![Indiana Jones and the Great Circle PS5 Version – รีวิว [REVIEW]](https://thaigamewiki.com/wp-content/uploads/2025/04/Indiana-Jones-and-The-Great-Circle-Review-cover.jpg)
*ขอขอบคุณ Bethesda Softworks สำหรับโค้ดรีวิวมา ณ โอกาสนี้ครับ
Indian Jones and the Great Circle นั้นถ้าจะให้พูดไปแล้วก็ไม่ใช่เกมใหม่ เพราะว่าเดิมทีวางจำหน่ายบน Xobx Series X|S และ PC ไปแล้วเมื่อเดือนธันวาคม 2024 ที่ผ่านมา แต่สำหรับเกมเมอร์สาย PlayStation 5 ก็จะได้เล่นกันในเดือนเมษายนนี่ล่ะครับ โดยตัวเกมฉบับก่อนนั้นไทยเกมวิกิเคยได้รีวิวให้อ่านกันไปแล้ว (อ่านได้ที่นี่) โดยคุณปอลนาโช่ ส่วนฉบับ PS5 รอบนี้จะเป็นผม G-jang เป็นผู้รีวิวครับ
เนื้อเรื่อง
สำหรับใน Indiana Jones and the Great Circle นั้น ยังคงติดตามการผจญภัยของอินเดียนา โจนส์ (ก็แหงดิ) ผู้เป็นทั้งศาสตราจารย์ที่สอนโบราณคดีในมหาวิทยาลัย และยังเป็นนักล่าสมบัติที่ลุยป่าฝ่าดงไปทั่วทุกที่เพื่อค้นหาความลับแห่งอดีตกาลตามประวัติศาสตร์และตำนานเล่าขานทั่วโลก พร้อมกับปะทะบรรดากองทัพทหารเผด็จการในช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 แทบจะทุกภาคไป
เหตุการณ์ในภาคนี้เริ่มต้นขึ้นที่มหาวิทยาลัยมาร์แชลล์ เมื่อโจนส์ซึ่งทำงานอยู่จนดึกดื่นได้สะดุ้งตื่นและพบว่ามีผู้บุกรุกเข้ามาในมหาวิทยาลัยและทำลายตู้จัดแสดงหลายตู้ยับเยิน โจนส์ได้พบเข้ากับผู้บุกรุกและเข้าขัดขวางแต่เขาก็ต้องโดนทุบสลบเพราะผู้บุกรุกนั้นรูปร่างใหญ่โตราวกับเป็นยักษ์ เมื่อเขาฟื้นขึ้นมาก็ได้ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุและพบหลักฐานที่พาเขาไปสู่นครรัฐวาติกัน อันเป็นจุดเริ่มต้นของการค้นหาความจริงเกี่ยวกับ The Great Circle ในที่สุด
หากจะว่ากันในแง่ของเนื้อเรื่องแล้วภาค The Great Circle นี้มีการผูกเรื่องที่สนุกและได้บรรยากาศแทบไม่ต่างอะไรจากภาพยนตร์ชุดที่ผ่านมาครับ ปริศนาในเกมน่าติดตาม จังหวะในการเล่าเรื่องมีชั้นเชิงและมีจังหวะจะโคนที่กำลังดี ที่สำคัญคือมุกตลกสไตล์ภาพยนตร์แฟรนไชส์ Indiana Jones นี่จะมีให้เห็นตลอดทั้งเกม หากคุณชอบจังหวะตลกโบ๊ะบ๊ะแบบที่เคยเห็นมาในภาพยนตร์ภาคก่อน ๆ รับรองว่าไม่ผิดหวัง
สิ่งหนึ่งที่ต้องชมก็คือการสร้างบรรยากาศร่วมในเกมครับ อย่างที่หลายคนน่าจะรู้กันว่าปกติแล้วแฟรนไชส์นี้แต่ละภาคนั้นพระเอกอย่างโจนส์จะต้องเดินทางเทียวไปเทียวมาแต่ละประเทศไม่หยุดหย่อนตามเบาะแสที่ตนมี ซึ่งในเกมนี้ก็ไม่ต่างกัน ไม่ว่าจะนครรัฐวาติกันเอย อียิปต์เอย สุโขทัยเอย แต่ละที่นั้นทีมงานก็ออกแบบฉากมาได้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแตกต่างกันชัดเจน (ถึงสุโขทัยจะแอบโบราณไปหน่อยก็เถอะ) ซึ่งจุดที่ทีมงานสร้างบรรยากาศร่วมออกมาได้ดีก็คือเอกสารในแต่ละพื้นที่รวมถึงเสียงพากย์ครับ
