Ultra Age – รีวิว [Review]

*ขอขอบคุณ Intra Games สำหรับโค้ดเพื่อการรีวิวในครั้งนี้ด้วยครับ

**รีวิวนี้เล่นบน PC

บอกตามตรงครับว่า หลังจากได้ดูตัวอย่าง Ultra Age ก่อนเล่น คิดในใจแต่แรกเลยว่า “ต้องเล่นจริง ๆ เหรอวะ” เกมที่ดูยังไงก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าส่งกลิ่น Devil May Cry คละคลุ้งตั้งแต่ใบปิด แต่มาในสเกลอินดี้ทื่ไม่รู้ว่ามันจะเวิร์กมั้ย พอชีวิตเดินมาถึงจุดนี้ทำให้ต้องลองเปิดใจดูสักครั้ง และผมก็เล่นมันจบภายในระยะเวลาไม่น่าเกิน 7 ชั่วโมง

สิ่งที่ดังในใจผมทันทีนั่นคือคำพูดที่หลาย ๆ คนเคยบอกว่า อย่าให้ตัวอย่างเกมใด ๆ ก็ตามมันจกตาเรา และนี่คือรีวิวของ Ultra Age ในสายตาผมครับ

เนื้อเรื่อง

Ultra Age มีเรื่องราวในธีมไซไฟผจญภัย พระเอกชื่อนาย Age ได้รับดำริให้ออกเดินทางมาทำภารกิจพร้อม AI คู่ใจชื่อ Helvis โดยแลกกับการที่เขาจะได้ความเป็นอมตะหากทำสำเร็จ แต่ภารกิจที่ดูเหมือนไม่ซับซ้อนกลับซ่อนประวัติศาสตร์แห่งเทคโนโลยีล้ำหน้าในโลกเก่า และแผนการลับที่เขาต้องพยายามค้นหาความจริงให้ได้ จะเป็นอย่างไรนั้น คงต้องรอให้คุณไปพิสูจน์กันเอง

สิ่งแรกที่จะพูดก่อนเลยคือ จังหวะดำเนินเกม Ultra Age เป็นของที่เชยสาหัสจริง ๆ มันเหมือนทีมงานตั้งสูตรสำเร็จการเดินเรื่องขึ้นมา 1 แบบ แล้ววนลูปมันไปทั้งเกม นั่นคือแบ่งเรื่องราวออกเป็นบท ในแต่ละบทเราต้องออกเดินทางไปแอเรียใหม่ ๆ พบฝูงศัตรู พบรองบอส เปิดกลไกบางอย่าง ปิดฉากด้วยเจอบอสประจำบทนั้น ซึ่งหากพูดอย่างยุติธรรม เกมชื่อดังจำนวนมากก็มีโครงสร้างแบบนี้ แต่เนื้อในของแต่ละช่วงมันมีซ่อนปริศนาหรือการเผยเรื่องราวชวนติดตามอยู่ น่าเสียดายว่า Ultra Age แทบไม่มีสิ่งเหล่านั้นเลย ยิ่งไปกว่านั้น การเดินเรื่องบางช่วงยังมีการเอาฉากเดิมมารีรันให้เล่นใหม่ด้วย!

ความเลวร้ายยังไม่จบลงแค่นั้น เกมยังเลือกวิธีการเล่าเรื่องแบบเน้นบทสนทนา ซึ่งจะขึ้นค้างเอาไว้จนกว่าเราจะกดข้ามไป ผมต้องพูดตามตรงว่า ถึงงานเขียนบทสนทนาจะทำออกมาดีใช้ได้ งานพากย์ของเกมนี้กลับทำให้เสียงพูดของสิริ หรือ Google Translation ดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ

นอกจากจังหวะแบบวนลูป หน้าตาพระเอกที่ออกแบบมาเข้าขั้นคล้ายตุ๊กตายาง 3 มิติ การดำเนินเรื่องแบบเน้นอ่านน้ำเสียงโมโนโทน Ultra Age ยังมีการใส่ตัวละครเข้ามาแบบไม่รู้จะใส่มาทำไมอีกด้วย มีตัวละครบางตัวที่โผล่มาเหมือนจะมีบทบาทสำคัญ แต่ด้วยช่วงเวลาของเกมแสนสั้น มันเลยแทบจะไม่ได้สร้างความชอบธรรมของการมีมันอยู่ในเกมเลย

สำหรับเนื้อเรื่องแล้ว มันไม่ใช่เรื่องน่าเสียดายหรือผิดบาปอะไรเลยครับ ถ้าคุณจะหั่นสมองออกสัก 3 ใน 4 เพื่อเล่นเกมนี้ คุณสามารถที่จะกดข้ามและไม่ต้องใส่ใจกับเรื่องที่มันจะเล่าก็ได้ เอาเข้าจริง พอเล่นจนจบแล้วผมรู้สึกเหมือนเกมพาเราเดินทางมาได้ครึ่งเรื่องแล้วตัดจบไปอย่างนั้น

