Contra Operation Galuga [REVIEW]

*ขอขอบคุณ Konami Asia สำหรับโค้ดรีวิวมา ณ โอกาสนี้ครับ
**รีวิวนี้เล่นบน PlayStation 5

หากพูดถึงชื่อ Contra นั้น เชื่อว่าเกมเมอร์วัยเลขสี่หลายคนจะต้องรู้จักกับเกมที่ให้คุณรับบทเป็นนายทหารฝีมือพระกาฬสองนายที่คนนึงกางเกงน้ำเงินและอีกคนกางเกงแดง บุกเดี่ยวในเกาะถล่มกองทัพผู้ก่อการร้าย ก่อนจะเลยไปเป็นการถล่มเหล่าเอเลี่ยนที่หมายจะทำลายโลก

ตัวเกม Contra นั้นเดิมเปิดให้เล่นในแบบเกมตู้อาร์เขดในปีค.ศ.1987 ก่อนที่จะพอร์ตมาลงเครื่องแฟมิคอมหรือ NES ในปีค.ศ.1988 ซึ่งก็เชื่อว่าน่าจะเป็นเวอร์ชันที่หลายคนได้เล่นและจดจำได้มากที่สุดแล้วล่ะครับ และหลังจากความสำเร็จของภาคแรกนั้น ก็ก่อให้เกิดภาคต่อตามมามากมาย มีทั้งภาคที่ประสบความสำเร็จและภาคที่ล้มเหลวคละกันไป

---

เนื้อเรื่อง

สำหรับ Contra Operation Galuga ในครั้งนี้ก็ถือเป็นการนำเอาเนื้อหาภาคแรกสุดมารีเมกใหม่ ปรับตัวเกมให้ทันสมัยขึ้น และเสริมเรื่องราวรวมถึงตัวละครใหม่ ๆ เข้าไปเพิ่มความสดใหม่ให้กับแฟรนไชส์ครับ แน่นอนว่าบทบาทของบิล (Bill) และแลนซ์ (Lance) ก็ยังคงเดิม แต่ได้รับการเสริมด้วยบทบาทของตัวละครหน้าใหม่ (หรือเก่า) อย่างเช่นลูเซีย (Lucia) รวมถึงตัวละครอื่น ๆ อีก

อันที่จริง เกมสไตล์อย่าง Contra นี้ก็ไม่ได้เน้นเนื้อหาเน้นเรื่องราวอะไรมากแต่แรกอยู่แล้ว ถึงอย่างนั้นก็เถอะ พอเล่น Story Mode จนจบนี่ ผมก็แอบเซอร์ไพรส์ที่เกมมีการเชื่อมโยงเรื่องราวไปภาคอื่น ๆ ที่คนชื่นชอบกันด้วยครับ ตัวละครบางตัวนี่ทีแรกผมก็สงสัยว่าใส่มาทำไมเพราะดูไม่มีบทบาทอะไรกับเรื่องราว แต่พอเห็นฉากจบปุ๊บนี่ก็แอบอึ้งไปเหมือนกันว่าอ้าว ตกลงพี่คือตัวละครตัวนั้นเองหรอกเหรอ อะไรแบบนี้

---

เกมเพลย์

วิธีการเล่นของ Contra Operation Galuga นั้นก็ตามที่หลายคนน่าจะคาดเดากันได้เลยนั่นคือเป็นแอ็กชันแพลตฟอร์มวิ่งด้านข้างยิงแหลกแจกกระสุนที่เกมเมอร์คุ้นเคย ซึ่งก็ตามสไตล์คอนทราที่คุณไม่ต้องกังวลเรื่องกระสุนหมด ไม่ต้องห่วงเรื่องปืนจะโอเวอร์ฮีตครับ หน้าที่ของคุณมีอย่างเดียวคือถล่มศัตรูที่เจอด้วยสรรพาวุธที่มีในมือ และในภาคนี้จะไม่มีการสลับไปเล่นเป็นมุมมองอื่นครับ เรียกได้ว่าคุณวิ่งยิงด้านข้างแบบคลาสสิกเพียว ๆ ตั้งแต่ต้นยันจบเกม

