Just Dance 2022 – รีวิว [REVIEW]

*ขอขอบคุณโค้ดรีวิวจาก Ubisoft Entertainment มา ณ โอกาสนี้ครับ

ก่อนอื่นเลยต้องสารภาพตามตรงว่าตอนที่รู้ว่าต้องรีวิวเกมนี้ผมค่อนข้างหนักใจพอสมควร ด้วยความที่เกมแนวดนตรีนี่ไม่ใช่อะไรที่ถนัดเอาซะเลย มิหนำซ้ำที่ผ่านมาผมก็ไม่เคยเล่น Just Dance มาก่อนสักภาคทำเอาไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นยังไง แต่สุดท้ายพอได้ลองเล่นเข้าจริง ๆ ก็พบว่ามันสนุกกว่าที่คิดเอาไว้มากเลยล่ะครับ

---

ปกติแล้วผมมักจะรีวิวเกมโดยแบ่งหมวดในแต่ละประเด็นที่อยากพูดถึง แต่สำหรับ Just Dance 2022 นี่อาจต้องถือเป็นข้อยกเว้น เพราะเกมดนตรีจะให้พูดถึงเกี่ยวกับเนื้อเรื่องก็คงไม่ใช่ รีวิวนี้ก็เลยเอาเป็นว่าขอพูดรวม ๆ ถึงความรู้สึกที่มีหลังจากได้เล่นก็แล้วกันครับ

ว่ากันแบบตรง ๆ Just Dance 2022 มันก็คือเกมเต้น/เกมดนตรีนั่นแหละ สุดแท้แต่คุณจะเรียกว่าแนวอะไร แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้คนเล่นต้องมีส่วนร่วมมากแบบสุด ๆ ก็คือแทนที่จะนั่งรากงอกบนเก้าอี้แล้วขยับแค่นิ้วไปมา เกมนี้ต้องการให้คุณต้องลุกขึ้นมาส่ายสะโพกโยกย้ายตาม “โค้ช” ที่คุณเลือกในเกม ซึ่งโค้ชก็คือคนนำเต้นนั่นแหละครับ บางเพลงอาจมีโค้ชคนเดียว บางเพลงอาจมีหลายคนซึ่งเราสามารถเลือกได้ว่าจะให้คนไหนเป็นโค้ช พอเลือกได้แล้วสิ่งที่คุณต้องทำก็คือการเต้นตามโค้ชที่คุณเลือกโดยทำท่าทำทางให้เหมือนเป็นภาพสะท้อนในกระจกเลย ซึ่งขอการันตีว่าถ้าใครเป็นคนที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายล่ะก็อาจได้ความรู้สึกเหมือน culture shock ได้ง่าย ๆ เพราะเพียงแค่เล่นเพลงเดียวหรือสองเพลงคุณอาจเหงื่อท่วมเหนื่อยหอบแบบที่นึกไม่ถึงว่ามันจะเหนื่อยขนาดนี้

ถ้าจะมีสิ่งที่ทำให้ผมทึ่งอย่างหนึ่งก็คงเป็นการใช้โทรศัพท์มือถือในการเล่นนี่แหละครับ คือผมมานั่งนึก ๆ ก็ยังนึกไม่ออกว่าทีมงานใช้วิธีอะไรในการทำให้โทรศัพท์มือถือเป็นอุปกรณ์จับท่าทางของคนเล่นได้โดยที่ไม่ต้องอาศัยกล้องเลย แค่เชื่อมสัญญาณของโทรศัพท์เข้ากับเกม กำไว้ในมือแล้วจากนั้นคุณก็สามารถออกท่าทางตามเกมได้ทันที เป็นเกมเต้นที่ไม่ต้องมีอุปกรณ์เสริมก็เล่นได้เลย แถมยังใช้มือถือแทนจอยในการเลือกเมนูได้ด้วย

ทีนี้สิ่งที่ต้องพูดถึงเลยจริง ๆ ก็คือเพลงต่าง ๆ ในเกมครับ ถ้าคุณชอบ K-Pop ก็คงต้องชอบเมื่อได้ยินเพลง Kill This Love ของ Blackpink หรือไม่ก็เพลงดังจากการ์ตูนของดิสนีย์ต่าง ๆ หรือต่อให้คุณไม่ได้ติดตามวงการเพลงในปัจจุบันก็เถอะ เกมก็ยังใส่พวกเพลงคลาสสิคเก่า ๆ ที่คุณจะต้องได้ยินผ่านหูมาแน่ ๆ ไม่ว่าจะ The Final Countdown เอย Eye of the Tiger เอย กระทั่งเพลงที่ดูไม่น่าจะแดนซ์บางเพลง เกมนี้ก็ยังเอามาให้เต้นได้ เรียกได้ว่าต่อให้คุณไม่ค่อยรู้จักเพลงใหม่ ๆ ในปัจจุบัน แต่ถ้าลองหาเพลงเก่า ๆ คลาสสิคก็ต้องมีคุ้นหูสักสามสี่เพลงล่ะครับ จะติดอยู่อย่างเดียวก็คือเพลงคลาสสิคทั้งหลายนี่อยู่ใน Just Dance Unlimited ซึ่งจำเป็นต้องเสียค่าบริการเป็นรายเดือนถึงจะเล่นได้ แต่ถ้าคุณเป็นคนชื่นชอบเกมดนตรีเป็นทุนเดิม มันก็คุ้มค่านะ

จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของ Just Dance ก็คงไม่พ้นความเป็นเกมปาร์ตี้ครับ ไม่ว่าคุณจะอยากใช้เวลากับครอบครัว กับเพื่อน กับคนสำคัญ จะเนื่องในโอกาสอะไรก็แล้วแต่ ทุกคนสามารถใช้โทรศัพท์มือถือมาเล่นร่วมกันได้ทันที หรือถ้าคุณอยากแข่งกับคนอื่น ๆ แบบออนไลน์ก็มีโหมดอย่าง World Dance Floor ให้ไปโชว์ลีลาแข่งกับคนอื่น แสดงให้เห็นกันไปเลยว่าคุณน่ะคือของจริง! (รึเปล่า)

องค์ประกอบอื่น ๆ ก็ชวนให้เพลินได้พอควร โดยเฉพาะถ้าคุณเป็นเกมเมอร์ประเภทที่ต้องเก็บสะสมนู่นนั่นนี่ในเกมให้ครบ เพราะเมื่อเล่นจบแต่ละเพลงคุณก็จะได้เหรียญเอามาไว้ใช้ไขตู้กาชาเพื่อรับของเป็นอวาตาร์ใหม่บ้าง ฉายาใหม่บ้าง อะไรแบบนั้น

โดยรวมแล้ว Jut Dance 2022 นี่ถือเป็นเกมดนตรีที่ผมประทับใจ ทั้งในเรื่องของเพลงที่มีให้เล่น ทั้งในเรื่องความสะดวกในการเล่น และก็ความแม่นยำของการใช้โทรศัพท์ในการเล่นครับ ที่สำคัญคือถ้าคุณไม่มีโอกาสหรือไม่มีเวลาไปออกกำลังกายล่ะก็ เปิด Just Dance 2022 มาเล่นสัก 5-6 เพลงก็เรียกเหงื่อได้ไม่เบาเลยล่ะ ถ้าคุณอยากได้เกมที่เล่นได้ทั้งครอบครัว เกมนี้ถือเป็นอีกเกมที่แนะนำครับ