พรีวิว Park Beyond

ให้ความสร้างสรรค์ออกตัวแรง!

ขอขอบคุณ Bandai Namco Entertainment Asia สำหรับการให้สิทธิ์เข้าทดลองเล่น และร่วมชมคีย์โน้ตของ Park Beyond ด้วยครับ

ไม่นานเกินรอ แฟน ๆ เกมสายสร้างก็จะได้สนุกไปกับการปล่อยให้จินตนาการของคุณโลดแล่นใน Park Beyond เกมสร้างสวนสนุกที่จะไปได้สุดหรือยิ่งใหญ่แค่ไหนก็อยู่ที่วิสัยทัศน์กับการบริหารของคุณ แต่ก่อนจะไปถึงจุดนี้ เราขอมาแชร์ประสบการณ์หลังจากเล่นเดโมมาแล้วให้ฟังครับ

การนำเสนอ

สิ่งที่ผมรู้สึกแปลกใจนิดหน่อยก็คือ Park Beyond มีลักษณะการเล่าเรื่องที่ดูจะจริงจังเป็นพิเศษ เกมจะให้เรารับบทเป็นผู้สร้างวิสัยทัศน์ (Visioneer) ที่ได้ไปพบปะกับบรรดาตัวละครผู้ชี้นำให้เรากลายเป็นนักครีเอตรถไฟเหาะ ไปจนถึงการบริหารกิจการการเงินของสวนสนุกเลยด้วย ในที่นี้ผมจะขอเล่าสิ่งที่เดโมนี้เปิดให้เราสัมผัสก่อน นั่นคือการสร้างรางรถไฟเหาะตามจุดต่าง ๆ ที่กำหนด ซึ่งในส่วนนี้ต้องขอชมการปูเรื่องว่า เรากลายมาเป็นผู้สร้างวิสัยทัศน์ได้ยังไง รวมถึงการคิดบทสนทนาที่ค่อนข้างชวนติดตาม แถมยังมีตัวเลือกตอนพูดคุย ตัวเลือกพวกนี้จะเป็นสิ่งที่คอยกำหนดอุปกรณ์เครื่องเล่นที่เราจะปลดล็อคมาใช้กับสวนสนุกของเรา แต่ในใจผมคิดว่าเกมตัวเต็มจะต้องมีอะไรมากกว่านี้แน่นอน

พูดง่าย ๆ ว่า Park Beyond เป็นการผสมผสานองค์ประกอบของการเล่าเรื่อง ให้เดินควงแขนไปกับเกมเพลย์แนว Simulation อย่างจริงจัง เป็นแง่มุมที่เราไม่ค่อยคุ้นมากนัก แต่ก็น่าสนใจที่จะได้รอดูเมื่อเกมเต็มออกมา

เกมเพลย์

ต่อจากนี้จะเป็นประสบการณ์ของเกมเพลย์ ทั้งในส่วนภารกิจแรก และส่วนที่เรียกว่า Sandbox

ยังเป็นเรื่องด่วนสรุปเกินไปมากที่จะตัดสินอะไรตอนนี้ และโดยเฉพาะเดโมตัวนี้ที่ผมได้ลองมา ตัวเกมยังเหมือนอยู่ในช่วง Alpha หรือเริ่มต้นพัฒนา แต่ในภารกิจแรกจะเป็นเรื่องการสอนวิธีวางราง ทั้งรางเลี้ยว รางต่ำ รางสูง และให้ของเล่นเรามาลองครีเอตเส้นทางกันนิดหน่อย โดยภาพรวมเกมทำเครื่องมือออกมาให้เข้าใจง่าย ใช้เวลาไม่นานก็เข้าใจแกนหลักของเครื่องเล่นตัวนี้ ในภารกิจแรกเราต้องต่อรางหลากหลายรูปแบบเพื่อให้รถไฟเหาะของเราข้ามผ่านอุปสรรคต่าง ๆ ในเมืองไปได้จนถึงสวนสนุกที่น่าจะเป็นสนามเล่นที่แท้จริง

ผังเมืองของเกมมีงานออกแบบที่ท้าทายและกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ในการปรับใช้เครื่องมือทั้งหมด คุณสามารถสร้างปืนใหญ่เอาไว้ยิงรถไฟจนข้ามท่อบนเครน สร้างช่วงตีลังกาบนตึกสูง และอีกสารพัดเท่าที่จะนึกออก โดยเกมจะคอยเป็นพี่เลี้ยงให้เราว่าจุดไหนสามารถวางรางได้หรือไม่ได้ จุดไหนที่รถไฟไม่สามารถเหาะไปถึง

ส่วนของ Sandbox

ตรงกันข้ามกับภารกิจแรก ส่วน Sandbox นับว่าเป็นอะไรที่สุดโต่งหรืออยู่อีกปลายด้านหนึ่งของภารกิจแรกเลย ในโหมดนี้ เกมจะปฏิบัติกับคุณราวกับว่าคุณได้ปริญญาสายบริหารจัดการมาแล้ว เพราะฟังก์ชันส่วนใหญ่ของเกมจะเปิดให้คุณได้เล่นจริง ๆ เลย ในโหมด Sandbox นี้ การสร้างรางรถไฟเหาะเป็นเพียงส่วนหนึ่งจากกิจกรรมนับร้อยพัน ยังมีการจัดวางเครื่องเล่นชนิดอื่น ๆ การปูทางเดิน การวางสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งห้องน้ำ ร้านอาหาร ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น…

