รีวิว The Valiant
- ขอขอบคุณ THQ Nordic SEA สำหรับโค้ดเกมเพื่อการรีวิวครับ
- รีวิวนี้เล่นบน Steam
ปฏิเสธไม่ได้ว่าในวงการเกมปัจจุบัน เกมแนววางแผลกลยุทธ์แบบเรียลไทม์ (Real-time strategy หรือ RTS) ไม่ได้อยู่ในกระแสสูงอีกต่อไป แต่เกมแนวนี้ก็ยังห่างไกลจากการสูญพันธุ์ มีค่ายเกมไม่น้อยที่ยังศรัทธาในเกมประเภทนี้อยู่ อย่าง KITE Games ผู้พัฒนา The Valiant เกม RTS ยุคสงครามครูเสดที่ตั้งใจว่าจะมาทำให้แฟนเกมพันธุ์นี้อะดรีนาลีนสูบฉีดกันอีกครั้ง
ในฐานะที่ผมก็ผ่านเกม RTS มาบ้าง ต่อไปนี้คือความรู้สึกที่ผมมีต่อ The Valiant ครับ
เนื้อเรื่อง
The Valiant เล่าเรื่องราวของอัศวินสงครามครูเสดชื่อ Theoderich และสหายของเขาคือ Ulrich ที่บังเอิญได้ไปพบกับชิ้นส่วนของวัตถุวิเศษอันทรงอำนาจ มันมีอิทธิพลทำให้ Ulrich ลุ่มหลงกับการตามหาชิ้นส่วนที่เหลืออีก 2 ชิ้น เพื่อนำมาประกอบเป็นไม้เท้าที่จะมอบพลังเหนือจินตนการให้ผู้ถือ
Theoderich ถอยห่างจาก Ulrich ที่เขาคิดว่าไม่ใช่เพื่อนคนเดิมอีกต่อไป แต่ชะตากรรมก็นำพาให้ทั้งคู่เดินบนเส้นทางอันขัดแย้งเมื่อมีบาทหลวงคนหนึ่งได้ชักชวนให้ Theoderich ออกตามหาวัตถุวิเศษอีก 2 ชิ้น เพื่อป้องกันไม่ให้มันตกอยู่ในมืออดีตสหายของเขา
ฟังจากเรื่องย่อคร่าว ๆ แล้ว หลายคนอาจได้กลิ่น Assassin’s Creed เบา ๆ เพราะเกมมีทั้งอัศวินเทมพลาร์ การสู้รบ วัตถุทรงพลังโบราณ เรื่องเหนือธรรมชาติหน่อย ๆ และแผนสมคบคิดอันชั่วร้าย ซึ่งองค์ประกอบพวกนี้ถูกเอามาปรุงแต่งให้เป็นเรื่องราวใหม่ ถ้าถามความรู้สึกผมตั้งต้นจนจบ เนื้อเรื่องของ The Valiant ก็นับว่าสนุกใช้ได้ ถึงจุดหักมุมของมันจะเป็นสิ่งที่ไม่เหนือการคาดเดาอะไรขนาดนั้น
การเล่าเรื่อง
เกมจะเน้นหนักที่การใช้ฉากคัตซีนในเกม โมเดลตัวละครที่พูดแต่ไม่ขยับปาก แต่เจอแบบนี้แล้วโดยภาพรวมมันไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้นนะครับ เพราะแอนิเมชันท่าทางตัวละคร เสียงพากย์ เสียงเอฟเฟกต์ ถือว่าทำได้ผ่านมาตรฐาน
วิธีการเล่าอีกรูปแบบหนึ่งที่เกมเน้นหนักไม่แพ้กันคือ การเล่าเรื่องด้วยภาพวาด มันอาจไม่ให้ความรู้สึกเหมือนดู CG แต่ The Valiant ก็ลงทุนกับเรื่องนี้มากพอ เราจะเห็นความต่อเนื่องของตัวละครในแต่ละฉาก เข้าใจอารมณ์ความรู้สึกตัวละครผ่านสีหน้า แม้มันจะเป็นแค่ภาพวาดก็ตาม
โหมดแคมเปญในเกมนี้จะมีทั้งหมด 16 ด่าน ให้ผู้เล่นนำทัพ Theoderich ข้ามครึ่งโลกในภารกิจครั้งยิ่งใหญ่ สิ่งที่ต้องชมก่อนเลยคือทุกด่านในแคมเปญเกมนี้ออกแบบมาให้เล่นกันยาวเต็มอิ่ม เฉลี่ยแต่ละด่านใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง มีการแนะนำระบบ, ยูนิต, สถานการณ์ใหม่ ๆ แบบจัดสรรออกมาได้พอเหมาะพอดี ไม่รู้สึกว่าเกมมีความซ้ำซาก
