รีวิว The Last of Us Part II Remastered สำหรับ PC
*ขอขอบคุณ Sony Interactive Entertainment สำหรับโค้ดเพื่อการรีวิว
- ย้อนอ่านรีวิวเกมนี้เวอร์ชัน PS5 (โดย G-jang) ได้ที่นี่
The Last of Us Part II Remastered – รีวิว [REVIEW] - รีวิวแบบคลิปวิดีโอ
รีวิว The Last of Us Part 2 Remastered PS5 [REVIEW] - หมายเหตุ : ใครอยากอ่าน The Last of Us Part I – รีวิว [REVIEW] (เกมภาคแรกสุดที่ได้กลับมาอีกครั้งในแบบรีเมคบน PlayStation 5) เชิญได้ที่นี่
ภาคสองของเกม The Last of Us เป็นเกมที่พวกเราชาวไทยเกมวิกิได้รีวิวไปแล้วบ่อยมากเลยนะครับ (555) ตั้งแต่การรีวิวครั้งแรกสุดสมัยเกมวางจำหน่าย ซึ่งน่าเสียดายที่บทความเวอร์ชันนั้นสูญหายไปพร้อมกับเว็บไซต์ยุคแรกของเราที่ล่มสลายไปก่อนที่เราจะสร้างขึ้นมาใหม่ในแบบที่เห็นกันอยู่ทุกวันนี้ จากนั้น พอตัวเกมมีการรีมาสเตอร์ พวกเราก็ได้โอกาสกลับมารีวิวเกมนี้กันอีกครั้งตามลิงก์ที่ผมแปะไว้ด้านบน โดยมันเป็นเวอร์ชันของเครื่อง PS5 ที่คุณจีจังได้ทำไว้ โดยเรามีให้เลือกเสพกันทั้งแบบบทความและวิดีโอกันไปเลย
มาคราวนี้ เกมวางจำหน่ายรอบใหม่ในแบบเวอร์ชัน PC ซึ่งก็เป็นตัวรีมาสเตอร์เดียวกับ PS5 นั่นแหละ แต่มีการอัปเกรดเพิ่มเติมพร้อมฟีเจอร์ใหม่ ๆ เล็กน้อย โดยมีอะไรบ้างนั้น เราไปไล่ดูกันเลยดีกว่าครับ
ฟีเจอร์ความพิเศษสำหรับ PC
ตรงส่วนนี้เป็นสาระสำคัญที่สุดที่ผมขอสรุปเป็นข้อ ๆ สั้น ๆ มาให้ได้ทราบกันเพื่อประกอบการตัดสินใจ (ส่วนการรีวิวที่เน้นตีแผ่เนื้อหาเรื่องราวในเกม ผมขอละไว้ในฐานะที่เราได้พูดกันไปเยอะแล้วนะครับสำหรับเกม ๆ นี้)
- การพัฒนากราฟิกที่ยกระดับเพิ่มไปอีก ตามประสิทธิภาพของเครื่องคอมพิวเตอร์ของแต่ละคน ตรงนี้เดี๋ยวตอนท้ายผมจะแปะสเปคเครื่องที่เขาแนะนำไว้ให้ดูเปรียบเทียบกันนะครับ แต่โดยส่วนตัวแล้ว ผมคิดว่าเกมสวยขึ้นกว่าของเครื่อง PS5 มาได้อีกเยอะเลยนะ คมชัดมาก นอกจากนี้ยังมีการรองรับเทคโนโลยีเพิ่มประสิทธิภาพต่าง ๆ ประกอบด้วย NVIDIA DLSS 3 และ AMD FSR 3.1 ที่มีการอัปสเกลและ Frame Generation และรองรับ Intel XeSS
- มีการรองรับคอนโทรลเลอร์ PlayStation DualSense เต็มรูปแบบพร้อมฟังก์ชันทริกเกอร์แบบปรับเปลี่ยนได้และการตอบสนองการสัมผัส ซึ่งตรงจุดนี้มันก็เหมือนกับของเครื่อง PS5 นั่นเอง
- เกมรองรับหน้าจอแบบกว้างและกว้างพิเศษ
