Reviews

Keeper – รีวิว [REVIEW]

by Reviewer Ocelot

Keeper – รีวิว [REVIEW]

Keeper – รีวิว [REVIEW]

การผจญภัยอันยิ่งใหญ่ แต่ไปไม่เกินจินตนาการ

* ขอขอบคุณโค้ด PS5 เพื่อการรีวิวจาก Xbox Game Studios มา ณ โอกาสนี้ครับ

ผมยังจำตอน Keeper เปิดตัวครั้งแรกได้ การรับบทเป็นประภาคาร 4 ขา และมีนกตัวนึงคอยเป็นผู้ช่วย ถึงจะไม่สามารถแย่งซีนเกมใหญ่ แต่มันฝังลงไปในความทรงจำตั้งแต่ครั้งแรกเลยว่ามันมีเกมคอนเสปนี้อยู่บนโลก ตอนนั้นผมคิดว่าถ้าได้มีโอกาสลองก็อยากจะลองเหมือนกัน

แล้วโอกาสนั้นก็มาถึง นี่เป็นเกมที่ใช้เวลาไม่นานมาก ประมาณ 4-5 ชั่วโมงก็จบ และต่อไปนี้คือสิ่งที่ผมรู้สึก

ถ้าจะให้พูดถึงความโดดเด่นที่ไม่แพ้ตัวเอกก็คืองานออกแบบโลกในเกม โลกของ Keeper ให้อารมณ์มหัศจรรรย์ ชวนฝัน แต่ก็ผสมผสานความเป็นโลกหลังล่มสลาย เราจะได้เจอกับอารยธรรมและประชากรที่แปลกประหลาด

และนี่เป็นเรื่องราวที่คุณต้องสัมผัสมันแบบไร้บทสนทนา ภาษาเดียวที่ใช้ในการเล่าเรื่องของเกมนี้ก็คือการใช้มุมกล้อง เกมนี้มีมุมกล้องแบบบังคับ คุณไม่สามารถหันซ้ายขวาขึ้นลงได้เอง ถ้าใครนึกภาพไม่ออกให้ลองนึกถึง God of War ยุคแรกที่อยู่กรีก การใช้มุมกล้องแบบนี้ทำให้ผู้เล่นขาดอิสระระดับหนึ่ง แต่ขณะเดียวกันผู้สร้างก็สามารถโชว์สิ่งที่อยากโชว์ได้เต็มที่

ใน Keeper คุณจะรู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ในแต่ละพื้นที่ที่คุณผจญภัย ห้วงเหวลึก ปราการธรรมชาติมหึมา ในแง่สุนทรียะมันทำให้เกมนี้เหมาะกับสายถ่ายรูป หลายมุมหลายฉากให้อารมณ์เหมือนภาพวาดเชิงเซอร์เรียล ขณะเดียวกัน ในแง่เนื้อเรื่อง การที่เราเห็นเจ้าประภาคารเป็นแค่ตัวจิ๋ว ๆ เดินในฉาก มันก็ให้เซนส์ว่าธรรมชาติที่เราได้เจอช่างใหญ่เกินตัว แต่เพราะแบบนั้นแหละ ยิ่งทำให้การกระทำของเรามันมีความหมายและท้าทาย บางครั้งก็ดูน่ารักและตลกดี ระหว่างทางเราก็สามารถใช้ไฟจากประภาคารเป็นลูกเล่นกับองค์ประกอบรอบตัว เช่น ทำให้ต้นไม้โตขึ้น เล่นกับสิ่งมีชีวิตหน้าตาประหลาด ๆ หรือบางครั้งการคลิกซ้ายก็ทำให้ซากรถรอบ ๆ เปิดไฟหน้าขึ้นมา มันไม่ได้ส่งผลในแง่เกมเพลย์เท่ากับสร้างบรรยากาศ

ถ้าจะมีอะไรให้ต้องติในเรื่องนี้ก็คือ ประภาคารสี่ขาเป็นตัวละครที่มีความงก ๆ เงิ่น ๆ บังคับยากอยู่แล้ว (ถ้าว่าตามเนื้อเรื่องมันก็ควรจะแบบนั้น) แต่การที่เรามีมุมกล้องแบบบังคับยิ่งทำให้อะไรมันดูทุลักทุเลขึ้นไปอีก ตรงไหนคือจุดเลี้ยว ตรงไหนคือจุดสิ้นสุด เกมยังเก็บขอบงานตรงนี้ไม่ค่อยเนี๊ยบ