จุดที่ไม่น่ามาตกม้าตายคือ The Valiant ไม่มีระบบที่ควรมีอย่างการเซฟเกม ต้องอาศัยการเช็คพอยต์เท่านั้น แถมเป็นเช็คพอยต์ที่จุดนึงห่างจากอีกจุดค่อนข้างเยอะ ทั้ง ๆ ที่จังหวะของเกมมันก็ช้าอยู่แล้ว และด่านในช่วงท้ายเกมก็ยิ่งยากขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าคุณไม่เคยลองเกมแนวนี้มาก่อน หรือ มีความอดทนไม่มากพอ ก็จะพาลเอาหงุดหงิดได้ง่าย ๆ เพราะมันเหมือนคุณต้องเริ่มใหม่ไกลเอาเรื่อง โดยเฉพาะกับบอสไฟต์ด่านสุดท้ายที่ใครหลายคนคงอยากมีเรื่องกับคนออกแบบ
เกมเพลย์
ความเป็น RTS ของ The Valiant ก็คือความเป็น RTS แบบค่อนข้างดั้งเดิมเลยครับ คือเกมจะมียูนิตชนิดต่าง ๆ เป็นหัวใจสำคัญ แต่ละยูนิตจะมีจุดแข็งจุดอ่อนของตัวเองถ้าเอาไปสู้กับยูนิตอีกฝ่าย เช่น พลม้าจะเอามาสกัดพวกพลธนูได้ดี แล้วก็จะแตกพ่ายถ้าเจอเข้ากับพลหอก หรือยูนิตอย่างพระก็จะแพ้แทบทุกตัว แต่ชดเชยที่พลังซัพพอร์ตแรงกล้ามาก
นอกจากนี้ยูนิตแต่ละชนิดก็จะมีความสามารถพิเศษเฉพาะตัวอย่างที่เราเห็น ๆ กันในเกมแนวรบสงครามยุคกลาง พลม้าก็จะมีท่าพุ่งชาร์จ พลทหารราบจะมีท่าปัดให้ศัตรูล้ม พลธนูจะยิงธนูไฟได้ หรือ พลขวานก็สามารถยั่วยุศัตรูให้มาตีตัวเอง
ยูนิตในเกมจะมีบาร์สองแบบให้เราต้องเฝ้าดู คือแถบสีขาวที่แทนค่าเกราะ แถบสีน้ำเงินแทนพลังชีวิต ส่วนฮีโรจะเพิ่มแถบม่วงเข้ามาซึ่งแทนค่าพลังที่จะใช้สกิลต่าง ๆ (พูดง่าย ๆ ว่าเป็นแถบมานา หรือ สตามินานั่นล่ะครับ)
กลยุทธ์ทั้งหมดก็จะยืนพื้นมาจากเกมเพลย์แบบนี้ ฟังดูเรียบง่าย แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องหมู ๆ สำหรับมือใหม่ ต้องรู้จักการจัดทัพว่ายูนิตกองไหนควรเดินนำหน้า ยูนิตตัวไหนต้องคอยทำความเสียหายอยู่ด้านหลัง ไปจนถึงต้องดูสถานการณ์ตามที่เจอด้วย ถ้าฝั่งศัตรูมีทัพหลังเป็นฝ่ายสนับสนุนเยอะ ยังไงเราก็ต้องเล็งพวกนี้ก่อน ไม่งั้นเราก็จะเอาพวกทัพหน้าของมันไม่ลง แถม AI ศัตรูเกมนี้ก็ฝีมือไม่เบาเลยเหมือนกัน
สิ่งที่พอจะมาชูเป็นจุดเด่นได้คือระบบการปรับแต่งฮีโรครับ เพราะเกมจะมีทั้งช่องอาวุธ ชุดเกราะ เครื่องประดับ ให้คุณเลือกเอามาแต่งฮีโรได้ตามใจ อาวุธแต่ละแบบก็จะให้ค่า Stat ต่างกัน รวมถึงให้สกิลพิเศษด้วย ไอเทมพวกนี้จะเป็นสิ่งที่เราเก็บได้ตามฉากในแคมเปญ เป็นรางวัลให้คนช่างสำรวจ สำหรับช่องสกิลของฮีโรก็มีให้หลากหลายดีครับ แบ่งออกมาได้ถึง 3 สาย คือ เน้นรับ เน้นรุก และเน้นประโยชน์
การควบคุม
