ในเกม Dead Island 2 นั้น คุณจะได้เลือกเล่นเป็นตัวละครผู้รอดชีวิต 1 รายจากทั้งหมด 6 ราย ซึ่งแต่ละคนก็จะมีจุดเด่นและจุดด้อยต่างกันไป ในวันนี้เราจะมาอธิบายระบบพื้นฐานของเกมที่คุณควรรู้ เพื่อที่จะได้ปรับแต่งตัวละครได้อย่างที่ต้องการครับ
ค่าพลังพื้นฐานแต่ละชนิดของตัวละคร
ตัวละครทั้ง 6 ที่คุณจะได้เลือกตั้งแต่ต้นเกมก็คือเจค็อบ (Jacob), บรูโน (Bruno), ไรอัน (Ryan), เอมี (Amy), แดนี (Dani) และคาร์ลา (Carla) ซึ่งทุกคนจะมีค่าพลังที่แบ่งออกเป็น 7 ชนิด และก็แน่นอนว่ามากน้อยต่างกันไป ตรงจุดนี้เราจะมาอธิบายว่าแต่ละหัวข้อคืออะไรบ้างครับ
PEAK HEALTH นี่คือพลังชีวิตสูงสุดของตัวละคร ยิ่งเยอะพลังชีวิตก็สูงตาม
STAMINA คือค่าความอึด นี่จะเป็นค่าที่กำหนดว่าคุณจะโจมตีหนัก (ชาร์จโจมตี) หรือใช้ท่าพิเศษต่อเนื่องได้มากน้อยเพียงใด เพราะถ้าค่าความอึดลดหมด คุณก็ต้องหยุดโจมตีเพื่อพักหายใจครู่หนึ่ง ไม่เช่นนั้นเหวี่ยงอาวุธไปก็จะตีได้ไม่แรงเท่าปกติ
AGILITY ค่าความว่องไว ค่านี้จะกำหนดความเร็วในการเคลื่อนที่พื้นฐานของตัวละคร
TOUGHNESS ค่าพลังป้องกัน ค่านี้จะกำหนดว่าความเสียหายที่คุณได้รับจากการโดนโจมตีจะเป็นเท่าไร ยิ่งมีเยอะก็แปลว่าจะยิ่งได้รับความเสียหายน้อยลง
CRITICAL DAMAGE ค่านี้จะกำหนดว่าคุณจะโจมตีได้รุนแรงมากขึ้นเพียงใดหากว่าโจมตีแล้วติดคริติคอล
HEALTH RECOVERY เป็นค่าที่จะกำหนดความเร็วในการฟื้นฟูพลังชีวิตของคุณ ไม่ว่าจะเป็นการฟื้นฟูพลังชีวิตตามปกติหรือในตอนที่คับขันก็ตามที
RESILIENCE ค่านี้คือค่าความต้านทานต่อความเสียหายจากภาวะผิดปกตินั่นก็คือไฟ (Fire) สายฟ้า (Shock) และกัดกร่อน (Caustic) รวมถึงกำหนดความเร็วในการติดภาวะผิดปกติด้วย ยิ่งค่านี้สูงคุณก็จะรับความเสียหายน้อยลงและทำให้อัตราสะสมภาวะผิดปกติก่อตัวช้าลงเช่นกัน
ความสามารถติดตัวของแต่ละคน
นอกจากค่าพลังพื้นฐานดังกล่าวข้างต้นแล้ว แต่ละตัวละครจะยังมาพร้อมกับ INNATE ABILITIES หรือก็คือความสามารถติดตัวกันคนละสองอย่างด้วยเหมือนกัน ซึ่งแต่ละคนจะมีความสามารถเฉพาะตัวดังต่อไปนี้
เจค็อบ มีความสามารถ FERAL ซึ่งจะเพิ่มพลังโจมตีเล็กน้อยเมื่อโจมตีต่อเนื่อง (สามารถเกิดเอฟเฟกต์ซ้อนกันได้) และ CRITICAL GAINS ที่หากเจค็อบโจมตีติดคริติคอลในตอนที่ความอึดเหลือน้อยก็จะเพิ่มพลังโจมตีคริติคอลปานกลาง และฟื้นฟูความอึดด้วย
บรูโน มีความสามารถ BACKSTAB ที่จะเพิ่มพลังโจมตีปานกลางเมื่อโจมตีซอมบี้จากด้านหลัง และ RAPID REPRISAL ที่จะเพิ่มความว่องไวและความเร็วในการชาร์จโจมตีของบรูโนเมื่อตอนเลี่ยงการโจมตีโดยการบล็อกหรือไม่ก็หลบ
