News

SAGA EMERALD BEYOND เปิดเผยข้อมูลตัวละครและโลกในเกมเพิ่มเติม

SaGa Emerald Beyond คือเกม RPG ภาคล่าสุดในแฟรนไชส์ SaGa ซึ่งมีกำหนดวางจำหน่ายในปีค.ศ.2024 โดยจะเล่นได้บน PlayStation 4, PlayStation 5, Nintendo Switch, Steam, iOS, Android โดยในคราวนี้จะเป็นการเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวละครและโลกในเกม

เรื่องราวของทสึนาโนริ มิโดะ (Tsunanori Mido)
ชายผู้สามารถควบคุมคุงุสึและได้รับมอบหมายให้ปกป้องม่านพลังที่ปกคลุมเมือง

ทสึนาโนริคือผู้สืบสายเลือดของตระกูลมิโดะที่ดำรงอยู่มายาวนานในเมืองมิยาโกะ ซึ่งเป็นโลกที่เต็มไปด้วยท้องถนนในแบบโบราณซึ่งแตกแขนงออกมาจากศูนย์กลางซึ่งเป็นวัดโกคาคุโดะ (Gokakudo Temple) เขาสามารถควบคุมคุงุสึ หรือก็คือหุ่นเชิดที่มีชีวิตจิตใจได้

มหาสงครามครั้งก่อนได้ทำลายสภาวะสังคมและกฎระเบียบทางจิตวิญญาณจนสิ้นไปพร้อมกัน นับแต่นั้นมาเมืองมิยาโกะก็เต็มไปด้วยปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติมากมาย โดยทสึนาโนริได้รับเลือกจากโครงการคาธีดรัล (Cathedral Project) เพื่อตรวจสอบโลกอื่น ๆ และฟื้นฟูกฎระเบียบให้แก่มิติวิญญาณอีกครั้ง และด้วยคุงุสึที่ร่วมทางเขาได้ออกเดินทางสู่โลกอื่นเพื่อเสาะหาจิตวิญญาณแห่งธาตุทั้งสี่เพื่อทำหน้าที่ให้สมบูรณ์

คุงุสึคืออะไร?

คุงุสึคือหุ่นเชิดรูปร่างมนุษย์ ซึ่งจะเคลื่อนไหวได้เมื่อมีการผูกพันธะกับวิญญาณ และด้วยความที่คุงุสึจะผสานเข้ากับจิตวิญญาณที่มาสิงสู่ พวกเขาจึงมีบุคลิกลักษณะเฉพาะตัวและจะคุยกับผู้เป็นนายเสมือนมนุษย์ทั่วไป แต่ก็ไม่ใช่ว่าใครก็สามารถควบคุมคุงุสึได้ เพราะใครที่ต้องการใช้งานคุงุสึก็ต้องพิสูจน์ตัวเองเสียก่อน และจะต้องสร้างความเชื่อใจกับคุงุสึในแบบมนุษย์ด้วย และเมื่อคุงุสึนั้นดำรงอยู่มายาวนาน ภาษาที่ใช้จึงมีความร่วมสมัยเสมอ

คุงุสึของทสึนาโนริ
มุซาชิ (Musashi)
มุซาชิคือนักดาบในตำนานผู้ใช้ดาบคู่ บางทีอาจมีใครสักคนในตระกูลมิโดะที่มีชีวิตในยุคสมัยเดียวกับมุซาชิได้ผสานวิญญาณของเขาเข้ากับคุงุสึก็เป็นได้ เขาเป็นนักสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาคุงุสึของทสึนาโนริ

โคมาจิ (Komachi)
เธอคือนักร้องผู้เป็นตำนาน ว่ากันว่าโคมาจิสามารถใช้พลังแห่งคำพูดได้ตามเจตจำนงของเธอเองและสามารถจับใจได้ทุกผู้คนในยุคของเธอ บางทีอาจมีใครสักคนในตระกูลมิโดะที่มีชีวิตในยุคสมัยเดียวกับโคมาจิได้ผสานวิญญาณของเธอเข้ากับคุงุสึก็เป็นได้ ว่ากันว่าคุงุสึรายนี้มีตัวตนขึ้นมาในช่วงยุคทองของตระกูลมิโดะ เพราะเธอมีความรู้เกี่ยวกับอดีตมากกว่าใคร ๆ ในบรรดาสมาชิกตระกูลมิโดะในยุคปัจจุบัน

สุคุเนะ (Sukune)
สุคุเนะเป็นที่รู้จักกันในฐานะผู้ก่อตั้งวิชาซูโม่ ว่ากันว่าเขาสามารถใช้เพียงแค่ขาและเท้ากวาดศัตรูให้ล้มแล้วกระทืบคู่ต่อสู้จนตายได้ ในตอนที่เขามีตัวตนขึ้นมานั้นตระกูลมิโดะยังไม่มีอิทธิพลเลยเสียด้วยซ้ำ แล้ววิญญาณของสุคุเนะมาสิงสู่ในคุงุสึได้อย่างไรจึงเป็นปริศนา อันที่จริงแล้วสุคุเนะนั้นถือเป็นผู้ที่ลึกลับที่สุดในบรรดาคุงุสึของตระกูลมิโดะ

โบห์ (Boh)
โบห์เป็นนักแม่นปืนผู้มีชื่อเสียงโจษจัน และหาเลี้ยงชีพในฐานะพลแม่นปืนถึงแม้ว่าจะมีข้อจำกัดของปืนสมัยโบราณก็ตามที ว่ากันว่ามีนักรบมากมายที่จบชีวิตลงจากปากกระบอกปืนของโบห์ แต่ด้วยความที่การตายเช่นนั้นถือเป็นการลบหลู่เกียรติของนักรบ จึงแทบไม่มีบันทึกความสำเร็จใด ๆ ของโบห์เหลืออยู่เลย ทว่าในช่วงท้ายของชีวิตนั้นโบห์ได้ถูกประหารเพราะลอบสังหารบุคคลผู้ทรงอิทธิพลแห่งยุคสมัยผิดพลาด ในตอนที่ใกล้สิ้นใจก็ได้มีผู้นำเอาวิญญาณของเขามาสิงสู่ในคุงุสึ ถึงแม้ว่าเขาจะมีความเป็นมาเช่นนั้น แต่โบห์ก็ยังคงมีอุปนิสัยที่ร่าเริง


เรื่องราวของอาเมยะ ไอส์ลิง (Ameya Aisling)
แม่มดมือใหม่ที่ปิดบังตัวเองในฐานะนักเรียนชั้นประถม

อาเมยะแวะมาเยือนเมืองมิยาโกะจากดินแดนแห่งแม่มดพัลกรา (Witchdom Pulchra) ซึ่งเป็นโลกที่ปกครองโดยแม่มด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการสอบที่เธอต้องผ่านไปให้ได้ ในระหว่างที่อยู่ในเมืองมิยาโกะนี่เอง เธอได้แปลงโฉมเป็นเด็กนักเรียนหญิงอายุ 11 ปีชื่อว่ายูเมฮะ อิซุมิ (Yumeha Izumi) และใช้ชีวิตกับแมวรับใช้ของเธอโลโล (LoLo) ทว่าหลังจากโดนชายลึกลับโจมตี เธอก็สูญเสียพลังเวททั้งหมดไป แล้วอาเมยะจะชิงพลังกลับคืนมาเพื่อผ่านการสอบได้หรือไม่?