เป็นเรื่องน่าตกใจพอสมควร เพราะถ้านับตั้งแต่ Warcraft 3 มันก็ผ่านมา 20 ปี แล้ว แต่ The Valiant ไม่มีนวัตกรรมใหม่ ๆ ในการกำหนดคีย์ลัดให้กลุ่มยูนิต หรือ การรวมกลุ่มยูนิตที่ดีขึ้นกว่าเดิม แล้วมันหนักตรงที่การควบคุมกลับยากกว่าเกม RTS ดั้งเดิมหลายเกมด้วย บางครั้งกำหนดคีย์ลัดให้แล้วแต่กดไม่ติดก็มี จนทำเอาผมต้องก้มไปถามคีย์บอร์ดตัวเองบ่อย ๆ ว่า ไหวมั้ย? แล้วก็พบว่าปัญหามันไม่ได้อยู่ที่คีย์บอร์ดผมแน่ ๆ
เรื่องรำคาญใจด้านบนก็หนักหนาอยู่ แต่มันยังไม่หมดเท่านั้นครับ ผมเห็นว่ายูนิตบางตัวพอทำหน้าที่ฆ่าศัตรูเสร็จตามคำสั่ง หลายครั้งมันก็ยืนนิ่งไปเฉย ๆ แบบนั้น ทั้งที่ยูนิตศัตรูอีกกลุ่มก็ยืนแทบจะไถซอกคอกันอยู่แล้ว AI ฝั่งเราก็น่าจะมีน้ำจิตน้ำใจบังคับให้มันไปสู้เองบ้าง ส่วนของการควบคุมเลยเป็นจุดที่ผมค่อนข้างขัดใจชัดเจน
ผมสงสัยว่าการควบคุมเกมนี้บนคอนโซลผ่านคอนโทรลเลอร์จะทำยังไง บางทีมันอาจจะดีกว่าบน PC ก็ได้
สรุป
พอดูภาพรวมทั้งหมดทั้งมวล ผมสรุปได้ว่า The Valiant เป็นเหมือนแรงกระเพื่อมเล็ก ๆ ของเกมแนว RTS ในมหาสมุทรวงการเกมอันกว้างใหญ่ มันพิสูจน์ว่าเกมแนววางแผนยังมีที่ยืนอยู่บ้างในปัจจุบัน ระบบแบบ RTS ดั้งเดิมยังสามารถนำมาใช้ผสมผสานกับการเล่าเรื่อง และสร้างโหมดแข่งขันกับ AI หรือ ผู้เล่นด้วยกันอย่างสนุกได้
น่าเสียดายว่า The Valiant กลับปฏิเสธการสร้างสรรค์องค์ประกอบเกมเพลย์ใหม่ ๆ ของเกมแนวนี้ กลไกในเกมยังยึดมั่นถือมั่นความเป็น RTS ดั้งเดิม เพิ่มเติมแค่ใส่ส่วนปรับแต่งฮีโรเข้าไป ซึ่งเอาเข้าจริงก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะมีผู้เล่นที่อยากลองรสชาติแบบดั้งเดิมมากมาย แต่ก็ต้องถอนหายใจอีกครั้ง เพราะเกมก็ยังมีปัญหาพื้นฐานอย่างเรื่องการควบคุมยูนิตที่จัดการยาก ไม่มีฟังก์ชันที่ไม่น่าพลาดอย่างการเซฟเกม ส่วนจุดเช็คพอยต์ที่ใส่มาก็ควรแบ่งให้มีเยอะกว่านี้
ฉะนั้น สำหรับคอแฟน RTS ที่รอคอยเกมแนวนี้มานาน ผมก็ยังแนะนำ The Valiant อยู่ดี แค่คุณอย่าตั้งความคาดหวังไว้สูงเกินกว่าราคา 685 บาท (อ้างอิงจาก Steam) แล้วทุกอย่างจะดีเอง
จุดเด่น
- โหมดแคมเปญยาวคุ้มค่า และมีอะไรใหม่ ๆ ให้ทำในทุกด่าน
- การเล่าเรื่องมีการกำกับคัตซีนดี ผสมผสานงานศิลป์แบบภาพวาดที่สวยงาม
- สามารถปรับแต่งฮีโรได้หลากหลาย ทั้งอุปกรณ์และสกิล
จุดด้อย
- ระบบการควบคุมยูนิตที่ไม่คล่องตัว แม้จะเทียบกับเกม RTS ยุคก่อน ๆ
- ระบบเช็คพอยต์ที่ซอยย่อยน้อยเกินไป ทำให้ต้องเริ่มเล่นไกลจากจุดเดิมที่เกมโอเวอร์
The Valiant วางจำหน่ายแล้วบน Xbox Series X and Series S, Playstation 5, Playstation 4, Xbox One, Microsoft Windows.