซฟเก็บไปใช้ต่อได้อย่างสะดวก โดยมีการช่วยเหลือด้านมุมกล้องสวย ๆ มากมายตามสมัยนิยมรวมทั้งมุมกล้องที่ได้จากโดรนถ่ายทอดสดด้วยนะ
และนั่นคือบรรดา “ของใหม่” ที่เขาเพิ่มเข้ามาในภาค 25 ต่อไปนี้จะเป็นการวิจารณ์ถึงของเก่ากันบ้าง ตลอดจนภาพรวมของเกมเพลย์หลังการทดสอบเล่นจริง
สิ่งหนึ่งที่กวนใจผมอยู่ตลอดเวลาสมัยเล่นภาค FC24 ก็คือเวลาเราเล่นกับคอมฯ แล้วเลือกระดับความยากเป็น world class หรือ Legendary มันจะมีความรู้สึกว่าฝั่งทีม CPU มันจะวิ่งเร็วกว่าเรามาก และออกสตาร์ตไวกว่าเราอยู่สองสเต็ป ซึ่งเล่นแล้วน่าเบื่อโคตะระ แถมกองหลังยังชอบอุดประตูสุด ๆ
มาคราวนี้ ผมพบว่าตัวเกมปรับปรุงในจุดนี้ได้ดีขึ้น มันยังมีความรู้สึกว่าฝั่งนั้นวิ่งเร็วกว่าเราอยู่บ้าง แต่ไม่มากเท่าเดิม ถ้าคนเล่นตั้งรับและดักทางเป็น จะสามารถสกัดได้ไม่ยาก โดยรวมจึงให้ความรู้สึกว่าเกมมันเล่นแล้วสนุกสมจริงกว่าเก่ามาก และด้วยความที่สปีดมันไม่ต่างกันมากแล้ว ทำให้คุณเองก็สามารถฉีกกองหลังฝั่งตรงข้ามได้เช่นเดียวกัน ถ้าคุณต่อบอลจังหวะเดียวได้แม่นยำมากพอ
ขณะที่ การครอสบอล หรือการ “เปิดโหม่ง” ภาคใหม่ทำได้ง่ายมากขึ้นกว่าเก่า คุณวางบอลสวย ๆ ได้ง่ายขึ้น เข้าหัวได้ดีขึ้น ไม่เหมือนภาค 24 ที่จังหวะแบบนี้จะเกิดยากมาก
อ้อ! สำหรับคนที่ชอบปรับค่าพลังเอาเอง (Sliders) ภาคนี้ก็ยังมีเช่นเดิม เพิ่มเติมคือมีแถบการปรับ AI ฝั่งตรงข้ามในแบบองค์รวมที่สะดวกขึ้น หรือจะเลือกปรับแบบละเอียดทีละอย่างแบบเดิมก็ยังทำได้อยู่ เพื่อนฝูงผมหลายคนนิยมปรับบาร์สไลด์ตรงนี้มากเลย พวกเขาบอกว่าช่วยให้เกมสมจริงยิ่งขึ้นไปอีก ประเด็นนี้ก็แล้วแต่คนชอบนะครับผม
ทางด้านผู้เล่นซูเปอร์สตาร์ต่าง ๆ พวกเขาจะมีสกิลสูงกว่านักเตะทั่วไป ซึ่งคุณสามารถเลือกออปชัน เพื่อ “เปิด/ปิด” ความพิเศษเหล่านี้ได้ด้วยนะ! กล่าวคือถ้าคุณเลือก on บรรดานักเตะดาวดังฝั่ง AI จะโชว์ของแบบจัดเต็ม คุณหยุดพวกเขาได้ยากมา (อาจต้องอาศัยการสไลด์เข้าสกัด) แต่มันก็เพิ่มความสนุกสมจริงได้อย่างมีนัยยะ และหากคุณเลือก off พวกเขาก็จะเล่นแบบนักเตะทั่วไปในทีม แค่มีสกิลพื้นฐานสูงกว่าเท่านั้น
สำหรับบรรดาโหมดเก่า ๆ ที่พวกเราคุ้นเคยกันดีก็จะมีการปรับปรุงพวกกราฟิกเมนู, หน้าตาผู้จัดการทีมมีความสมจริงมากขึ้น, หน้าตานักเตะมีการอัปเดตตามภาพลักษณ์ล่าสุด, แอนิเมชันท่าดีใจมีความหลากหลายมากกว่าเดิม ฯลฯ ส่วนที่เหลือนั้น…ก็ให้ความรู้สึกระหว่างเล่นเหมือนกันกับภาค 24 นั่นแหละครับ แค่เขาปรับให้ดีขึ้นในทุกภาคส่วน ไอ้นู่นนิดไอ้นี่หน่อย
สรุปแล้ว EA Sports FC 25 คือการปรับปรุงเกมฟุตบอลให้สมบูรณ์มากขึ้นจากภาค 24 ผมเข้าใจว่า ตอนสมัยที่เขาทำภาค 24 เขาต้องยกเครื่องเกมใหม่หมดจากภาค FIFA23 เพราะหมดสัญญากับฟีฟ่า ทำให้ตัวเกมจำเป็นต้องปล่อยผลงานที่เป็นโปรโตไทป์ออกมาก่อนถึงจะเห็นจุดบกพร่องว่าอะไรมันควรแก้ไขให้ดีขึ้นได้อีก คือถ้าไม่เริ่มต้นทำใหม่มันก็ไม่มีทางเห็นรูปแบบที่ดีกว่าหรอกครับ จริงมั้ย? และเมื่อปล่อย FC24 ออกไปแล้ว ถึงค่อยมาดูว่าส่วนไหนได้รับผลตอบรับอย่างไรบ้างจากแฟนเกม แล้วค่อยมาปรับจูนจนได้ออกมาเป็น FC25
ซึ่งตัวเกม FC25 นี่แหละ ที่ผมมองว่า เป็นจุดสตาร์ตที่แท้จริง เป็นเกมฟุตบอลที่เริ่มมาถูกทางของบริษัท EA และมันจะกลายเป็นตัวตั้งต้นที่ดีในการพัฒนาต่อยอดให้ดียิ่งขึ้นไปอีก (โดยเฉพาะการเพิ่มบรรดาลีกชั้นนำของโลกให้มีมากขึ้นกว่าเดิมในอนาคต)
สำหรับใครที่กระโดดข้ามภาค 24 มา ผมว่าถึงเวลาแล้วล่ะ ที่คุณจะหันมาพิจารณา FC25 อย่างจริงจังเพื่อซื้อหามาเก็บไว้เล่นที่บ้าน แต่ถ้าคุณมีภาค 24 อยู่แล้ว ผมก็ขอแนะนำให้คุณอ่านรีวิวชิ้นนี้ให้จบ แล้วลองไปหาวิดีโอเกมเพลย์ของบอล RUSH 5v5 ดูว่าคุณสนใจโหมดใหม่นี้มากแค่ไหนครับ แล้วก็ลองถามใจตัวเองกันดูว่าจะ…ซื้อหรือไม่ซื้อ