Gameplay

หากสิ่งที่พยุง Red Dead Redemption 2 เอาไว้คืองานเขียนบท สิ่งที่คอยผลักดันให้ Ultra Age ยังเอาชีวิตรอดไปได้คือ Gameplay ท่ามกลางสภาพหลายอย่างที่เกือบเข้าขั้นเวทนาตามที่ว่าไป

อาวุธในเกมจะมีความหลากหลายพอ ๆ กับใบหน้าตายด้านของ Age ก็คือดาบ ดาบ และดาบครับ แต่สิ่งที่ต้องยอมใจเกมนี้จริง ๆ คือ กลไกอาวุธที่ทำให้มันไม่เหมือนใคร ดาบทั้งหมดของคุณจะต้องใช้ Helvis สกัดออกมาจากคริสตัล ทำให้ดาบแต่ละชนิดมีจำนวนที่ใช้ได้จำกัด และมีค่าความคงทนของตัวเอง ถ้าค่าความคงทนของมันใกล้หมด Age จะสามารถใช้ท่าไม้ตายเฉพาะของดาบเล่มนั้น ๆ ได้ เมื่อค่าความคงทนหมดแล้ว จะถือว่าคุณเสียดาบเล่มนั้นไป 1 เล่ม และต้องไปสกัดคริสตัลเพื่อเติมจำนวนเอา ต้องยอมรับว่านี่เป็นระบบจัดสรรทรัพยากรในเกมที่แหวกแนวใช้ได้

นอกจากตัวละครจะมีระบบอาวุธที่ดีแล้ว ฝ่ายศัตรูก็ต้องออกแบบมาให้สูสีกัน เอาจริง ๆ ถ้าไม่นับเรื่องการเอาศัตรูหน้าเดิม ๆ มารีรัน สมดุลของเกมอยู่ในระดับดีเลยทีเดียว ไม่ยากและไม่ง่ายเกินไป ศัตรูมีแบ่งระหว่างสิ่งมีชีวิตกับเครื่องจักร ซึ่งแพ้ดาบต่างชนิดกัน ดาบอย่าง Claymore เหมาะจะฟัดกับพวกหุ่นยนตร์มือหนัก ในขณะที่ Katana ก็ใช้หั่นพวกสิ่งมีชีวิตได้คล่องตัวกว่าดาบเล่มอื่น ระบบเปลี่ยนอาวุธไปมาทำได้ลื่นไหล การต่อคอมโบไม่ลึกและซับซ้อนเท่า DMC แต่ก็เปิดช่องให้เราสนุกกับการออกแบบกระบวนท่าของตัวเองพอสมควร

และถ้าไม่นับพวกลิ่วล้อรายทาง งานออกแบบบอสถือได้ว่าทำออกมาดีแทบทุกตัว ทั้งการปราบ การเปลี่ยนเฟสของบอส รวมถึงฉากต่อสู้เมื่อเราชนะมันแล้ว หลายอย่างเข้าเส้นเกม AAA ไปเลย การเล่นเกมนี้เลยเหมือนเวลาผู้ใหญ่รุ่นดึกดูหนังแนวแอ็คชันสมัยก่อน คือกดข้ามฉากคุยแล้วดูแต่ฉากสู้กันเอาบันเทิงอย่างเดียว ซึ่งมันก็เป็นมวลอารมณ์ที่ลากผมแบบถูลู่ถูกังไปจนจบเกมได้

กราฟิก

สำหรับคุณภาพของกราฟิก Ultra Age เหมือนเป็นเกมรีมาสเตอร์ของเจนก่อน ที่ถูกเอามาวางจำหน่ายในปี 2021 ด้วยโมเดลตัวละครหน้าตาย พร้อมเฟรมเรทที่ตกอย่างเห็นได้ชัดหลายช่วง แต่ไม่ถึงกับเล่นไม่ได้ อันที่จริงผมไม่ชอบการที่เกมหลายเกมใช้คำว่าอินดี้มาบังหน้า เพื่อจะหาความชอบธรรมในการนำเสนอสินค้าคุณภาพไม่ถึงเกณฑ์เพราะหลงคิดว่าศักยภาพทีมตัวเองมีสูง ระดับกราฟิกของ Ultra Age สำหรับผมเลยคาบเส้นมาก ๆ

สรุป

สรุปแล้ว นี่เป็นอีกเกมที่ผมสามารถแนะนำได้เลยว่าให้หั่นสมองบางส่วนทิ้งไปตอนเล่นก็ได้ เพราะคุณภาพของงานพากย์ จังหวะเกม และการวางบทนั้นมันไม่มีที่ว่างให้กับความกระหายในเนื้อเรื่องเลย ถึงแบบนั้น ผมก็ยังอยากให้คุณเหลือพื้นที่สมองไว้นิดหน่อยเพื่อเสพระบบต่อสู้อันไม่เหมือนใครของมัน และน่าจะเป็น เดอะ แบก เพียงหนึ่งเดียวของเกมนี้…