ในงาน Tokyo Game Show 2024 นี้ เราได้มีโอกาสสัมผัสกับเดโมของเกมสุดยอดสายลับที่หลายคนรอคอยอย่าง Metal Gear Solid Delta มาครับ ซึ่งเราก็ต้องขอขอบคุณ Konami ที่ให้โอกาสและเชิญชวนเราเข้าไปเล่นเดโมมา ณ โอกาสนี้ด้วย
ก่อนที่เราจะได้เล่นเดโมนั้น กลุ่มของผมจะถูกเชิญเข้าไปในพื้นที่ที่ตกแต่งผนังด้วยอุปกรณ์การทหาร พร้อมด้วยหน้าจอมอนิเตอร์หลายตัวเพื่อให้ทุกคนได้รับชมคัตซีนเริ่มต้นเกมไปพร้อมกัน ถามว่าเป็นคัตซีนอะไรล่ะ? มันก็คือคัตซีนที่ผมเชื่อว่าหลายคนน่าจะจำกันได้เป็นอย่างดีครับ เปิดมาด้วยข้อความอันแสนคุ้นเคยว่า
After the end of World War II, the world was split into two — East and West. This marked the beginning of the era called the Cold War.
จากนั้นก็จะเป็นคัตซีนอธิบายภารกิจในช่วงต้นเกมที่หากคุณเคยเล่นต้นฉบับมาครั้งแล้วครั้งเล่าล่ะก็ คุณจะจำบทพูดได้แทบทุกประโยค รวมถึงตัวละครต่าง ๆ ที่ปรากฏตัวแน่ ไม่ว่าจะเป็น Para-Medic เอย Major Zero เอย แล้วก็แน่นอน Naked Snake พระเอกในภาคนี้ของเรา แต่ในความคุ้นเคยมันก็มีความสดใหม่ให้ได้ชมแน่นอน เพราะกราฟิกนั้นได้รับการพัฒนาขึ้นไปจากเดิมแบบมากมายมหาศาล รายละเอียดของตัวละครเอย เสื้อผ้าเอยและวัตถุประกอบฉากนั้นเนี้ยบและคมกริบมาก
และเมื่อคัตซีนจบลงที่ Snake ลอยตัวลงมาเข้าสู่พื้นที่ Tselinoyarsk แล้ว เราก็ได้เคลื่อนพลกันเข้าไปสู่พื้นที่บูธสำหรับเล่นเดโมครับ แน่นอนว่าการจัดพื้นที่ในครั้งนี้ก็มีกิมมิคที่เข้ากับตัวเกมมาก เพราะทำออกมาเสมือนอยู่ในป่าที่ Snake ต้องไปปฏิบัติภารกิจนั่นล่ะครับ
ในบทความนี้ผมจะขอกล่าวถึงระบบการเล่นที่ได้สัมผัสมาและสังเกตเห็นเป็นหลักครับ อย่างแรกเลยก็คือบรรดาระบบอันเป็นเอกลักษณ์ประจำภาคยังคงมีอยู่ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นการกดเลือกอาวุธหรือเลือกไอเท็มจาก backpack ออกมาเพื่อกดเลือกใช้ระหว่างเล่น ระบบค่าพลังงานที่สามารถเติมได้จากการหาอาหารมากิน ระบบพรางตัวที่มีบอกความเข้ากันได้กับสภาพแวดล้อมจากชุดที่เราใส่ ฯลฯ ทั้งหมดทั้งมวลมันคือสิ่งที่พวกคุณคุ้นเคยจากต้นฉบับหมดเลย
แต่การรีเมกครั้งนี้ก็มาพร้อมกับการปรับปรุงตัวเกมที่พื้นฐานเดิมนั้นดีอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้นไปอีกครับ
สิ่งที่ต้องพูดถึงเลยก็คือบรรดา Quality of Life Improvement ต่าง ๆ ที่ทำให้การเล่นนั้นลื่นไหลฉับไวกว่าเดิมมาก ผมเชื่อว่าทุกคนน่าจะทราบกันดีว่าในต้นฉบับนั้นเมื่อคุณจะเปลี่ยนชุดพรางทีนึง ก็จะต้องกดสตาร์ตเข้าหน้าจอเมนูแล้วเลือกชุดกันทีนึง ซึ่งหากเป็นปัจจุบันนี้มันจะทำให้เกมเพลย์สะดุดไม่ต่อเนื่อง หรือการจะกดวิทยุติดต่อคุยกับใครก็ต้องกดเข้าหน้าจอแยกต่างหากอีกเหมือนกัน