ไรอัน มีความสามารถ RETALIATION ที่จะเพิ่มพลังการโจมตีความมั่นคง (Force) ปานกลางเมื่อกดบล็อกหรือหลบการโจมตี และ SEESAW ที่ไรอันจะได้รับการฟื้นฟูพลังชีวิตในแต่ละครั้งที่โจมตีซอมบี้ล้มลงได้
เอมี มีความสามารถ RELIEF PITCHER ที่จะฟื้นฟูความอึดเมื่อโจมตีซอมบี้ด้วยอาวุธขว้าง และ DIVIDE AND CONQUER ที่จะเพิ่มพลังโจมตีเล็กน้อยเมื่อโจมตีซอมบี้ที่อยู่แยกเดี่ยวจากตัวอื่น
แดนี มีความสามารถ THUNDERSTRUCK ที่การชาร์จโจมตีหนักของเธอจะก่อให้เกิดระเบิด FORCE เมื่อโจมตี และ BLOODLUST ที่เธอจะได้รับการฟื้นฟูพลังชีวิตเมื่อทำการฆ่าซอมบี้หลายตัวต่อเนื่องกัน
คาร์ลา มีความสามารถ MOSH PIT ที่จะเพิ่มพลังโจมตีเล็กน้อยเมื่ออยู่ใกล้ซอมบี้หลายตัว และ DIG DEEP ที่จะเพิ่มค่าพลังป้องกันปานกลางในตอนที่พลังชีวิตเหลือน้อยจนคับขัน
ประเภทของอาวุธประชิด
สำหรับเกมนี้ มีอาวุธระยะประชิดให้ใช้งานมากมาย ไม่ว่าจะมีด, ดาบ, ขวาน, ค้อน ฯลฯ ให้เลือกใช้ตามความชอบใจ แต่ว่าอาวุธแต่ละชิ้นก็จะถูกกำกับเอาไว้เช่นกันว่าชิ้นนั้นเป็นประเภทไหน ซึ่งในเกมนี้จะแบ่งประเภทอาวุธออกเป็น 4 แบบด้วยกันนั่นคือ HEADHUNTER, BULLDOZER, MAIMING และ FRENZY ซึ่งจะมีประโยชน์ใช้สอยต่างกันไปดังต่อไปนี้
HEADHUNTER อาวุธประเภทนี้จะเหมาะสำหรับการโจมตีโดยเน้นไปที่หัวของซอมบี้ เพราะจะทำให้เกิดการโจมตีคริติคอลแบบแน่นอน และหากโจมตีหนักก็จะเป็นการเพิ่มความว่องไวเล็กน้อย ที่สำคัญคือความเคลื่อนไหวของคุณจะไม่ช้าลงในขณะที่ชาร์จโจมตี
BULLDOZER อาวุธชนิดนี้จะลดค่าความมั่นคง (STABILITY) ของซอมบี้ได้ง่าย หากคุณชาร์จโจมตีหนักก็จะมีผลให้ติดคริติคอลแน่นอน และเมื่อใช้อาวุธชนิดนี้แล้วบรรดาอาวุธปาทั้งหลายก็จะเกิดเอฟเฟกต์ระเบิดที่ลดค่าความมั่นคงของซอมบี้
MAIMING อาวุธประเภทนี้เมื่อคุณตัดแขนขา (หรือหัว) ของซอมบี้แล้วจะฟื้นฟูค่าความอึดของคุณเอง หากคุณเล็งโจมตีที่แขนและขาของซอมบี้ก็จะสร้างความเสียหายได้แบบคริติคอล
FRENZY อาวุธประเภทนี้เน้นที่การโจมตีต่อเนื่องหลายครั้ง เมื่อคุณโจมตีต่อเนื่องก็จะเกิดผลลัพธ์สร้างความเสียหายแบบคริติคอล และจะเพิ่มความเร็วในการโจมตีให้คุณเล็กน้อย
ค่าพลังแต่ละชนิดของอาวุธประชิด
อาวุธประชิดแต่ละชิ้นนั้นจะมีค่าพลังที่แสดงให้คุณเห็นหลากหลายอย่าง ซึ่งก็จะสามารถจำแนกได้ดังต่อไปนี้
POWER นี่คือค่าพลังโดยรวมของอาวุธเมื่อรวมม็อดและเพิร์กปรับแต่งต่าง ๆ แล้ว
DAMAGE คือความเสียหายที่จะเกิดขึ้นจากการโจมตีในแต่ละครั้ง
BASE DAMAGE TYPE คือค่าความเสียหายพื้นฐานโดยไม่มีม็อดปรับแต่งต่าง ๆ ซึ่งทั้งค่าความเสียหาย BLUNT และ SHARP นั้น จะเพิ่มโอกาสในการตัดชิ้นส่วนของซอมบี้
