รีวิว Sonic Colors: Ultimate
เม่นปากแจ๋ว เซฟกาแลกซี
*ขอขอบคุณ SEGA CORPORATION สำหรับโค้ดเพื่อการรีวิวครับ
**รีวิวนี้เล่นบน Steam โดยใช้ Dualsense
สำหรับจั่วหัวของรีวิวนี้ ต้องบอกว่าความจริงเวอร์ชันรีมาสเตอร์ของ Sonic Colors ที่ห้อยท้ายด้วยคำว่า Ultimate มันออกมาตั้งแต่ปี 2021 แล้วนะครับ และถ้าจะย้อนกลับไปที่ตัวเกมต้นฉบับจริง ๆ ก็คือ Sonic Colors ปี 2010 นู่นเลย แต่กว่าเม่นสายฟ้าจะแว๊นมาถึง Steam ก็เมื่อ 7 ก.พ. 2023 ที่ผ่านมานี้เอง
ฉะนั้น ไปดูกันดีกว่าครับว่าความรู้สึกสำหรับคนที่ไม่ใช่แฟน Sonic และไม่เคยเล่นภาคนี้มาก่อน จะมีอะไรให้พูดถึงเวอร์ชันนี้บ้าง
เรื่องราวของภาคนี้ก็ไม่มีอะไรมากครับ Sonic กับคู่วายคือ Tails ต้องผจญภัยช่วยเหลือเหล่าเอเลียนจากการคุกคามตามจับของ ดร. ไข่ คู่ปรับตลอดกาลของ Sonic เพื่อเอามาทำเป็นสวนสนุกอวกาศของตัวเอง จุดขายที่พอจะหาได้บ้างในแง่เนื้อเรื่องก็คงเป็นบทสนทนาของเม่นปากแจ๋วซึ่งให้ความบันเทิงแบบพอยิ้มมุมปากได้ แต่โดยภาพรวมมันก็คือเกมที่ Sonic ออกไปผจญภัยช่วยเหล่าเอเลียน แล้วอาศัยพลังพิเศษของแต่ละตัวมาเป็นกิมมิกประจำภาค เท่านั้นเลยครับ
ถ้าตั้งใจเล่นจริง ๆ Sonic Colors ไม่ใช่เกมที่ยาว คนที่ไม่เคยเล่นมาก่อนก็สามารถจบได้ในเวลา 3-4 ชั่วโมง เกมจะแบ่งดาวใหญ่ ๆ เป็น 6 ดาว แต่ละดาวก็จะมีด่านย่อย ๆ พร้อมบอสประจำดาวนั้น ซึ่งงานบอสไฟต์ของเกมนี้ทีแรกเหมือนจะดี แต่พอไปหลัง ๆ ต้องตัดคะแนน เพราะมีลักษณะการเอาบอสเดิมมาย้อมแมวขาย แค่เพิ่มท่าใหม่ ๆ เข้าไป
แต่แน่นอนว่า ถึงเกมมันจะสั้น การเล่น Sonic ก็มีขนบของมันที่สาวกหลายคนต้องอุทิศเวลาเพื่อเก็บวงแหวน วิ่งทำคะแนนสวย ๆ และจบฉากให้ดีที่สุด ซึ่งภาคนี้ก็ยังมีความท้าทายแบบนั้นอยู่ในทุกดาวที่ไป มันเลยมีคะแนนด้าน Replay Value ติดมาหน่อยสำหรับคนที่อยากเล่นแบบเพอร์เฟกต์
ด้วยความที่เกมนี้เป็นเกมมีอายุ เราก็จะเห็นร่องรอยแบบเกมในทศวรรษก่อน โดยเฉพาะงานกราฟิก ที่เรามองแล้วรู้เลยว่าหลุดมาจากยุคก่อนแน่ ๆ อย่างเรื่องแสงเงา แต่ส่วนที่ผมคิดว่าหยาบเลยก็คือพวกฉากคัทซีนที่รายละเอียดตัวละครสื่อถึงเอ็นจิ้นตกยุคอย่างเห็นได้ชัด
ความโชคดีคือ งานการกำกับการนำเสนอและมุมมองของเกมนี้ทำออกมาได้พอเข้าท่า ในขณะที่เราวิ่งและกระโดดไปตามฉากจะมีเทคนิคการเล่นมุมกล้องมากมาย ทั้งซูมเข้า ซูมออก ย้ายมุมมองไปข้างหน้า หรือ ข้างหลัง Sonic แล้วแต่สถานการณ์
ข้อดีของการกำกับภาพที่ว่าไปคือ เรารู้สึกเหมือนดูงานแอนิเมชันที่เล่นได้ไปในตัว ทั้งในฉากไล่กวดธรรมดา หรือในฉากสู้บอส เพราะงั้น ถึงจะเอามาเล่นในช่วงเวลานี้ การนำเสนอและเล่นมุมกล้องของ Sonic Colors: Ultimate ก็ยังพอถู ๆ ไถ ๆ แล้วมันช่วยกลบเรื่องกราฟิกแบบตกยุคไม่มากก็น้อย
