รีวิว Two Point Campus: School Spirits
ไม่ต้องผิดเป็นครู กะรูก็เป็นอธิการได้
*ขอขอบคุณ SEGA CORPORATION สำหรับโค้ดเพื่อการรีวิวครับ
ก่อนที่จะไปลงรายละเอียดของ DLC ตัวล่าสุด ผมอยากบอกความประทับใจเกี่ยวกับตัวเกมหลักของ Two Point University ก่อนครับ เพราะเรายังไม่ได้มารีวิวตัวเกมหลักกันเลย แต่ผมจะขอแตะสั้น ๆ ตรงนี้แล้วกัน
สิ่งที่ผมชอบเป็นอย่างแรก จากใจคนที่ไม่เคยสัมผัสซีรีส์ Two Point มาก่อน คือการออกแบบให้เกมนี้สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้เล่นได้มากที่สุด เคยมั้ยครับ? เวลาจะเล่นเกมแนว Simulation หรือเกมแนวบริหารจัดการทรัพยากร ใจนึงมันก็อยากเล่นนะ แต่อีกใจก็กลัวว่าเปิดเกมมาแล้วมันจะไม่รู้เรื่อง เจอคำสั่งอะไรยุบยับไปหมด ซึ่งแม้แต่เกมเมอร์ชั่วโมงบินสูง ๆ หลายคน ก็ยังอยากจะยอมแพ้ไปกับการต้องมานั่งทำความเข้าใจระบบพวกนี้
แต่สำหรับ Two Point University ความรู้สึกตอนผมเริ่มต้นด่านแรกก็คือ เฮ้ย เล่นง่ายกว่าที่คิด มันไม่ใช่แค่เกมใส่บทสอนเล่นมาให้ (ซึ่งเป็นภาคบังคับอยู่แล้ว) แต่ทีมสร้างเขาเข้าใจวิธีการออกแบบเกมว่าควรจะแบ่งเกมเป็นด่าน ๆ ด่านแรกจะปูพื้นฐานอะไรให้ผู้เล่น ให้ผู้เล่นเข้าใจวิธีสร้างห้องเรียน ห้องพักครู หอพักนักเรียน นู่น นี่ นั่น พอเข้าด่านที่สองก็จะสอนสิ่งที่ซับซ้อนขึ้นไป ซึ่งมันจะแตกต่างจากเกม Simulation แนวบริหารจัดการทั่วไป เพราะส่วนใหญ่เกมแนวนี้พอเริ่มแคมเปญแล้วก็เล่นยาวข้ามวันข้ามคืน อัดสิ่งที่ผู้เล่นต้องรู้เข้ามาแบบต่อเนื่อง แต่ใน Two Point University มันเหมือนเรามีช่วงเล่นและเรียนรู้ให้พอสนุกแล้วก็จบด่าน แถมในด่านนึงก็ยังมีแบ่งเป็นเทอมให้เราพักเบรกด้วย แล้วค่อยไปเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ต่อ
อีกเรื่องนึงที่ Two Point University ทำได้ดีมากก็คือ งานออกแบบ UX UI ให้เป็นมิตรกับผู้ใช้งานมากที่สุด พวกไอคอน สัญลักษณ์ต่าง ๆ ทำออกมาสื่อความหมายได้ชัดเจน ที่สำคัญคือหน้าจอไม่รกมากเกินไป มันเลยทำให้ผู้เล่นรู้สึกว่าเราควบคุมกระแสของเกมได้ ไม่รู้สึกอึดอัดว่ามีข้อมูลยัดเยียดเข้ามาเยอะ ส่วนใหญ่เราจะวนเวียนอยู่กับค่าไม่กี่ค่าครับ คือค่าอารมณ์ความสุขของนักเรียน ซึ่งมันจะไปส่งผลกระทบกับการเรียน เพราะในฐานะเจ้าของมหาลัยก็ต้องมีหน้าที่ผลิตเด็กเกรดสูง ๆ ไปเป็นหน้าเป็นตา ซึ่งจะนำสิ่งสำคัญที่สุดอีกอย่างมาให้ก็คือ เงิน
แต่ถึงผมจะรู้สึกว่าเกมนี้มันเข้าถึงง่าย ก็ไม่ใช่ว่ามันจะแค่คลิก ๆ ก็จบด่านได้นะครับ ยังไงเกมนี้มันก็ยังเป็นเกม Simulation มันจะต้องอาศัยทักษะด้านการบริหารจัดการ (การอ่านก็เป็นหนึ่งในนั้น) และความมีน้ำอดน้ำทนกันบ้าง