เมื่อคุณไปวาติกันนั้นเวลาตระเวนไปไหนมาไหนคุณจะได้ยินเสียงบรรดา NPC รวมถึงทหารฟาสซิสต์พูดคุยกันเป็นภาษาอิตาลี เอกสารที่เก็บมาได้ก็มักจะเขียนเป็นภาษาอิตาลี พอไปอียิปต์ก็จะได้ยินเสียงคนคุยกันจอแจเป็นภาษาอียิปต์ และเมื่อไปเยือนสุโขทัยก็จะได้ยิน NPC คุยกันเป็นภาษาไทยกว่า 90% เลยรวมถึงเอกสารในเกมด้วย สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้มันเป็นอะไรที่จะทำให้คุณรู้สึกได้เลยว่าเราไปถึงที่นั่นกันจริง ๆ ครับ ดังนั้นหากมีคะแนน immersion นี่เกมนี้คะแนนทะลุหลอดแบบไร้กังขา
เกมเพลย์
สำหรับวิธีการเล่นของ The Great Circle นี้จะเป็นเกมแอ็กชันผจญภัยในมุมมองผสมผสานระหว่าง FPS และ TPS ครับ นั่นคือเวลาคุณไปไหนมาไหนและสำรวจฉากนั้นคุณจะเล่นในมุมมองสายตาของอินดี้เป็นหลัก แต่เมื่อใดก็ตามที่คุณออกแอ็กชันอย่างการห้อยโหนปีนป่ายหรือแก้ปริศนา เกมก็จะตัดเป็นมุมมอง TPS ให้คุณเห็นโมเดลตัวละคร ซึ่งก็จะเป็นไปในลักษณะนี้ทั้งเกมครับ
ตัวเกมจะไม่เป็นเส้นตรงและเปิดโอกาสให้คุณได้ออกสำรวจฉากในแต่ละพื้นที่ ซึ่งก็จะมีจุดน่าสนใจ มีไซด์เควสต์ มีปริศนาให้แก้เพื่อรับไอเท็มหรือเงินไว้ใช้ หรือแม้แต่หาหนังสือสกิลมาใช้ ซึ่งในแต่ละพื้นที่หลักของเกมนั้นก็จะมีขนาดใหญ่เอาเรื่องครับ ถ้าคุณเป็นเกมเมอร์สายเก็บความสมบูรณ์ล่ะก็จะมีอะไรให้ทำเพลิน ๆ ยาว ๆ เลย
แม้ว่าเกมนี้จะเป็น FPS ก็จริง แต่เวลาต่อสู้นั้นส่วนใหญ่จะเน้นการลอบเร้นซะเยอะเพราะว่าจำนวนกระสุนที่มีให้เก็บในเกมนั้นมีน้อยมากครับ แม้ว่าจะอัปสกิลแล้วก็ตามแต่ก็ไม่พอที่จะยิงถล่มทั้งกองทัพได้อยู่ดี มิหนำซ้ำถ้าไม่ใช่อาวุธหรือของติดตัวล่ะก็เราไม่สามารถพกพาไปไหนมาไหนได้ถาวร เมื่อไรก็ตามที่คุณปีนบันได โหนแส้ ฯลฯ ล่ะก็อินดี้จะทำการทิ้งของที่ถือไปในทันที
ดังนั้นรูปแบบการเล่นตลอดทั้งเกม ก็จะเป็นแนวว่าย่องตอดแล้วคว้าเอาไม้ เอากระทะ เอาพลั่ว หรืออะไร ๆ ที่วางอยู่ทั่วฉากมาหัวทหารศัตรูให้สลบเป็นคราว ๆ ไป และเมื่อใดที่โดนเจอตัวก็มักจบที่การใช้กำปั้นลุ่น ๆ ตะบันหน้ากันเหมือนในภาพยนตร์ครับ ถามว่าแล้วมันมีโมเมนต์ยิงปะทะกันไหม มีครับ พวกทหารศัตรูในช่วงหลัง ๆ นี่มันจะเน้นสอยเราจากระยะไกลเป็นหลัก ซึ่งก็อย่างที่ผมบอกไปว่ากระสุนมันน้อยและปืนที่เรามีติดตัวก็แค่ลูกโม่แบบในภาพยนตร์ พอเกิดเหตุยิงปะทะกันนี่เราจะค่อนข้างเสียเปรียบ และแทนที่จะปักหลักสู้นี่ถอยไปรอให้เหตุการณ์สงบจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า
องค์ประกอบหนึ่งของเกมที่มาเสริมการลอบเร้นก็คือการเก็บชุดปลอมตัวนี่ล่ะครับ ซึ่งชุดในแต่ละพื้นที่ก็จะต่างกันไป ถ้าคุณตระเวนสำรวจจนเจอชุดทหารนี่ก็จะทำให้คุณเข้าพื้นที่หวงห้ามได้ค่อนข้างสบายไร้กังวล (ถ้าไม่เจอพวกระดับสูงที่มันมองออกน่ะนะ) มันเลยค่อนข้างแบ่งเบาภาระคนเล่นได้เยอะอยู่ที่ไม่ต้องให้อินดี้ย่อตัวจนปวดหลังตลอดเวลา