ถ้าจะมีอะไรให้บ่น จุดเช็คพอยต์ของเกม ผมไม่รู้ว่ามันเป็นความตั้งใจของทีม หรือเป็นเทรนด์งานออกแบบในช่วงเวลานั้นที่กำหนดจุดเช็คพอยต์มาให้น้อย แล้วตัวเราก็เปราะมาก พวกบอสบางตัวช่วงหลังที่ต้องอาศัยการสู้แบบยาว ๆ ทำให้เราไม่สามารถเปิดช่องให้ความผิดพลาดได้เลย เพราะไม่ว่าคุณจะสู้นานแค่ไหน หรือไปไกลแค่ไหน พอตายแล้วก็เริ่มใหม่อยู่ดี ทำเหมือนเกมโซลส์ยังไงยังงั้น
ส่วนในแง่การออกแบบฉาก จุดติอย่างหนึ่งก็คืองานออกแบบที่ไม่สม่ำเสมอ บางฉากวิ่งวนแปปเดียวก็จบ บางฉากก็ยาวนานมาก พอไปผสมกับเรื่องปัญหาจุดเช็คพอยต์ที่ว่าไป คนที่ไม่ใช่สายแพลตฟอร์มผมว่าเตรียมวอร์มหัวไว้ได้เลย ร้อนยันรากผม
ในแง่การบังคับผมคิดว่ามีส่วนที่ต้องปรับปรุงเหมือนกัน ผมยอมรับว่าการหมุนตัวโจมตีศัตรูของ Sonic มันดูสะใจดีแล้วก็ใช้เป็นการเคลื่อนที่อย่างหนึ่งด้วย แต่พอเจอช่วงที่เราต้องกระโดดข้ามเหว เหมือนเกมจะรับคำสั่งตอนกดปุ่มไม่ทัน ทำให้ตกเหวบ่อย ยิ่งเป็นฉากสามมิติยิ่งไปกันใหญ่เพราะเราไม่รู้ว่าช่วงไหนที่เส้นทางมันขาด แล้วการควบคุมสปีดของโซนิกตอนกระโดดก็ไม่สมดุล มีกระโดดไกลไป กระโดดสั้นไป หาความพอดีในการกดค้างยาก นี่ขนาดเล่นบนคอนโทรลเลอร์ ถ้าใช้คีย์บอร์ดผมว่าจอดตั้งแต่ดาวแรก
สรุป
ผมไม่ใช่แฟนเม่นสายฟ้า แต่ยอมรับว่า Sonic Colors: Ultimate ก็มีองค์ประกอบบางอย่างที่จะพูดว่าทัดเทียมกับเกมเจนปัจจุบันก็ยังพอพูดได้ แต่ก็นั่นแหละครับ ต้องยอมรับสภาพกันก่อนว่านี่เป็นเกมจากทศวรรษก่อน ยังไงมันก็หลีกไม่ได้ที่คุณก็จะสัมผัสถึงความหลงยุคบางอย่างของเกม
การพอร์ทครั้งนี้ก็น่าตั้งคำถามหลายเรื่อง ทั้งเรื่องเวลาการโหลดเกมที่น่าจะทำให้สั้นกว่านี้ได้ ไปจนถึงกราฟิกเรื่องการเล่นแสงที่ดูรำคาญตาบ้างในหลายจุด ที่สำคัญเลยคือรายละเอียดตัวละครในคัทซีนคือหยักจนอยากเอายางลบมาถูจอ ถ้าใครซีเรียสเรื่องนี้มาก ๆ อาจกดข้ามกันเลยทีเดียว
ยิ่งพอมาเห็นราคาหน้าร้านใน Steam ที่แปะป้าย 1,190 บาท (ชุดธรรมดา) ผมว่าราคามันดีดไป สำหรับเกมอายุสิบปีที่เอามารีมาสเตอร์ และสามารถเคลียร์ได้ภายใน 3 – 4 ชั่วโมง ขอจบที่ว่า Sonic Colors: Ultimate เป็นเกมที่ถ้าคุณเป็นแฟน Sonic คุณก็อาจมีเวอร์ชันนี้ในแพลตฟอร์มอื่นอยู่แล้ว ส่วนคนหน้าใหม่ที่อยากลอง เกมสนุกพอใช้ได้ แต่ก็ไม่มากพอที่จะแนะนำว่าให้คุณไปซื้อราคาเต็มได้เลย
จุดเด่น
- เฟรมเรทลื่นไหลไม่สะดุด
- การกำกับและการใช้ลูกเล่นมุมกล้อง
จุดด้อย
- ความหยาบของกราฟิกโดยเฉพาะในช่วงคัทซีน
- งานออกแบบฉากที่ไม่มีความสม่ำเสมอ
- บอสไฟต์ที่ดูครีเอต แต่ก็ใช้ของซ้ำเยอะ
- ราคาถือว่าแรงสำหรับเกมรีมาสเตอร์อายุ 10 ปี +