ข้ารับใช้และสหายของอาเมยะ
โลโล (LoLo)

สัตว์รับใช้ของอาเมยะ โลโลนั้นถูกมอบหมายให้ติดตามอาเมยะเพื่อการสอบในครั้งนี้ ในความเป็นจริงแล้วโลโลได้เป็นครอบครัวของอาเมยะมาตั้งแต่สมัยของแม่เธอแล้ว และอาจจะนานกว่านั้นเสียด้วยซ้ำ โลโลนั้นมีพลังเวทที่แข็งแกร่งในตัวเอง ทำให้เขาสามารถสนทนากับผู้อื่นได้นอกเหนือจากนายหญิงของตน แต่เขานั้นระวังตัวที่จะไม่เผยพลังเว้นแต่จำเป็นจริง ๆ เท่านั้น นับตั้งแต่มาถึงเมืองมิยาโกะนี้ โลโลก็เริ่มที่จะมีพฤติกรรมคล้ายกับแมวท้องถิ่น จึงทำให้เขาเริ่มที่จะมีประสาทรับรู้ไวต่อสิ่งกระตุ้นเร้าต่าง ๆ

ชิโนบุ คาโต (Shinobu Kato)

ข้ารับใช้ที่ถูกส่งตัวมาจากพัลกราเพื่อปกป้องและคอยสังเกตการณ์อาเมยะ เขาจะทำตามคำสั่งใด ๆ ก็ตามที่แม่มดสั่งการโดยไม่ตั้งคำถาม ชื่อชิโนบุ คาโตนี้เป็นชื่อปลอมที่ใช้ในเมืองมิยาโกะ เพราะในพัลกรานั้นเขาจะถูกเรียกว่าข้ารับใช้ 15413837 ชื่อชิโนบุถูกเลือกมาใช้เพราะเขาชื่นชอบนินจา

ผู้ช่วยเหลืออาเมยะ

มาฉะ (Macha) คือบุคคลลึกลับที่อ้างตัวว่าเป็นเทพธิดาแห่งเวทมนตร์ มาฉะช่วยเหลืออาเมยะไว้ในตอนที่ตกที่นั่งลำบาก และมอบพลังให้เธอสามารถมองเห็นคลื่นสีมรกต เธอต่อสู้เพื่อดำรงไว้ซึ่งสมดุลแห่งเวทของโลกที่เชื่อมต่อกัน แต่ตัวตนที่แท้จริงของเธอยังเป็นปริศนา ดูเหมือนว่าเวอร์ชันนี้จะเป็นเพียงร่างเลียนแบบของมาฉะ จึงทำให้พลังของเธอนั้นด้อยกว่ามาฉะตัวจริงมาก แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังแสดงให้เห็นถึงความสามารถที่สมเป็นเทพธิดาแห่งเวทมนตร์ อย่างไรก็ตาม นิสัยของเธอนั้นไม่มีอะไรที่บ่งบอกถึงความเป็นเทพธิดาเลย เพราะดูเหมือนว่าร่างนี้จะห่างจากตัวจริงไปไกลโข


บรรดาตัวละครที่มาร่วมทางได้

ลิตา (Lita)

แม่มดสีฟ้าจากพัลกรา เธอเป็นคนที่มุ่งมั่นและถือตัว มีรายงานว่ามีผู้พบเห็นลิตาในเมืองแคปิตอล (Capitol City) ซึ่งเป็เมืองหลวงของประเทศพันธมิตร ดูเหมือนว่าเธอจะใช้ชีวิตในฐานะนักข่าวที่ชื่อชุนงิคุ ฮานาบุสะ (Shungiku Hanabusa) แต่ก็ไม่มีอะไรแน่ชัดว่านี่คือลิตาที่แปลงโฉมเพื่อการสอบ หรือเป็นคนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องเลย

วิลมา (Willma)

แม่มดสีเหลืองจากพัลกรา วิลมานั้นมีบุคลิกที่นิ่งเงียบมาก แต่ลึก ๆ แล้วเธอเป็นกังวลว่าตนเองอาจจะเป็นโกเล็ม เธอมีวิธีพูดที่แปลกประหลาดมาก

ข้ารับใช้สีแดง (Red Squire)

ข้ารับใช้ของแม่มดสีแดง เขาเป็นมือสังหารฝีมือดี แต่บางทีก็แอบเลินเล่อ อย่างไรก็ตามไม่มีใครปฏิเสธฝีมือลอบสังหารของเขาได้