หากจะว่าไปถึงเรื่ององค์ประกอบการเล่นแล้ว ภาคนี้มีการนำเอาระบบหลายอย่างมาใช้ให้ทันสมัยขึ้น อย่างระบบการเก็บปืนพิเศษเอาไว้ได้ทีละสองกระบอกที่เริ่มใช้ตั้งแต่สมัยภาค Super Contra บนซูเปอร์แฟมิคอมก็ยังคงถูกนำมาใช้ และที่สำคัญคือตัวละครแต่ละตัวจะมีความสามารถพิเศษรวมถึงคุณลักษณะของอาวุธบางอย่างที่ต่างกันครับ

ถ้าจะให้ยกตัวอย่างก็เช่นบิลและแลนซ์จะสามารถกระโดดได้สองชั้น และแดชกลางอากาศได้ ในขณะที่อาริอานา (Ariana) จะมีความสามารถในการสไลด์ และลูเซียจะแดชได้แต่กระโดดสองชั้นไม่ได้หากแต่สามารถยิงปืนสลิงเพื่อพุ่งไปเกาะพื้นที่อยู่ด้านบนได้ ฯลฯ ทั้งหมดนี้ทำให้วิธีการเล่นแต่ละคนมีความแตกต่างกันและไม่ใช่แค่การเปลี่ยนสกินเท่านั้น เรียกได้ว่าเป็นการนำเอาระบบจากภาค Contra Hard Corps และ Hard Corps Uprising มาใช้และต่อยอดนั่นเอง

ภาคนี้มีระบบการเล่นหนึ่งที่ทำหน้าที่คล้าย ๆ กับระบบการชาร์จยิงอาวุธในภาค Shattered Soldier ครับ นั่นคืออาวุธทุกชิ้นที่คุณเก็บมาได้ คุณจะสามารถกดโอเวอร์โหลดเพื่อสละอาวุธแล้วใช้งานการโจมตีแบบพิเศษที่แตกต่างกันไปได้ มันเลยเป็นองค์ประกอบที่ให้ผู้เล่นต้องเลือกตัดสินใจในบางช่วงว่าจะเก็บอาวุธไว้ใช้งาน หรือจะสละทิ้งแล้วเน้นโจมตีอย่างรุนแรงในครั้งเดียว

สำหรับความยากของภาคนี้นั้น โดยส่วนตัวผมคิดว่าตัวเกมออกแบบมาให้คนเข้าถึงมากขึ้น นั่นเพราะในโหมดปกติของเกมคุณจะไม่โดนทีเดียวตายอีกแล้วแต่จะมีพลังชีวิตให้ครับ (ซึ่งก็มาจากภาค Contra Hard Corps และ Hard Corps Uprising นั่นล่ะ) ส่วนถ้าใครอยากเล่นแบบฮาร์ดคอร์เหมือนสมัยก่อนก็สามารถปรับเกมให้เป็น 1-Hit Kill ได้เหมือนกัน เรียกได้ว่าต่อให้คุณเป็นมือใหม่และไม่ชินกับแนวนี้ก็เล่นได้ง่าย แต่ใครอยากโชว์เหนือก็ไม่ต้องง้อระบบช่วยเหลือพวกนี้ได้เหมือนกัน

ตัวช่วยอีกอย่างหนึ่งของภาคนี้ก็คือระบบ perk ครับ เมื่อคุณเล่นเกมไปก็จะได้เครดิตมาเพื่อใช้ซื้อ perk ที่จะเป็นคุณสมบัติพิเศษในการเล่นต่าง ๆ โดยที่ตัวละครหนึ่งจะติดตั้งได้สองชนิด บ้างก็เป็นการเพิ่มพลังชีวิต บ้างก็เป็นการเพิ่มจำนวนตัวที่ใช้ได้ในการเล่นแต่ละรอบ แต่บาง perk ก็จะเป็นการปลดล็อกตัวละครใหม่ หรือเปิดให้เราปรับเปลี่ยนเพลงประกอบไปเป็นเพลงจากภาคอื่นหรือเกมอื่นของ Konami เองก็ยังได้ คุณจะโดดเข้าฉากโดยมีธีมเพลงประกอบเป็นเพลงจาก Castlevania ก็ทำได้ไม่มีปัญหา