อย่างที่ผมบอกไปก่อนหน้านี้ว่าเกมนี้มีระบบเงินให้คุณใช้ซื้อของ ซึ่งเงินในเกมนี้คุณจะหาได้จากการสำรวจครับ ตามตู้โต๊ะชั้นวางของ ในกล่องเก็บของ หรือบางทีก็ได้จากการไขปริศนาตู้เซฟ และของส่วนใหญ่ที่จำเป็นต้องซื้อก็เป็นพวกหนังสือสกิล หรือไม่ก็เป็นพวกแผนที่บอกจุดน่าสนใจนั่นล่ะครับ คือถ้าให้พูดง่าย ๆ มันเหมือนเวลาคุณเล่นเกมโอเพนเวิลด์แล้วไปปีนเสาเพื่อเปิดสัญลักษณ์บนแผนที่อะไรทำนองนั้น ซึ่งสิ่งที่ผมคิดว่าเกมนี้ออกแบบมาดีก็คือเงินที่คุณหาได้หรือมีให้ในแต่ละพื้นที่จะเกินกว่าของที่มีให้ซื้อแน่นอน คุณไม่ต้องกลัวว่าจะซื้อของได้ไม่ครบ เพราะเวลาพอคุณซื้อหมดเกมจะบอกเลยว่าพื้นที่นี้ไม่มีอะไรเหลือให้ซื้อแล้ว เงินที่มีเกินก็เอาไปกดหย่อนใส่ตู้บริจาคได้เลย เพราะเวลาคุณเปลี่ยนพื้นที่ใหม่ก็ใช้เงินคนละสกุลอยู่ดี
ปริศนาในเกมนี้ทำออกมาได้กำลังดีครับ ไม่ยากเกินและไม่ง่ายเกิน ต้องอาศัยการสังเกตมากหน่อย คำใบ้มักจะอยู่ในรูปแบบของเอกสารที่คุณหาอ่านได้ หรือบางทีก็ต้องอาศัยการสังเกตจากสภาพแวดล้อมรอบตัวเอา ซึ่งก็มีทั้งการเลื่อนหาตัวเลขตู้เซฟ การหาตำแหน่งใส่เฟืองที่ถูกต้องเพื่อให้กลไกทำงาน การเลื่อนสวิตช์ไปในตำแหน่งที่ถูกต้องอะไรแบบนั้น หากใครชอบบริหารสมองก็จะสนุกไปกับปริศนาในเกมนี้แน่นอนครับ
กราฟิก
ในด้านคุณภาพกราฟิกนั้นถือว่าทำออกมาได้สวยสมเป็นเกมยุคปัจจุบันครับ ดีเทลพื้นผิวของเสื้อผ้านี่ทำออกมาได้ดูดี และโมเดลตัวละครก็ปั้นออกมาดูเหมือนกับต้นแบบใบหน้ากันดีทุกคน จุดที่ผมชอบอย่างหนึ่งก็คือแสงเงาในเกมนี้ที่ทำออกมาสมจริงชนิดที่ว่าพอลงใต้ดินทีนี่มืดซะมองแทบไม่เห็นถ้าไม่จุดไฟ หรือพอดำน้ำทีนึงภาพก็จะมัวเหมือนเวลาเราลืมตาในน้ำครับ แต่อีกแง่นึงมันก็เลยแอบทำให้การสำรวจลำบากไม่เบาอยู่
งานเสียง
เพลงประกอบในเกมนี้คือเพลงในสไตล์อินเดียนา โจนส์แท้ ๆ แน่นอนว่าเพลงธีมประจำแฟรนไชส์นี่เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ แต่เพลงประกอบอื่น ๆ ก็จะให้ความรู้สึกได้ถึงการผจญภัยที่รอคอยคุณอยู่ตลอดทั้งเกม
ทั้งนี้ทั้งนั้น ตั้งแต่ต้นจนจบนี่ผมคิดว่าทีมงานนักพากย์นักแสดงแต่ละคนทำหน้าที่กันได้ดีมาก เสียงพากย์ของทรอย เบเคอร์ที่รับบทเป็นอินดี้นี่แอบคล้ายแฮริสัน ฟอร์ดไม่เบา แต่ตัวขโมยซีนจริง ๆ นี่ต้องยกให้แก่วอสส์ที่เป็นตัวร้ายประจำภาคนี้เลย บทพูด น้ำเสียงและการแสดงสีหน้าท่าทางนี่โดดเด่นมาก ออกมาแต่ละฉากนี่คือต้องมีอะไรเจ๋ง ๆ ฮา ๆ ให้ชมกันตลอด
สรุป
Indian Jones and the Great Circle คือผลงานที่ยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะมองในแง่ของการเป็นเกมหรือการเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวของอินเดียนา โจนส์ก็ตาม ในแง่การเล่นอาจมีข้อขลุกขลักเล็กน้อย แต่โดยรวมนี่คือผลงานเกมแอ็กชันผจญภัยที่เมื่อเล่นจบแล้วคุณจะร้องหาภาคต่อทันทีแน่นอนครับ