Reviews

Capcom fighting collection 2 – รีวิว [REVIEW]

โดย ปอลนาโช่

รีวิว Capcom fighting collection 2

*ขอขอบคุณ Capcom สำหรับโค้ดรีวิวมา ณ โอกาสนี้ครับ
**รีวิวนี้เล่นบน PlayStation 5

รอบนี้พวกเราได้โค้ดย้อนหลังวันวางขายค่อนข้างนานเลยครับ เชื่อว่ารีวิวจากเจ้าอื่นคงเผยแพร่กันไปเยอะแล้ว ดังนั้น บทความในคราวนี้จะหนักไปทางชวนกันตั้งวงพูดคุยถึงเกมนี้ คล้าย ๆ สไตล์คอลัมน์ที่ผมเคยเขียนลงให้กับหนังสือพิมพ์ข่าวสดเมื่อนานมาแล้ว ก็แล้วกันนะครับ

ถ้าว่ากันโดยส่วนตัวแล้ว ผมตั้งตารอ “collection 2” ของแคปคอมมากที่สุดแล้วตั้งแต่เขาทำกันมา เพราะในแพ็กเกจนี้บรรจุเกมโคตรดีอย่าง Capcom vs. SNK 2: Mark of the Millennium 2001 เอาไว้ด้วย (บางคนอาจขอรวม Capcom vs. SNK: Millennium Fight 2000 Pro ด้วยอีกเกม เพราะเป็นเกมที่ดีมาก ๆ อีกภาคหนึ่ง)

ส่วนอีกเกมที่ผมยังคงรอคอยอยู่เสมอก็คือ Street Fighter X Tekken ได้โปรดทำออกมาเร็ว ๆ นะครับ แคปคอม ผมเชื่อว่ามีคนรอเล่นแน่นอน 555

อ่ะมาว่ากันต่อ, โดยใน Capcom fighting collection 2 เขาทำเกมมาพร้อมโหมดออนไลน์และโหมดฝึกฝน นอกจากนั้นแล้วยังมีฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่ไม่เคยมีในตอนวางจำหน่ายเกมครั้งแรก อันประกอบไปด้วยล็อบบี้และโหมดผู้ชมสำหรับอีเวนต์และทัวร์นาเมนต์ออนไลน์, โหมดแกลเลอรีไว้ชมภาพคอนเซปต์หายากและ BGM ในเกมของแต่ละเกม

ก็ถือว่าเป็นฟีเจอร์ปกติทั้งหลายในยุคนี้ที่จัดมาแบบครบ ๆ นั่นเอง

ทีนี้มาไล่ดูกันไปทีละเกม เริ่มจาก

Capcom vs. SNK: Millennium Fight 2000 Pro

เกมต่อสู้นี้เริ่มเปิดให้เล่นในอาร์เขดปี 2001 โดยเต็มไปด้วยตัวละครอันโดดเด่นมากมายจากทั้งสองบริษัท ไม่ว่าจะเป็น Ryu, Kyo, Chun-Li, และ Mai ซึ่งก้าวข้ามกำแพงระหว่างผู้พัฒนาสองค่าย จุดเด่นของภาคนี้ที่พูดถึงกันเยอะมากก็คือ รายละเอียดด้านกราฟิกของฉากหลัง ที่สวยงาม คมชัด และเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว บางคนชอบภาคนี้มากกว่าภาคใหม่ ๆ ที่ตามออกมาในภายหลังด้วยเหตุผลนี้เลยนะ! ทำเป็นเล่นไป

Capcom vs. SNK 2: Mark of the Millennium 2001

นี่คือภาคที่สองของการครอสโอเวอร์ในแบบ VS. SNK ซึ่งภาคนี้จะมีตัวละครใหม่ที่ไม่เคยปรากฏในภาคก่อนหน้า เช่น Maki จาก Final Fight 2, Rock จาก Garou: Mark of the Wolves และ Kyosuke จาก Project Justice! โดยว่ากันว่า นี่คือหนึ่งในเกมต่อสู้ที่ดีที่สุดเกมหนึ่งเลยทีเดียว และเมื่อผมได้ลองเล่นเองแล้วก็ต้องบอกว่า “เกมมันอมตะ ไร้กาลเวลา ลงตัวแบบไม่มีตกยุค” คือ…มันค่อนข้างสมบูรณ์แบบในฐานะเกมต่อสู้มาก ๆ ครับ เล่นสนุก เล่นมันส์ ระบบดี, ลึก แค่เกมนี้เกมเดียวก็คุ้มแล้วอ่ะสำหรับแพ็กเกจนี้

Capcom Fighting Evolution

เกมต่อสู้ที่รวบรวมเอาตัวละครจากเกมต่อสู้ 2D ทั้งห้าเกมของ CAPCOM มารวมกัน โดยเปิดให้เล่นในอาร์เขดปี 2004 บรรดาตัวละครจากแต่ละเกมจะใช้ระบบการเล่นในแบบเกมของตัวเอง จึงก่อให้เกิดเป็นประสบการณ์อันไม่เหมือนใครที่เป็นองค์ประกอบด้านกลยุทธ์มากกว่าแค่การเลือกตัวละคร…แต่สิ่งที่ผมรู้สึกขัดตามากกับเกมนี้คือ กราฟิกค่อนข้างแย่ และเขาปรับปรุงให้ดีขึ้นไม่ได้เลย ทำให้อรรถรสในการเล่นลดลงไปเยอะมากถึงมากที่สุด