ในรอบนี้ ทุกอย่างเลยสามารถทำได้ในขณะที่เล่นอยู่เลยอย่างชุดพรางก็จะมีคีย์ลัดที่เรียกหน้าจอลายพรางขึ้นมาได้ทันทีคล้ายกับเวลาเราจะกดเลือกอุปกรณ์หรืออาวุธมาใช้ พร้อมกับมีอัตราการพรางตัวบอกเสร็จสรรพว่า ณ จุดนั้นลายไหนจะเพิ่มการพรางตัวเท่าไรหรือลดไปเท่าไร เมื่อเลือกแล้วเกมก็จะตัดภาพเพียงครู่เดียวชุดพรางเราก็จะเปลี่ยนพร้อมให้เราเล่นต่อได้ทันที แม้แต่การติดต่อวิทยุหาพรรคพวกของเราก็กดคีย์ลัดเลือกได้เลยเหมือนกัน (แต่เวลาคุยก็ยังตัดฉากคุยเหมือนต้นฉบับนะ)
จุดหนึ่งที่ต้องพูดถึงก็คือรูปแบบการเล่นที่เพิ่มเข้ามาครับ หลายคนคงจำกันได้ว่าในต้นฉบับนั้น Snake จะเคลื่อนไหวได้แค่สองแบบคือเดิน/วิ่ง และหมอบคลาน ในคราวนี้เกมก็เพิ่มรูปแบบการย่อตัวเดินเข้ามาเหมือนอย่างภาค MGS4 และ MGSV มาให้เรียบร้อยแล้ว จึงทำให้เกมคล่องตัวกว่าเดิมมาก ท่าทางการเคลื่อนไหวต่าง ๆ นั้นก็ลื่นไหลและตอบสนองต่อการกดได้ทันใจครับ ไม่มีการดีเลย์ตรงไหนหรือรู้สึกว่ามันช้าไปเลย ผมเชื่อว่าถ้าคุณคิดว่าระบบเกมเพลย์ของต้นฉบับมันดีมากอยู่แล้ว เมื่อคุณได้ลองเล่นการรีเมกครั้งนี้คุณจะยิ่งชอบมันมากกว่าเดิม
ระบบ CQC นั้นยังคงลึกซึ้งและหลากหลายไม่แพ้ต้นฉบับ คุณยังคงล็อกคอศัตรูขู่เข็ญเพื่อรีดข้อมูลได้ จับเชือดกระเดือกได้ รัดคอให้สลบได้ ทุ่มให้หลับได้ ผลักลงพื้นแล้วจี้ให้หมอบราบได้ ฯลฯ อะไรที่คุณจำได้จากต้นฉบับนั้นกลับมาหมดในรอบนี้ (และเราก็แอบหวังว่าเกมจะเพิ่มท่า CQC ใหม่ ๆ ลงมาให้ใช้ด้วยนะ)
รูปแบบการเล็งยิงจากเดิมที่ค่อนข้างจะแอบขลุกขลักในต้นฉบับ เพราะมีแค่การเล็งออโต้ในระยะใกล้ ๆ ถ้าจะเอาแม่นก็ต้องเล็งยิงในแบบมุมมองบุคคลที่ 1 นั้น คราวนี้ก็ปรับปรุงให้ทันสมัยขึ้นตามแบบฉบับของ MGS4 และ MGSV นั่นล่ะครับ คือเมื่อเล็งแล้วจะเป็นมุมมองผ่านหัวไหล่เพื่อให้คุณเลือกเล็งได้สะดวกขึ้นและแม่นยำขึ้น แต่ถ้าใครอยากเล็งแบบ FPS ก็สามารถทำได้เหมือนกัน
แม้กระทั่งการเข้าแนบกับที่กำบังก็ปรับเปลี่ยนรูปแบบให้ทันสมัยเหมือน MGSV ครับ นั่นคือเมื่อคุณเข้าประชิดกับต้นไม้ หรือผนังแล้ว Snake จะทำการแนบตัวหลบโดยอัตโนมัติ ไม่จำเป็นต้องดันอนาล็อกทิศทางค้างเอาไว้แบบต้นฉบับ และหากจะส่งเสียงเพื่อล่อหลอกศัตรูก็จะไม่เป็นการเคาะแล้วแต่ Snake จะออกท่าทางเป็นการสะบัดข้อมือที่คล้ายกับใน MGSV แทน
อีกหนึ่งองค์ประกอบที่ต้องพูดถึงก็คือความเนี้ยบในส่วนของรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ประกอบเกมครับ เมื่อคุณพา Snake ไปลุยบึงลุยโคลนแล้ว รอยเปื้อนมันก็จะติดตัวไปด้วย และเมื่อเข้าฉากคัตซีนนั้นถ้าตัวคุณเปรอะแบบไหนก็จะเปรอะแบบนั้นในคัตซีนครับ แม้กระทั่งฉากคุยวิทยุก็ยังเห็นเลยว่าเปื้อนดินเปื้อนโคลน จุดนี้ต้องชมในความเอาใจใส่ของทีมงานจริง ๆ
ทั้งหมดทั้งมวลที่ผมได้ลองเล่นมานี้ ถ้าหากว่าตัวเกมจริงที่วางจำหน่ายนั้น Konami สามารถคงคุณภาพของเกมไว้ได้ในลักษณะนี้ตั้งแต่ต้นจนจบล่ะก็ นี่จะถือเป็นอีกหนึ่งผลงานรีเมกคุณภาพแน่นอนครับ
อ้อ หลังจบเซชชันแล้ว Konami ก็ให้เสื้อลายสุดเฉียบสุดเท่มาเป็นของที่ระลึกอีกด้วยนะ
