Reviews

AEW: FIGHT FOREVER – รีวิว [REVIEW]

โดย ปอลนาโช่

รีวิว AEW: FIGHT FOREVER

*ขอขอบคุณ THQ Nordic สำหรับโค้ดเพื่อการรีวิว โดยรีวิวนี้เล่นบน PS5

ต้องยอมรับว่าในปัจจุบัน วงการวิดีโอเกมมวยปล้ำนั้นมีเจ้าใหญ่อย่าง WWE 2K23 ที่ถือเป็นบิ๊กเกมระดับ AAA ตัวเกมเน้นความสวยงามและสมจริง มีลักษณะของการถ่ายทอดบรรยากาศทุกอย่างในสนามแข่งมาไว้ในหน้าจอมอนิเตอร์ แบบเดียวกับเกม NBA 2K23 ซึ่งเป็นเกมจากทีมงานเดียวกันอย่าง Visual Concepts

แล้ว AEW Fight Forever ล่ะเอาอะไรมาสู้กับเขา?

โดยจากการลองเล่นทุกโหมดเกมเสร็จสิ้นไปแล้ว ผมได้คำตอบแล้วครับว่า AEW มีดีที่ตรงไหน และบอกก่อนเลยว่า เกมเขา “ของดี” อยู่นะ! ส่วนเหตุผลน่ะเหรอ เดี๋ยวผมจะแจกแจงให้ฟัง

GAME MODE

สำหรับ AEW Fight Forever พัฒนาโดย Yuke’s สตูฯ จากโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น มีผลงานเกมมวยปล้ำมาแล้วมากมาย อาทิ WWF Royal Rumble, New Japan Pro-Wrestling: Toukon Retsuden, WWE WrestleMania เป็นต้น

ตัวเกมมีหลายโหมดให้เลือกเล่น ทั้งแท็กทีม (ที่จะมีท่าคู่แบบทีมซึ่งสามารถทำได้เพียงแค่การกดปุ่มแบบง่าย ๆ), Ladder Match, Exploding Barbed Wire, Casino Battle Royale, ระบบปรับแต่งนักมวยปล้ำและเวทีแข่งในแบบ AEW

และที่เด็ดที่สุดคือโหมดเนื้อเรื่อง story mode ที่มีชื่อว่า “Road To Elite” ที่จะให้เราเลือกสวมบทนักมวยปล้ำชื่อดังใน AEW แล้วเข้าแข่งตามปฏิทินของรายการตลอดทั้งปี ไล่ไปตั้งแต่ Double or Nothing จนถึง Revolution คุณจะได้เล่นผ่านอีเวนต์สำคัญมากมาย

ระหว่างการแข่งขัน คุณสามารถฝึกที่โรงยิม ออกไปทานอาหาร เที่ยวชม หรือแม้แต่แข่งขันในมินิเกมต่าง ๆ กิจกรรมเสริมเหล่านี้จะเพิ่มพลังและแรงจูงใจของคุณ ซึ่งจะช่วยอัปเลเวลในการแข่งขัน และยังทำให้คุณได้รับคะแนนทักษะที่ใช้เพื่อเสริมสร้างนักมวยปล้ำของคุณและปลดล็อกความสามารถใหม่ ๆ ในสังเวียน

ลักษณะการเล่นดังที่กล่าวไป ถือเป็นสไตล์ที่คุ้นเคยกันดีในเกมจากญี่ปุ่นหลาย ๆ เกม

นอกจากนี้ ไม่ว่าคุณจะแข่งชนะ แพ้ หรือเสมอ เรื่องราวก็จะปรับให้เข้ากับผลลัพธ์ ทำให้สามารถเล่นซ้ำได้หลายครั้ง ถือว่า Road To Elite เป็นโหมดที่เล่นได้เพลินดีนะครับ เพราะมันมีอะไรให้ทำไปเรื่อย ๆ แถมเรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้น ยังพาคุณไปพัวพันกับพวกนักมวยปล้ำชื่อดังมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Chris Jericho, CM Punk, Dr. Britt Baker D.M.D., Kenny Omega และ Sting! แหม่…โก้ดีจริง ๆ

GAMEPLAY

เกมเพลย์ของ AEW Fight Forever ให้ความรู้สึก “เชย” สะบัดเลยครับ 555 ถ้าใครเคยเล่นเกมมวยปล้ำยุคเก่า ๆ นี่จะเข้าใจความหมายที่ผมต้องการจะสื่อ กล่าวคือ แอนิเมชันทั้งหมดในเกมนี้ ดัดเอาด้วยมือของโปรแกรมเมอร์ ไม่ใช่มาจากการบันทึกท่าทางของตัวคนจริง ๆ ทำให้การเคลื่อนไหวมันจะออกแนวแข็ง ๆ หุ่นยนต์นิด ๆ

ซึ่งข้อเสียของรูปแบบดังกล่าวก็คือ เกมมันจะดูไม่สมจริง แต่ข้อดีคือมันจะเล่นง่าย บังคับควบคุมง่าย

อย่างไรก็ตาม ผมพบว่ายังมีหลายส่วนในเกมที่ยังปรับจูนมาไม่ดีพอครับ ยกตัวอย่าง มีจังหวะหนึ่งที่ตัวละครของผมตกเวที แล้วผมล้วงเอาอาวุธจากใต้เวทีแล้วผมกดผิด ปล่อยอาวุธตกพื้น ตัวละครคู่ต่อสู้เหมือนระบบรวน มันทำตัวสั่น ๆ แล้วนิ่งค้างไปเลย ผมต้องปีนขึ้นเวทีมันถึงจะกลับมาสู้ได้ปกติ