หัวใจสำคัญของ Park Beyond คือมันเรียกร้องสายตาของนักบริหารอย่างเข้มข้น ยกตัวอย่างเครื่องเล่นแต่ละชิ้นที่ไม่ใช่ว่าแค่หาทำเลเหมาะเจาะจะจบแค่นั้น ยังต้องมาดูกันด้วยว่าเครื่องเล่นชนิดไหนที่เหมาะกับวัยรุ่น วัยผู้ใหญ่ หรือครอบครัว ลงลึกไปถึงการจัดการอารมณ์ความรู้สึกของคนที่มาสวนสนุกของคุณด้วย หากพวกเขาต้องเข้าคิวรอเล่นเครื่องเล่นนานมากเกินไป คุณก็อาจต้องเสริมม้านั่งเข้าไปให้พวกเขาใช้รอคิวด้วย

และแน่นอนครับว่า คุณทำสวนสนุก ไม่ได้ทำโรงทานการกุศล การคำนวณรายได้และการลงทุนกับเครื่องเล่นใหม่ ๆ จะต้องมีการทบทวนกันตลอดเวลา โดยในส่วนนี้ตัวละครที่ชื่อ Izzy จะมารับหน้าที่ที่ปรึกษาการเงินให้คุณ ช่วยให้คุณตัดสินใจว่าจะขยายทำเล จะจ้างคนงานเพิ่ม หรือควรยุบทิ้งส่วนไหนด้วย

สรุปพรีวิว

ในพรีวิวที่ได้เล่นมานี้ ผมรู้สึกว่า Park Beyond มีองค์ประกอบที่ดูซีเรียสกว่าหน้าเกมเยอะพอสมควร โดยเฉพาะถ้าเริ่มเล่นในโหมด Sandbox แม้แต่คนที่ไม่มีปัญหากับภาษาของเกมก็ยังมีรายละเอียดมหาศาลให้ต้องเอามาคำนวณในการสร้างสวนสนุก ถ้าให้คำนิยามเกมเพลย์ของ Park Beyond ก็คือ ทุกจินตนาการมีราคาที่ต้องจ่าย อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าพอตัวเกมออกมาให้เล่นจริง จะต้องมีเนื้อหาการฝึกสอนที่ช่วยให้ผู้เล่นไต่บันไดไปทีละนิด จนเข้าถึงความสนุกของเกมไปได้เอง

เกร็ดน่ารู้เพิ่มเติมของ Park Beyond

– ทีมงาน Limbic Entertainment มีประมาณ 80 คน มาจากราว ๆ 18-20 เชื้อชาติ

– ในตอนแรกหลังพัฒนา Tropico 6 จบ ทีมงานก็ยังไม่อยากทำแนววางแผนสร้างเมืองต่อ แต่ก็อยากทำอะไรที่มันยังเป็นสไตล์คล้าย ๆ กัน ซึ่งคนในทีมก็ชอบพวกเกมสร้างสวนสนุกในสมัยก่อน เลยออกมาเป็น Park Beyond

– พอนำไอเดียไปเสนอ Bandai Namco ก็เกิดการร่วมมือกัน

– หัวใจสำคัญของตัวเกมคือแนวคิด Impossification นั่นคือทำอะไร ๆ ที่มันดูเป็นไปไม่ได้ หรือไม่คิดว่าจะได้เห็นในสวนสนุกชีวิตจริง ซึ่งหลักการนี้จะมีให้เห็นทั้งเกม

– ผลที่ออกมาก็คือเครื่องเล่นที่มันสุดขั้ว ทั้งโรลเลอร์โคสเตอร์ ทั้งตัวอาคาร แม้แต่พนักงานก็จะทำอะไรในสไตล์ Impossification กันหมด

– เกมมีระบบสร้างและพัฒนาลึก จะใช้ผนังธรรมดามาประกอบกันสร้างอาคารในแบบตัวเองก็ได้ หรือเครื่องเล่นต่าง ๆ ก็ด้วย

– สภาพแวดล้อมก็ใช้หลักการ Impossification ไม่ว่าจะเป็นการสร้างภูเขาในพื้นที่อย่างที่ตนเองมีไอเดีย หรือจะขุดหลุมลึก ในตัวอย่างมีการทำภูเขาออกมาเป็นรูปร่างคนก็ได้ด้วย

– เกมมีแคมเปญโหมด ซึ่งจะมาในรูปแบบของการคุยกับบอร์ดบริหาร ซึ่งก็จะมีแชลเลนจ์ต่าง ๆ ที่เราต้องทำ อาจเป็นการทำสวนสนุกที่ความคิดสร้างสรรค์สูง แต่ผู้บริหารฝ่ายการเงินอาจต้องการให้ทำสวนที่รายได้มั่นคงด้วย