- มีการรองรับ HDR
- มีการรองรับ DirectStorage
- เกมสามารถเล่นได้ด้วยเมาส์และคีย์บอร์ด
- ผู้เล่นบน PC ที่มีบัญชี PlayStation Network สามารถใช้โอเวอร์เลย์ PlayStation เพื่อรับถ้วยรางวัลและเข้าถึงรายชื่อเพื่อน การตั้งค่า และโพรไฟล์ผู้เล่น PlayStation ได้
โหมดเอาตัวรอดโร้กไลก์ “โนรีเทิร์น”
ทางด้านโหมดยอดฮิตอย่างโนรีเทิร์นนั้น เวอร์ชัน PC มีเพิ่มสิ่งใหม่เข้ามา 2 ส่วนด้วยกันก็คือ ตัวละครใหม่กับแผนที่ใหม่ (ซึ่งสองส่วนนี้ก็ถูกอัปเดตให้กับของ PS5 แล้วเช่นกัน) ได้แก่
“บิล” มีสไตล์การเล่นแบบ “นักขนของเถื่อน” ที่สามารถเข้าถึงปืนลูกซองปั๊มที่ปรับแต่งแล้วจากเดดดรอปได้ และยังได้รับรางวัลจากดรอปเป็นสองเท่าด้วย เขาแข็งแกร่งต่อการโจมตีประชิดแต่ไม่สามารถหลบหลีกได้
“มาร์ลีน” มีสไตล์การเล่นแบบ “ผู้กล้าเสี่ยง” ที่สามารถเข้าถึงปืนไรเฟิลจู่โจมที่ปรับแต่งแล้วและแผนเสี่ยง “หมดหน้าตัก” ได้ เธอยังสามารถเปลี่ยนเส้นทางโนรีเทิร์นได้หนึ่งครั้งต่อรอบด้วย
ขณะที่ แผนที่ใหม่ ๆ นั้นมีด้วยกัน 4 แมป ดังนี้
- Overlook – พื้นที่ของเหล่าเซราไฟต์ที่เป็นที่น่าจดจำในแคมเปญ อยู่ในที่สูงของเมืองซีแอตเทิลและมีการเล่นในแนวตั้งอยู่มาก
- School – โรงเรียนอนุบาลร้างที่เอลลี่กับดีน่าเผชิญหน้ากับ W.L.F. ในแคมเปญหลัก
- Streets – ตั้งอยู่ที่ละแวกฮิลเครสต์ที่รกร้างในซีแอตเทิล
- Nest – ผู้เล่นที่ได้เล่นเป็นแอ็บบี้ในช่วงแคมเปญจะคุ้นเคยกับอาคารที่เต็มไปด้วยผู้ติดเชื้อแห่งนี้
ด้านรูปแบบของกฎกติกาในโนรีเทิร์น แบ่งออกได้เป็น 5 ประเภท ดังนี้
- โหมดฝูงบุก – ที่คุณจะต้องรับมือศัตรูหลายระลอก
- โหมดยึดพื้นที่ – ที่คุณจะต้องแงะตู้เซฟที่มีทรัพยากรที่มีค่าที่ศัตรูกำลังคุ้มกันอยู่
- โหมดคุ้มกัน – ที่คุณกับคู่หูที่ควบคุมโดย AI จะต้องตั้งรับฝูงผู้ติดเชื้อที่ล้อมคุณอยู่
- โหมดถูกล่า – ที่คุณจะต้องเอาตัวรอดจากกำลังเสริมของศัตรูที่มาอย่างต่อเนื่องจนกว่าเวลาจะหมด
- ปะทะบอส – เป็นด่านสุดท้ายของแต่ละรัน คุณจะต้องสู้กับหนึ่งในหกบอสศัตรูที่ปรากฏตัวในแคมเปญหลัก (และหลังจากที่คุณเอาชนะพวกมันได้หมด พวกมันก็จะโผล่มาแบบสุ่มในรอบการเล่นต่อไป)
ทั้งนี้ รอบการเล่นที่ไม่ว่าจะจบด้วยชัยชนะหรือความพ่ายแพ้ จะถูกประเมินออกมาเป็นคะแนนและแรงก์ตามผลงาน และรอบถัดไปก็จะไม่เหมือนกับรอบก่อนหน้า