FORCE เป็นค่าที่แสดงให้เห็นว่าคุณจะลดค่าความมั่นคงของซอมบี้ได้มากเพียงใดในการโจมตีแต่ละครั้ง ซึ่งเมื่อคุณลดค่าความมั่นคงของซอมบี้จนหมดมันจะตกอยู่ในสภาวะไร้การป้องกัน (VULNERABLE ที่มันจะอยู่นิ่งให้คุณโจมตีฟรี ๆ)
SPEED เป็นค่าความเร็วในการโจมตีของอาวุธ
MAX DURABILITY คือค่าความทนทานของอาวุธ หากค่านี้หมดอาวุธก็จะพัง (ไปซ่อมได้ที่ Workbench)
CRITICAL MULTIPLIER คืออัตราคูณค่าความเสียหายเมื่อโจมตีแล้วติดคริติคอล
LIMB DAMAGE เป็นค่าความเสียหายของอาวุธเมื่อมุ่งโจมตีแขนและขาของซอมบี้ ยิ่งค่านี้สูงก็จะยิ่งมีโอกาสตัดชิ้นส่วนได้มากขึ้นเท่านั้น
ประเภทของอาวุธระยะไกล
อาวุธระยะไกล (ปืน) ในเกมนี้ก็ถูกแบ่งประเภทแบบเดียวกันกับอาวุธประชิด และมีทั้งหมด 4 ประเภทเหมือนกันนั่นคือ RAPID-FIRE, TACTICAL, SHARPSHOOTER และ DEMOLITION
RAPID-FIRE คือปืนที่เน้นการยิงรัวเป็นหลัก เพราะเมื่อคุณยิงต่อเนื่องแล้วก็จะเกิดผลลัพธ์เป็นการโจมตีคริติคอล และยังเพิ่มความแม่นยำขึ้นเล็กน้อยด้วยเช่นกัน
TACTICAL เป็นปืนที่เมื่อคุณทำการบล็อกการโจมตีหรือหลบการโจมตีแล้วก็จะทำให้เมื่อยิงแล้วสร้างความเสียหายได้แบบคริติคอล และยังเพิ่มความว่องไวรวมถึงความเร็วในการเติมกระสุนให้อีกด้วย
SHARPSHOOTER คือปืนที่เน้นความแม่นยำเป็นหลัก เมื่อคุณกดเล็งก็จะเพิ่มพลังโจมตี หากคุณเล็งที่หัวหรือแขนและขาของซอมบี้ก็จะสร้างความเสียหายได้แบบคริติคอล
DEMOLITION เป็นปืนที่จะสร้างความเสียหายแบบคริติคอลโดยอัตโนมัติเมื่อโจมตีซอมบี้ที่อยู่ในสภาพไร้การป้องกัน และเมื่อเติมกระสุนจะเพิ่มค่าพลังป้องกันของคุณ
ค่าพลังแต่ละชนิดของอาวุธระยะไกล
อาวุธระยะไกลในเกมนี้ก็มีค่าพลังแยกย่อยในลักษณะเดียวกับอาวุธระยะประชิดเช่นกัน
POWER นี่คือค่าพลังโดยรวมของอาวุธเมื่อรวมม็อดและเพิร์กปรับแต่งต่าง ๆ แล้ว
DAMAGE คือความเสียหายที่จะเกิดขึ้นจากการโจมตีในแต่ละครั้ง
BASE DAMAGE TYPE คือค่าความเสียหายพื้นฐานโดยไม่มีม็อดปรับแต่งต่าง ๆ ซึ่งอาวุธระยะไกลจะสร้างความเสียหายแบบ PROJECTILE ที่จะสามารถตัดชิ้นส่วนของซอมบี้ได้
FORCE เป็นค่าที่แสดงให้เห็นว่าคุณจะลดค่าความมั่นคงของซอมบี้ได้มากเพียงใดในการโจมตีแต่ละครั้ง
FIRE RATE คืออัตราความเร็วในการยิงของอาวุธ
ACCURACY คือค่าความแม่นยำ ค่านี้จะบอกว่ากระสุนที่คุณยิงไปตอนเล็งนั้นจะใกล้กับศูนย์เล็งมากน้อยเพียงใด ยิ่งค่านี้สูงอาวุธก็ยิ่งแม่นยำ
MAGAZINE SIZE คือความจุกระสุน ค่านี้จะกำหนดว่าคุณจะยิงได้กี่นัดก่อนที่จะต้องเติมกระสุนใหม่