อย่างพวกคำขอของนักเรียนว่าอยากได้ของชิ้นนั้นชิ้นนี้ อยากได้เฟอร์เพิ่ม อยากให้มหาลัยจัดงานคอนเสิร์ต อะไรประมาณนี้ ซึ่งมันก็ต้องใช้เวลาทำความเข้าใจระบบตรงนี้นึดนึง รวมถึงระบบการอัปเกรดบุคลากร เช่น อยากให้ครูคนนี้มีทักษะการสอนวิทยาศาสตร์ที่ดีขึ้น เป็นเมนเทอร์ตัวแม่มากกว่าเดิม หรือ อยากให้ภารโรงของเราดูดส้วมไวกว่านี้หน่อย พร้อมเพิ่มเงินเดือนให้ ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่เราต้องคำนวณและปั้นขึ้นมาเองครับ
ว่าด้วย DLC วิทยาลัยคนไล่ผี
พอมาถึงส่วนของ DLC ชื่อ School Spirits กันบ้าง นี่เป็น DLC เสริมตัวที่สองของเกมนี้ จาก DLC ตัวแรกที่พาเราไปปฐมนิเทศที่อวกาศ แต่ใน Schools Spirits จะให้อารมณ์ต่างไปอย่างสิ้นเชิง ถ้าดูผ่าน ๆ ในหน้าร้านค้าแล้ว การได้รับบทเป็นเจ้าของวิทยาลัยสอนเด็กปราบผีมันเป็นคอนเสปที่น่าสนใจมากทีเดียว ไหน ๆ เกมนี้ก็ถนัดขายกาวแล้ว มันก็ควรต้องไปให้สุดแบบนี้
ถ้าจะให้ภาพรวมคร่าว ๆ ว่า DLC ตัวนี้มันมีอะไรให้เราบ้าง สิ่งที่มันให้มาคือเราจะได้เล่นด่านใหม่ในเกมที่เป็นที่ดินคฤหาสน์หลอนไร้ชีพ (Lifeless Estate) พร้อมกับคอร์สใหม่ 2 คอร์สคือ คอร์สฝึกสอนนักสืบเรื่องเหนือธรรมชาติ (Paranormal Detection) และคอร์สอบรมวิญญาณ (School Spirits) พร้อมไอเทมเพิ่มเติมในธีมโกสต์เรดิโอให้ใช้ตกแต่งวิทยาลัยอีกมากพอสมควร
สิ่งที่เปลี่ยนไปแน่นอนจะเป็นเรื่องของการนำเสนอ และเกมเพลย์ ซึ่งจะขอพูดในส่วนแรกก่อนนั่นคือคราวนี้เราไม่ได้มีลูกค้าเป็นแค่คนเป็น ๆ อีกต่อไปแล้ว เรายังมีนักเรียนและผู้ให้คำแนะนำจากภพภูมิอื่นมาโชว์ลีลาการเคลื่อนไหวแบบเท้าไม่ติดพื้นไปทั่ววิทยาลัยเราด้วย การมีปฏิสัมพันธ์แปลก ๆ ของทั้งคนและผีในวิทยาลัยจึงเกิดขึ้น เช่น เราจะได้เห็นอาจารย์ที่เป็นคนเปิดคลาสสอนให้นักเรียนที่เป็นวิญญาณทั้งชั้นมานั่งฟัง การใช้ห้องน้ำร่วมระหว่างคนกับผี หรือ ถ้าคุณคิดว่าสมัยนี้คู่รัก LGBTQ+ มันธรรมดาเกินไปแล้ว คุณจะได้เจอรักข้ามภพภูมิระหว่างคนกับผีใน DLC นี้ด้วย
ในส่วนของเกมเพลย์จะมีอะไรให้ทำแตกต่างไปจากการบริหารวิทยาลัยในเกมหลักพอสมควร ส่วนแรกที่เป็นการเปลี่ยนค่อนข้างใหญ่เลยคือการขยายขอบเขตของวิทยาลัยที่ไม่สามารถใช้เงินซื้อได้อีกต่อไป เพราะที่ดินเหล่านั้นถูกแก๊งวิญญาณชั่วร้ายสิงอยู่ การจะปัดเป่าความเฮี้ยนแล้วเอาที่ดินมาเป็นของเราได้นั้นเราจะต้องเน้นผลิตนักปราบผีในคอร์ส Paranormal Detection ออกมาให้เยอะ
แต่นั่นก็ยังไม่พอ เพราะวิญญาณชั่วร้ายในแต่ละที่จะมีพลังชีวิตค่อนข้างสูง เราต้องทำเงื่อนไขให้เข้าเกณฑ์เพื่อเพิ่มพลังโบนัสโจมตีของนักเรียนเราด้วย เงื่อนไขพวกนั้นก็จะมีหลากหลายแบบ เช่น ทำหอพักให้ดีขึ้นกว่าเดิม ทำอันดับภาพรวมมหาวิทยาลัยให้สูงขึ้น เมื่อพร้อมแล้ว ผู้เล่นก็สามารถกาปฏิทินกำหนดการให้มีพิธี “ไล่ผี” ได้เลย (ใช้เวลาประมาณหนึ่งเดือน)