นาโอมิ วากะ (Naomi Waka)

นักศึกษาปีหนึ่งแห่งมหาวิทยาลัยมิยาโกะ ซึ่งทสึนาโนริเป็นรุ่นพี่ของเธอ เธอเป็นบุตรสาวของตระกูลพ่อค้าชินโค (Shinko) ที่มีผู้ให้ความเคารพมากมาย อย่างไรก็ตามครอบครัวของเธอมีกฎอยู่ว่าหากอยากได้อะไรก็ต้องไขว่คว้ามาเอง เธอจึงใช้เวลาทุกวันทำงานพาร์ทไทม์อย่างหนักเพื่อหารายได้พิเศษ และด้วยเหตุนี้จึงทำให้รูปลักษณ์ภายนอกของเธอนั้นดูธรรมดามาก

กูร์มันด์ (Gourmand)

บุตรชายของโทป (Tope) ที่คอยดูแลตัวเอก เขาเป็นสิ่งมีชีวิตคล้ายตัวตุ่นที่ร่าเริงที่มีนิสัยกวน ๆ และชอบของอร่อย


โลกของ SaGa Emerald Beyond
เมืองมิยาโกะที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์

เมืองโบราณแห่งนี้อัดแน่นไปด้วยประวัติศาสตร์ ทว่าวิกฤติที่ไม่เคยมีใครพบเจอมาก่อนได้เข้ามาใกล้ และประชาชนของเมืองแห่งนี้ไม่มีใครรู้เลยว่ามีผู้ที่ยังคงต่อสู้อยู่

พัลกรา บ้านของเหล่าแม่มด

ในดินแดนแห่งแม่มดพัลกราแห่งนี้ บรรดาแม่มดใช้พลังเวทเพื่อมีชีวิตอย่างเป็นอิสระ ทว่าโลกต้องการสมดุล และเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนกับเสรีภาพเหล่านี้เหล่าแม่มดจะต้องเผชิญกับโชคชะตาอันโหดร้าย

ดินแดนใต้พิภพของเหล่าคอร์ดีเซป

การใช้ชีวิตใต้ดินก็ไม่ใช่ว่าจะเลวร้ายนัก และยิ่งถ้ามีครอบครัวอยู่ด้วยก็ยิ่งดีใหญ่! เหล่าบุตรแห่งคอร์ดีเซปต่างก็รอคอยเวลาที่พ่อของพวกตนจะกลับบ้านมาพร้อมด้วยหนอนตัวอวบอ้วนน่าอร่อย


ระบบต่อสู้ที่เต็มไปด้วยความหลากหลายด้านเผ่าพันธุ์, อาวุธ, สกิลและอบิลิตี้

เผ่าพันธุ์มนุษย์

มนุษย์คือเผ่าพันธุ์ที่มาตรฐานที่สุดจากทุกเผ่าพันธุ์ พวกเขาสามารถใช้อาวุธได้แทบทุกประเภท และสามารถใช้งานท่าและอบิลิตี้ได้เกือบหมด มนุษย์จะเพิ่มความก้าวหน้าได้จากการต่อสู้ และเรียนรู้ท่าใหม่จากระบบ “กลิมเมอร์” (การคิดท่า) ที่แฟน ๆ จะคุ้นเคยจากภาคก่อน ๆ ของซีรีส์ นอกจากนี้มนุษย์ยังสามารถกลิมเมอร์แล้วใช้ “คัสตอมเทค” ซึ่งเป็นประเภทของสกิลเฉพาะของมนุษย์ได้ด้วย