หากจะมีสิ่งหนึ่งที่ผมชอบสำหรับ Contra Operation Galuga ในครั้งนี้ ก็คือการออกแบบฉากแต่ละฉากที่ดูรู้ว่าเป็นการรีเมกเพราะจะมีอะไรที่คุณคุ้นเคยจากภาคต้นฉบับ แต่ขณะเดียวกันก็ใส่องค์ประกอบใหม่ ๆ เข้ามาให้สดใหม่ แม้กระทั่งตัวบอสเองก็จะมีดีไซน์ที่เห็นปุ๊บคุณนึกออกปั๊บว่าเจ้านี่คือตัวอะไรจากภาคต้นฉบับ แต่มันก็จะมีกิมมิคอะไรบางอย่างเพิ่มเข้ามาที่หลายครั้งก็เป็นการอ้างอิงจากภาคอื่น ๆ ที่ไม่ใช่แค่ภาคแรกด้วยครับ

อ้อ อีกจุดหนึ่งที่ต้องชมก็คือความ snappy หรือฉับไวในการบังคับนี่ล่ะครับ ทุกอย่างตอบสนองตามที่ผู้เล่นต้องการมาก กระโดดเป็นกระโดด ดันขวาก็วิ่งขวา ดันซ้ายก็วิ่งซ้าย กดหมอบก็ลงแนบพื้นทันที ไม่มีมูฟเมนต์แบบค่อย ๆ ขยับให้รำคาญใจ

ถ้าคุณเป็นแฟน Contra และติดตามเล่นมาหลายต่อหลายภาคล่ะก็ ภาคนี้จะมีอะไรให้คุณชอบใจเยอะมากแน่นอน

---

กราฟิก

ในส่วนของกราฟิกนั้น แม้เกมนี้จะไม่ได้มีกราฟิกที่เน้นความสมจริงประเภทที่เห็นหัวสิวตัวละคร หรือเห็นลายผ้าที่สวมใส่อะไรแบบนั้น (ซึ่งทีมงานก็ไม่ได้ตั้งใจจะทำแบบนั้นอยู่แล้วด้วย) แต่สไตล์งานภาพและตัวโมเดลจะเป็นกึ่งการ์ตูนซึ่งก็เหมาะกับรูปแบบการนำเสนอของเกมอย่างคอนทราที่สาดกระสุนกันท่วมจอและเต็มไปด้วยสัตว์ประหลาดอยู่

ทั้งนี้ทั้งนั้น ผมคิดว่าเกมแบบคอนทรานี่สิ่งสำคัญที่สุดก็คือความลื่นไหลของเกมครับ ซึ่งจุดนี้ทำได้ดีไม่ผิดหวัง ตลอดทั้งเกมที่เล่นมานี้ต่อไปยิงกระสุนเยอะแค่ไหน มีเอฟเฟกต์มากเพียงใดก็ไม่มีอาการเกมแล็กหรือช้าให้เห็นเลย เกมนี้มีความเร็วและฉับไวในแบบที่คอนทราควรจะเป็นแท้ ๆ ครับ

---

เพลงประกอบ

สำหรับเพลงประกอบในเกมนี้ ก็จะเป็นเพลงธีมของแฟรนไชส์ที่หลายคนคุ้นเคยแต่ได้รับการเรียบเรียงใหม่ครับ ดังนั้นคุณจะได้ยินเพลงประกอบที่คุ้นหูทั้งเกม หรือหากคุณจะปรับไปเป็นซาวด์แทร็กที่คุ้นเคย (หรือจากเกมอื่น) ก็สามารถทำได้จากการซื้อ perk อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้

---

สรุป

Contra Operation Galuga นี้คือการกลับมาของคอนทราในแบบที่หลายคนคุ้นเคยและควรจะเป็น หากว่าคุณชื่นชอบคอนทราในแบบคลาสสิกแล้ว ภาคนี้จะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอน เพียงแต่ว่าถ้าคุณต้องการคอนเทนต์ที่หลากหลายก็อาจจะไม่มีมากนักนอกจากโหมดแชลเลนจ์ แต่ก็นะสุดท้ายมันจบที่ว่าเกมนี้มันคือคอนทรานั่นล่ะครับ