การไล่ผีถือเป็นหัวใจสำคัญของ DLC นี้เลยก็ว่าได้ เพราะมันไม่ใช่แค่ทำให้เรามีที่ทางมากขึ้น แต่มันยังเป็นเป้าหมายหลักในการเก็บดาวของด่านนี้ด้วย ก็ถือว่าให้รสชาติที่แปลกใหม่ดีครับ เหมือนเราสร้างกองกำลังไปปราบบอส
ส่วนที่แตกต่างต่อมาคือการบริหารจัดการในวิทยาลัย ใน School Spirits จะมีพวกวิญญาณร้ายร่อนเร่เข้ามาป้วนเปี้ยนและสร้างความปั่นป่วนให้นักเรียนของเราด้วย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อกิจกรรมและความสุขของพวกเขา เพราะฉะนั้นภารโรงจะมาพร้อมหน้าที่ใหม่นั่นคือ การจับผี เราต้องคอยจ้างภารโรงมาให้มากพอไปไล่จับวิญญาณร้ายพวกนี้เข้าเครื่องดูดวิญญาณ จากนั้นก็เอาไปปล่อยในเครื่อง Ectovat ให้พวกเขาได้พบความสนุกสนานในนั้น
จากที่เล่ามาทั้งหมดผมรู้สึกว่า DLC นี้มีไอเดียน่าสนใจและทำมันออกมาได้ดี แต่พอเหลือบไปมองราคาที่แปะป้าย 210 บาท แล้ว ผมก็พอเข้าใจว่าทำไมเสียงตอบรับของคนใน Steam จำนวนหนึ่งถึงมองว่า DLC ตัวนี้ควรได้คะแนนแค่อยู่ในระดับคาบเส้นเท่านั้น เพราะมันเกิดการเปรียบเทียบ DLC ตัวก่อนหน้าคือ Space Academy ที่มาในราคาสูงกว่าเล็กน้อยคือ 350 บาท แต่มีด่านให้เล่นใหม่ถึง 3 ด่าน และคอร์สใหม่ 6 คอร์ส ตีเป็นเลขกลม ๆ ออกมาก็คือ 120 บาท ต่อ 1 ด่าน (+ 2 คอร์ส) ในขณะที่ School Spirits ให้มาเท่ากันในราคา 210 บาท
ฉะนั้นถ้าคุณเคยเล่น Space Academy มาก่อน มันเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเอามาเปรียบเทียบความคุ้มค่ากับ School Spirits อยู่แล้ว ถ้าให้ผมประเมินผมคิดว่าราคา 210 บาท กับคอนเทนต์ที่ให้มาของ DLC ใหม่นี้อยู่ในระดับฉิวเฉียด มันมีคอนเทนต์ให้เล่นประมาณ 2-4 ชั่วโมง ในกรณีถ้าคุณจะเก็บดาวแรกน่ะนะ ส่วนดาวดวงต่อไปก็จะเน้นสู้กับผีเจ้าถิ่นเหมือนเดิม ซึ่งพอถึงจุดนั้นความสดใหม่ของ DLC นี้ก็ลดหายไปพอสมควรแล้ว
สรุปสำหรับ School Spirits ผมเห็นความตั้งใจทั้งในแง่การนำเสนอไอเดีย การเปลี่ยนแปลงเกมเพลย์ ที่ทีมพัฒนาต้องการสะท้อนคอนเสปโรงเรียนปราบผีฝรั่งออกมาได้อย่างลงตัว แต่ปัญหาหลัก ๆ ก็คือความคุ้มค่าหากเปรียบเทียบกับราคาของ DLC ซึ่งมันคาบลูกคาบดอกมากว่ามีคอนเทนต์เพียงพอกับราคาที่ให้มามั้ย ตรงนี้ก็นานาจิตตังแล้วครับ ส่วนตัวผมมองว่ามันอยู่ในระดับที่ไม่น่าเกลียด แต่ถ้าคุณเคยเล่น Space Academy มา แล้วมองว่าราคามันออกจะแรงไปนิด ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเช่นกัน
จุดเด่น
- คอนเสปไล่ผีแบบฝรั่งที่ทีมพัฒนานำเสนอออกมาแบบไม่อั้นไอเดีย
- เปิดมิติการนำเสนอและเกมเพลย์ที่ให้อารมณ์แตกต่างชัดเจนจากตัวเกมหลัก
- ระยะเวลาการเล่นประมาณ 2-3 ชั่วโมง (ถ้าเก็บดาวแรก) พร้อมด่านที่ใหญ่พอสมควร
จุดด้อย
- ราคา DLC ที่คนที่เล่น Space Academy มาก่อนอาจตั้งคำถามถึงความคุ้มค่า