เผ่าพันธุ์คุงุสึ

เช่นเดียวกับมนุษย์ ที่คุงุสึจะสามารถติดตั้งของสวมใส่ได้หลากหลาย แต่ที่ไม่เหมือนมนุษย์ก็คือพวกเขาติดตั้งอาวุธได้แค่ชิ้นเดียว และไม่สามารถคิดท่าใหม่ได้ แต่ว่าพวกเขาจะสามารถเลียนแบบและเรียนรู้ท่าของผู้อื่นได้ในการต่อสู้โดยใช้อบิลิตี้ “มิมิก” พวกเขายังสามารถติดตั้งวิญญาณ (Soul) ที่ได้จากศัตรูซึ่งปราบไปได้ด้วย และถ้าวิญญาณนั้นมีท่าวิญญาณ พวกเขาก็จะใช้ท่านั้นได้

เผ่าพันธุ์มอนสเตอร์

สิ่งที่ไม่เหมือนเผ่าพันธุ์อื่นก็คือ พวกมอนสเตอร์จะถือกำเนิดมาพร้อมอาวุธและชุดเกราะอยู่แล้ว อย่างเช่นกรงเล็บและผิวหนังที่แข็ง ดังนั้นของสวมใส่ที่จะเปลี่ยนได้มีเพียงเครื่องประดับเท่านั้น มอนสเตอร์จะสามารถใช้อาวุธและชุดเกราะโดยกำเนิดเพื่อชิงท่ามาจากมอนสเตอร์ที่กำจัดไปแล้วนำมาใช้เอง มอนสเตอร์จะสามารถดูดได้เพียงท่าเดียวมาใส่อุปกรณ์ของตน แต่ว่าสามารถที่จะ “อันลีช” (ปลดปล่อย) ท่านั้นเพื่อสร้างช่องว่างสำหรับการเรียนรู้ท่าอื่นได้ หากว่าทำการอันลีชท่านการต่อสู้ก็จะเสีย HP บางส่วนแต่ท่าจะรุนแรงขึ้น นอกจากนี้ยังมีของสวมใส่พิเศษบางอย่างที่เรียกว่า “มอนสเตอร์เกียร์” ที่จะช่วยให้เผ่าพันธุ์อื่น ๆ สามารถดูดท่าจากมอนสเตอร์ได้ในลักษณะเดียวกัน แต่ว่าจะสามารถใช้งานได้เฉพาะ “ผู้ใช้อุปกรณ์มอนสเตอร์” แบบพิเศษเท่านั้น

ประเภทอาวุธ: ดาบมือเดียว

ดาบมือเดียวจะแบ่งออกเป็นดาบยาว, ดาบสั้น, มีดสั้นและขวาน ซึ่งต่างก็ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถใช้ท่าดาบมือเดียวทั่วไปได้ นอกจากนั้นแล้วดาบมือเดียวแต่ละชนิดก็ยังมีท่าเฉพาะของตนเอง เช่นท่าดาบยาว, ท่าดาบสั้น, ท่ามีดสั้นและท่าขวาน ซึ่งแต่ละเซ็ตก็จะมีคุณลักษณะเฉพาะ เช่น ท่าดาบยาวจะทำให้ผู้เล่นเคลื่อนไหวได้คล่องแคล่ว, ดาบสั้นจะเต็มไปด้วยการโจมตีธาตุที่หลากหลาย, มีดสั้นจะทำให้ผู้ใช้โดนศัตรูเล่นงานน้อยลง และขวานมีพลังโจมตีสูงที่สุดแต่ความแม่นยำต่ำ ผู้เล่นจะมีอิสระในการเลือกดาบมือเดียวที่ตนชื่นชอบ รวมถึงกลยุทธ์และแผนในการปั้นตัวละคร ภายใต้เงื่อนไขบางอย่าง ตัวละครจะสามารถใช้การโจมตีคู่โดยใช้ดาบมือเดียวสองชิ้นหรือจะผสมผสานดาบมือเดียวกับปืนก็ได้