Street Fighter Alpha 3 UPPER

เกมต่อสู้ที่เปิดให้เล่นในอาร์เขดปี 2001 ซึ่งต่อยอดมาจากบอร์ดอาร์เขดของ Street Fighter Alpha 3 พร้อมด้วยองค์ประกอบต่าง ๆ ที่เพิ่มเข้าไปในเวอร์ชันคอนโซล โดยมีตัวละครใหม่อย่างเช่น Dee Jay และ Guile โดยนี่เป็นเกมคุ้มค่าอันดับสองในชุดมัดรวมครั้งนี้ในสายตาของผม เกมสนุก ลงตัว แข่งออนไลน์สนุก รวดเร็วทันใจ เล่นเพลิน ผมเปิดเล่นบ่อยรองจากภาค Mark of the Millennium 2001

Project Justice

เกมต่อสู้ที่เปิดให้เล่นในอาร์เขดปี 2000 ตัวละครใหม่ถูกเพิ่มเติมเข้ามาจากภาคก่อนหน้านั่นคือ Rival Schools ซึ่งในคราวนี้ผู้เล่นจะเลือกตัวละครได้พร้อมกันสามตัว และใช้การโจมตีที่เรียกว่า Trinity of Justice and Courage เพื่อจู่โจมพร้อมกัน ในโหมดเนื้อเรื่องนั้นผู้เล่นจะสามารถเลือกตัวละครจากโรงเรียนต่าง ๆ ได้โดยจะมีเรื่องราวที่แตกแขนงออกไปขึ้นอยู่กับการเล่นของผู้เล่น และเกมนี้เป็นเกมที่เล่นโหมด Story สนุกอย่างเหลือเชื่อ เนื้อเรื่องฮาสุด ๆ ระบบต่อสู้ก็ดีมากครับ

Power Stone

เกมแอ็กชันแข่งขันที่เปิดให้เล่นในอาร์เขดปี 1999 ที่ตัวละครจะมาแปลงร่างและปลดปล่อยท่าอันทรงพลังได้ด้วยการเก็บสะสม Power Stones ซึ่งจะปรากฏขึ้นในฉาก 3D แต่! ภาคแรกนี้ผมมองว่าตัวเกมยังมีจุดอ่อนเยอะ เกมเร็วและวุ่นวายเกินไป วางแผนลำบากเพราะมันเร็วไป และที่แคบเกินไป เล่นแล้วจะรู้เลยว่าภาค 2 ทำได้ดีกว่าเยอะมาก

Power Stone 2

เกมแอ็กชันแข่งขันที่เปิดให้เล่นในอาร์เขดปี 2000 เป็นภาคต่อของ Power Stone ตัวเกมจะเปลี่ยนจากการต่อสู้แบบ 1 ต่อ 1 ไปเป็นรูปแบบ 4 ผู้เล่น ในสไตล์แบทเทิลรอแยล ก่อให้เกิดเป็นการเล่นที่เข้มข้นกว่าเดิม และขยายตัวเลือกด้านกลยุทธ์ออกไปอีกมาก เล่นแล้วสนุกกว่าภาคแรกเยอะมาก เพราะเขากำจัดจุดอ่อนได้ตรงเป้า ฉากมันกว้างขึ้นและเปลี่ยนแปลงไปตามการต่อสู้ ทำให้มันสนุกและคนเล่นวางแผนลงมือได้ทัน

Plasma Sword: Nightmare of Bilstein

เกมต่อสู้ที่เปิดให้เล่นในอาร์เขดปี 1998 นอกเหนือไปจากท่าฟันแนวตั้ง, ฟันแนวนอนและการเตะแล้ว ยังมีการเคลื่อนไหวเช่นการอ้อมคู่ต่อสู้และการโจมตีต่อเนื่องด้วย ซึ่งก่อให้เกิดเป็นความลึกซึ้งด้านกลยุทธ์ของเกมต่อสู้ 3D

ด้านโหมดการต่อสู้แบบต่าง ๆ ก็ได้แก่ Casual Match สำหรับการเล่นสบาย ๆ Ranked Match ที่อันดับของผู้เล่นจะเปลี่ยนไปตามแต้มที่ได้รับจากชัยชนะหรือความพ่ายแพ้ Custom Match ที่คุณสามารถสร้างล็อบบี้แล้วสนุกไปกับการต่อสู้และรับชมการต่อสู้กับผู้อื่น และ High Score Challenge สำหรับการเล่นคนเดียว

สรุป

เกมนี้เหมาะกับการซื้อแล้วอินสตอลลงเครื่องไว้เล่นแบบยาว ๆ ไม่ต้องลบออกได้เลย เบื่อ ๆ เหงา ๆ ก็เปิดมาเล่นได้เรื่อย ๆ โดยเฉพาะถ้าคุณเป็นแฟนพันธุ์แท้เกมต่อสู้ หรือมีจอยอาร์เคดสติ๊กแล้วอยากได้เกมต่อสู้มาสะสมเพิ่มเติม ถ้าจะให้ผมตำหนิ ก็มีข้อเดียวนั่นคือ ทำไมเขาไม่ปรับกราฟิกให้คมชัดและขยายเต็มจอโดยไม่เสียสเกล, ทำไมไม่ทำ? ผมไม่เข้าใจเลย มันทำไม่ได้หรือยังไง? ผมเชื่อเหลือเกินว่า ถ้าทำตามที่ผมบอก เกมจะดูดีกว่านี้เยอะมากเลยครับ

The Review

85% นี่คือแพ็กมัดรวมที่ดีที่สุดตั้งแต่ทำมา

เกมนี้ยังมีการออกท่าพิเศษได้ด้วยการกดเพียงปุ่มเดียวด้วยนะ เล่นคล้าย ๆ ระบบโมเดิร์นของ SF6 นั่นแหละ

85%

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ข้ามไปยังทูลบาร์