สุดท้ายสำหรับฟีเจอร์พิเศษในเกมฉบับรีมาสเตอร์ก็คือ การได้เรียนรู้เบื้องหลังการพัฒนาจากด่านที่ถูกตัดออกสามด่านที่มีให้คุณได้เล่น, เพลิดเพลินกับบทวิจารณ์จากผู้พัฒนายาวหลายชั่วโมงที่จะมอบความรู้เชิงลึกเกี่ยวกับการพัฒนา Part II, โหมดเล่นกีตาร์อิสระ หรือลองทดสอบทักษะตัวเองในโหมดสปีดรัน, ปลดล็อกรางวัลด้วยการเชื่อมบัญชีของคุณกับ PlayStation Network โดยทำการเชื่อม PSN ID เพื่อเพลิดเพลินกับรางวัลสุดพิเศษ ได้แก่ สกินแจ็คเก็ตของจอร์แดน เอ มุน จาก Intergalactic: The Heretic Prophet สำหรับเอลลี่ และ +50 คะแนนเพื่อเปิดใช้งานฟีเจอร์เสริมและคอนเซปต์อาร์ทต่าง ๆ
สเปค PC ที่แนะนำสำหรับ The Last of Us Part II Remastered
ขั้นต่ำ
การตั้งค่ากราฟิก: ต่ำ
ประสิทธิภาพเฉลี่ย: 720p @ 30 fps
CPU: Intel Core i3-8100, AMD Ryzen 3 1300X
GPU: NVIDIA GeForce GTX 1650, AMD Radeon RX 5500XT
RAM: 16 GB
OS: Windows 10/11 64-bit (เวอร์ชัน 1909 หรือสูงกว่า)
พื้นที่จัดเก็บ: 150 GB SSD
แนะนำ
การตั้งค่ากราฟิก: กลาง
ประสิทธิภาพเฉลี่ย: 1080p @ 60 fps
CPU: Intel Core i5-8600, AMD Ryzen 5 3600
GPU: NVIDIA GeForce RTX 3060, AMD Radeon RX 5700
RAM: 16 GB
OS: Windows 10/11 64-bit (เวอร์ชัน 1909 หรือสูงกว่า)
พื้นที่จัดเก็บ: 150 GB SSD
สูง
การตั้งค่ากราฟิก: สูง
ประสิทธิภาพเฉลี่ย: 1440p @ 60 fps
CPU: Intel Core i7-9700, AMD Ryzen 7 3700X
GPU: NVIDIA GeForce RTX 3070, AMD Radeon RX 6800
RAM: 16 GB
OS: Windows 10/11 64-bit (เวอร์ชัน 1909 หรือสูงกว่า)
พื้นที่จัดเก็บ: 150 GB SSD
สูงมาก
การตั้งค่ากราฟิก: สูงมาก
ประสิทธิภาพเฉลี่ย: 4K @ 60 fps
CPU: Intel Core i7-11700, AMD Ryzen 7 5700X
GPU: NVIDIA GeForce RTX 4080, AMD Radeon RX 7900XT
RAM: 32 GB
OS: Windows 10/11 64-bit (เวอร์ชัน 1909 หรือสูงกว่า)
พื้นที่จัดเก็บ: 150 GB SSD
สรุป
โดยพื้นฐานแล้ว เวอร์ชันนี้ก็คือตัวเดียวกับรีมาสเตอร์ที่ออกบน PS5 เมื่อไม่นานมานี้ แต่สวยงามกว่า ภาพคมชัดและเฟรมเรทดีกว่า (ขึ้นอยู่กับคอมฯ ของผู้ใช้ด้วยนะ) ส่วนอย่างอื่นเหมือนกันครับ ดังนั้น ถ้าคุณมีเล่นบนเครื่อง PS5 แล้วก็ไม่ต้องซื้อซ้ำก็ได้ แต่ถ้าไม่เคยมีเลย ไม่เคยเล่นมาก่อน และลังเลว่าจะจัดของ PC หรือ PS5 ดี? ผมแนะนำให้เอา PC ไปเลยครับ