เวทมนตร์

ทุกเผ่าพันธุ์นอกจากเครื่องจักรจะสามารถใช้เวทมนตร์ได้ เวทจะมีคุณสมบัติหนึ่งในห้าธาตุ (ไม้, ไฟ, ดิน, โลหะและน้ำ) และประกอบไปด้วยการโจมตีศัตรูทุกตัวอันรุนแรงที่จะต้องเสียเทิร์นเพิ่มเพื่อใช้งาน รวมถึงเวทที่ทำให้สร้างสถานะผิดปกติได้ง่ายขึ้น หากต้องการเรียนรู้เวทสำหรับธาตุใดเป็นพิเศษนั้น ตัวละครจะต้องใช้เวทจากธาตุเดียวกันนั้นก่อน ดังนั้นตัวละครที่ไม่มีเวทก็จะต้องติดตั้งไอเท็มที่ทำให้พวกเขาใช้เวทได้ จากนั้นก็ใช้เวทดังกล่าวเพื่อเรียนรู้

ท่าตามเงื่อนไข

ท่าที่ใช้ตอบโต้ศัตรูหรือตอบสนองต่ออบิลิตี้ของเพื่อนหรือเวทใด ๆ จะเรียกว่าท่าตามเงื่อนไข ซึ่งมีอยู่ด้วยกันห้าแบบ: ขัดจังหวะ, โจมตีสวน, ป้องกัน, เชื่อมและติดตามโจมตี ท่าตามเงื่อนไขที่ศัตรูเตรียมไว้จะปรากฏบนไทม์ไลน์เป็นเครื่องหมายคำถามสามตัวด้วยกัน “???” หากว่าศัตรูขึ้นสัญลักษณ์นี้เมื่อใด ก็ระวังท่าตามเงื่อนไขเอาไว้ให้ดี ซึ่งท่าตามเงื่อนไขของศัตรูนี้สามารถระงับได้โดยใช้ท่าที่มีคุณสมบัติ “เควล” (ระงับ) ทำให้คุณสู้ได้โดยไม่มีอะไรมาขัดขวาง

ขัดจังหวะ (Interrupt)

ท่าขัดจังหวะจะทำให้ศัตรูเสียจังหวะก่อนได้ลงมือ ท่าเหล่านี้จะสามารถใช้ได้เพื่อตอบสนองการโจมตีของธาตุใดโดยเฉพาะเท่านั้น ซึ่งท่าขัดจังหวะนี้จะใช้ได้เมื่อศัตรูเลือกเคลื่อนไหวโดยมีธาตุตรงกันกับท่าขัดจังหวะนั้น และท่านี้จะถูกใช้ก่อนศัตรูจะเคลื่อนไหวโดยไม่สนเทิร์นของผู้เล่น

โจมตีสวน (Counterattack)

การโจมตีสวนคือท่าอันทรงพลังที่ผสมผสานการโจมตีและป้องกันไว้ด้วยกัน เพราะจะเป็นการทำให้การเคลื่อนไหวของศัตรูเสียไปพร้อมกับโจมตีคืนอย่างรุนแรง อย่างไรก็ตามการโจมตีสวนก็มีข้อเสียเปรียบ เพราะตัวละครจะต้องรับการโจมตีจากศัตรู จึงอาจทำให้ตัวละครนั้นไม่ทำอะไรเลยทั้งเทิร์นเพราะพวกเขาไม่โดนโจมตี ซึ่งการโจมตีสวนก็ไม่การันตีว่าจะใช้งานได้หลังโดนโจมตี และไม่สามารถใช้ได้กับการโจมตีที่เป็นการโจมตีทั้งกลุ่ม

ป้องกัน (Protect)

ท่าป้องกันจะใช้ได้เพื่อลดความเสียหายที่ได้รับเมื่อเพื่อนในปาร์ตี้โดนโจมตี และตัวละครอื่นจะรับความเสียหายแทน มาใช้ท่าป้องกันเมื่อเพื่อนใกล้ตายหรือเพื่อรับการโจมตีที่มุ่งเป้าโจมตีทั้งกลุ่มซึ่งจะช่วยลดจำนวนเพื่อนที่รับความเสียหายได้ด้วย ท่าป้องกันบางท่าจะเป็นการปัดป้องและสลายการโจมตีที่ได้รับของใครก็ตามที่ใช้ท่า

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ข้ามไปยังทูลบาร์