แล้วการได้เล่นเป็นประภาคารเดินได้ในโลกเหนือจริงมันมีอะไรมากกว่านั้น? ถ้าจะให้นิยาม Keeper มันก็คือเกมเดินหน้าเสพบรรยากาศและเน้นการไขปริศนา ซึ่งปกติแล้ว ทรงเกมแนวนี้ที่ไม่ได้มีระบบต่อสู้ จุดขายมันก็คือปริศนาที่ต้องทำออกมาแล้วสะกดคนดู

โชคร้ายที่เกมนี้ไม่ได้มีงานออกแบบปริศนาน่าจดจำขนาดนั้น ส่วนใหญัมันก็คือการปล่อยให้เราคลำหาสิ่งที่ตอบสนองได้ในพื้นที่ จากนั้นก็ใช้ลำแสงหรือนกคู่หูช่วยทำงาน เป็นปริศนาแนวสะกิดสมองของคนเล่นอย่างเกรงอกเกรงใจ ขอแค่คุณเล่นเกมผจญภัยมาสักหน่อย คุณก็จะแกะได้ไม่นาน

พูดให้ชัดก็คือปริศนาเกมนี้ไม่ถึงกับแย่ จะให้บอกว่าดีก็ฝืนใจเกินไป แต่มันก็มีช่วงที่เหมือนเกมเริ่มจะจับทางของตัวเองได้ เริ่มหันหัวเรือถูก ปรากฏเกมว่าอีกแปปเดียวเกมก็จบเฉย

เพราะงั้นถ้าให้พูดถึงเกมเพลย์ ผมก็ไม่รู้จะพูดอะไรเยอะ เพราะมันแทบไม่มีอะไรให้หยิบมาพูด เกมอาศัยเมคะนิกแสง เมคะนิกนกคู่หู แล้วก็อยู่กับมันไปตลอดทั้งเกม แค่ใส่ลูกเล่นตามเขตต่าง ๆ ที่ไป เช่น การย้อนและเร่งเวลา การห่อตัวด้วยฟองชมพูแล้วทำให้ตัวเบา แต่อย่างที่บอกครับว่ามันออกแบบมาไม่ยาก อย่าไปคาดหวังว่าคุณจะเจอพัซเซิลที่มีชั้นเชิงมากมาย ทุกอย่างติดอยู่ในกรอบการเล่นแบบคุ้นเคย

จากทั้งหมดที่ว่ามา ในขณะที่คอนเสปงานออกแบบตัวละคร ทิศทางงานศิลป์มันทำท่าจะไปทางหัวขบถ แต่เมื่อเกมขึ้นเครดิตผมรู้สึกว่า Keeper ก็เล่าเรื่องที่เกมอินดี้หลาย ๆ เกมเล่ามานานแล้ว หรือเกม AAA ที่ว่ากันว่าติดกรอบบางเกมยังไปไกลกว่าด้วยซ้ำ มันเป็นเรื่องราวการต่อสู้กับอำนาจที่ทำให้โลกนี้ปั่นป่วน การปรับตัวเพื่อไปต่อ และถึงเกมนี้จะไม่มีบทพูด แต่บางจุดมันแทบจะตะโกนเมสเสจของการรักโลกออกมาดัง ๆ

Keeper เลยเหมือนพิพิธภัณฑ์งานศิลป์เซอร์เรียลที่บ้าน ให้คุณได้ชมงานจากจินตนาการแปลก ๆ (ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี) มีจุดนำเสนอแบบอินเตอร์แอกทีฟให้ได้เล่นนิดหน่อย แต่เพื่อความเป็นธรรม ส่วนสุดท้ายของเกมไปจนจบก็มีการโชว์ของออกมาให้เห็น มันเป็นเกมเพลย์และปริศนาตื่นตาตื่นใจที่มันควรจะถูกเอาออกมาให้ตั้งแต่ตอนแรกแล้ว ผมรู้สึกว่าผมได้เล่นเกมนี้เต็มไม้เต็มมือก็ช่วงสุดท้ายนี้ล่ะ

ใครต้องการเกมชิล ๆ เล่นแล้วไม่ต้องคิดเยอะ ปล่อยอารมณ์ไปตามจินตนาการของงานออกแบบที่ทีมสร้างพรั่งพรูใส่ไปไม่ยั้ง Keeper น่าจะเป็นเกมที่ถูกจริตคุณ แต่ถ้าอยากได้อะไรมากกว่านั้น ก็ต้องบอกว่าแสงจากประภาคารนี้ไม่ทรงพลังพอจะส่องฝ่าม่านหมอกให้คุณพบกับประสบการณ์แปลกใหม่ในการเล่นได้

The Review

75% การผจญภัยอันยิ่งใหญ่ แต่ไปไม่เกินจินตนาการ

75%

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ข้ามไปยังทูลบาร์