อีกเรื่องก็คือ ระบบการป้องกัน/หลบการโจมตี (ปุ่ม L1 และ R1) มันเชื่องช้ามากถึงมากที่สุด คุณจำเป็นต้องกดก่อนที่คู่ต่อสู้จะง้างหมัดด้วยซ้ำ ถึงจะกันได้สำเร็จ มันไม่ฉับไวเหมือนพวกเกมไฟติ้งทั่วไปครับ ทำให้หลายครั้งเล่นแล้วหงุดหงิดอยู่เหมือนกัน

แต่บทเขาจะทำให้มันง่ายก็ง่ายแบบโอเวอร์ไปเลย ก็คือการปล่อยท่าไม้ตายครับ ก็คือเมื่อคุณมีเกจพลังจนเต็มมิเตอร์สามารถใช้ท่าไม้ตายได้แล้วล่ะก็ แค่กดปุ่มทิศทาง (ปุ่มกากบาท) ปุ่มไหนก็ได้ ก็ถือว่าติดแล้ว ใช้ท่าสวย ๆ ได้แน่นอน

ทว่า ถึงผมจะมองเห็นแต่ข้อเสียในเรื่องของระบบเกมเพลย์ แต่มันก็ประหลาดดีที่พอได้เล่นเกมไปเรื่อย ๆ ผมรู้สึก “สนุก” มากกว่าเกมมวยปล้ำอื่น ๆ ในท้องตลาด ผมชอบความง่าย ความสะดวกในการปล่อยท่า และท่าทางการเดินเหมือนตัวละครในเกมอาร์เคดแบบนี้แหละ เล่นแล้วผ่อนคลายอย่างเหลือเชื่อ!

ART & CREATIVITY

AEW Fight Forever ให้ความรู้สึกเป็นเกมทุนต่ำแทบทุกส่วนสำหรับเรื่องของกราฟิกและเสียงประกอบ (หรือเขาไม่เน้นทำงานส่วนนี้ก็ไม่รู้) ไล่ไปตั้งแต่ การแข่งขันจะไม่มีเสียงผู้บรรยาย, เสียงกดปุ่มเลือกเมนูต่าง ๆ เป็นเสียงดัง “ป๊อง ๆ ๆ” เหมือนพวกเกมกดเด็ก ๆ อ่ะ ขณะที่ฉากคัตซีนในโหมด Road To Elite และฉากแผนที่ระหว่างการเลือกอีเวนต์ต่าง ๆ ก็ทำออกมาได้….เหมือนเกมยุค PS2, PS3 กันไปเลยพ่อคู้ณ!

CONCLUSION

สรุปเลยนะครับ ก็คือเจ้าเกม AEW Fight Forever เนี่ย เขามองเกมเป็นเกมครับ ทำเกมให้เป็น “วิดีโอเกม” โดยไม่เน้นพวกความสมจริงสมจังอะไรพวกนั้น ตัวเกมเล่นไปเล่นมาเหมือนเกมอาร์เคด โดยระบบเกมเหมือนเกมในอดีตอย่าง Fire Pro Wrestling, WWE SmackDown! หรือ WWF No Mercy

แต่เล่นแล้วสนุกอย่างเหลือเชื่อ! เผลอ ๆ ผมเล่นเพลินกว่า WWE 2K23 ซะอีกอ่ะ!

คือมันเล่นง่ายดีครับ ไม่ยุ่งยาก บังคับง่าย กดท่าติดก็ง่าย เล่นแล้วฮา ถ้าเล่นกับเพื่อน ๆ หรือกับบรรดาพี่น้องในบ้านนี่อย่างเพลินแน่นอน เหมือนสมัยเล่นเกมมวยปล้ำยุคโบราณ แต่กับ AEW Fight Forever มันก็คือเวอร์ชันอัปเกรดทันสมัย ของตำนานเกมมวยปล้ำเหล่านั้นนั่นเองครับ

Pros

  • เกมเพลย์สไตล์อาร์เคด เล่นง่าย ควบคุมง่าย
  • โหมด Road to Elite ทำออกมาได้ดี มีอีเวนต์ให้เล่นต่อเนื่อง มีภาพจากการแข่งขันจริงมาโชว์ช่วยสร้างความประทับใจได้ดี
  • รูปแบบการแข่งขันหลากหลาย เน้นความฮามากกว่าความสมจริง

Cons

  • ในแง่ของเกมต่อสู้ ตัวเกมเพลย์ไม่เอื้อต่อการควบคุมที่แม่นยำฉับไว
  • ฟีเจอร์แวดล้อม ทำได้หยาบไปนิด ไม่มีทั้งเสียงบรรยาย, ฉากคัตซีนที่เป็น CGI คุณภาพย่ำแย่

The Review

75% AEW: ปล้ำสไตล์เรโทร

AEW: Fight Forever เป็นเกมที่ออกแบบมาโดยเน้นความเป็นเรโทร ซึ่งประกอบไปด้วยอนิเมชันแบบที่สร้างสรรค์ด้วยมือและบรรยากาศสไตล์เกมอาร์เขดที่ชวนคิดถึง

75%

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ข้ามไปยังทูลบาร์