RANGE ค่านี้จะเป็นตัวกำหนดระยะว่ากระสุนจะเดินทางไปไกลแค่ไหน ยิ่งค่านี้สูงกระสุนก็ยิ่งไปไกล
CRITICAL MULTIPLIER คืออัตราคูณค่าความเสียหายเมื่อโจมตีแล้วติดคริติคอล
MODs และ PERKs ของอาวุธ
ระบบการปรับแต่งอาวุธในเกมนี้จะให้ผู้เล่นได้ติดตั้ง MODs และรวมถึง PERKs ต่าง ๆ ให้กับอาวุธซึ่งก็จะส่งผลแตกต่างกันไป โดยที่ MODs นั้น นอกเหนือจากการเปลี่ยนรูปลักษณ์แล้วยังเป็นการเพิ่มเอฟเฟกต์พิเศษให้กับอาวุธด้วย เช่น เมื่อตีแล้วจะเกิดสถานะติดไฟ หรือเกิดสถานะไฟฟ้าช็อต เป็นต้น หากคุณเลือกใช้ถูกประเภทก็จะสร้างความได้เปรียบอย่างมาก ซึ่งเอฟเฟกต์อาวุธเหล่านี้จะส่งผลต่อสภาพแวดล้อมเหมือนกัน ดังนั้นถ้าคุณเหวี่ยงอาวุธติดไฟในบริเวณที่พื้นมีน้ำมันเจิ่งนอง ก็อาจถึงคราวซวยได้เองแบบไม่รู้ตัว
ส่วน PERKs ของอาวุธจะเป็นการปรับแต่งค่าพลังหรือเอฟเฟกต์แบบแพสซีฟต่าง ๆ เช่นทำให้โจมตีแรงขึ้น, เติมกระสุนเร็วขึ้น หรือฆ่าซอมบี้แล้วฟื้นฟูพลังชีวิต ฯลฯ ที่คุณสามารถเลือกใส่ได้เองตามสะดวกและตามสไตล์การเล่นที่ชื่นชอบ
ทั้งนี้ระดับความหายากของอาวุธก็จะเป็นตัวกำหนดว่าคุณจะติดตั้ง PERKs ได้มากน้อยเพียงใด ซึ่งก็จะไล่ระดับไปตั้งแต่ Common, Uncommon, Rare, Superior และ Legendary ซึ่งในหลายครั้งอาวุธเหล่านี้จะมาพร้อมกับ PERK ที่ติดตั้งถาวรเอาไว้แล้ว ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ อย่างไรก็ตามสำหรับอาวุธ Legendary นั้นจะมี PERK พิเศษถาวรของมันเองที่ไม่สามารถหาที่ไหนได้ ซึ่งก็ล้วนแล้วแต่เป็น PERK ชั้นดีทั้งนั้นครับ
ระบบสกิล
สำหรับระบบสกิลในเกมนี้จะอาศัยการติดตั้งการ์ดให้กับตัวละคร โดยการ์ดเหล่านี้จะทำหน้าที่ในการปรับแต่งความสามารถของตัวละครที่เราเล่นให้มีเอกลักษณ์ในแบบที่คุณต้องการ คุณอาจเลือกท่าพิเศษเป็นการตะโกนเพื่อให้ซอมบี้ชะงัก หรือเลือกเปลี่ยนเป็นท่าทุบพื้นเพื่อทำให้ซอมบี้โดยรอบเสียหลัก ทุกอย่างก็แล้วแต่คุณว่าจะปั้นตัวละครออกมาให้เป็นแบบไหน
หากคุณอยากเล่นเป็นสายแทงก์ถึกอึด ก็อาจเน้นติดตั้งการ์ดที่เสริมการตั้งรับ เช่น เมื่อการ์ดถูกจังหวะแล้วจะทำให้เกิดเป็นระเบิดรอบตัวจนซอมบี้ชะงัก และยังฟื้นฟูพลังชีวิตได้อีก ฯลฯ แต่ทั้งนี้ เราก็แนะนำว่าควรจะติดตั้งสกิลที่สอดคล้องกับคุณสมบัติเริ่มต้นของตัวละครก็จะช่วยให้คุณพอจะเห็นภาพรวมว่าควรเน้นที่สายไหน หรือเล่นอย่างไรครับ แต่เอาเข้าจริงก็ไม่มีกฎห้ามนะว่าตัวไหนไม่ควรเล่นแบบไหน เพราะสุดท้ายก็อยู่ที่คุณว่าอยากจะปั้นตัวละครออกมายังไงครับ
ก็หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ทุกคนเล่น Dead Island 2 ได้อย่างสนุกสนานมากขึ้นกว่าเดิมนะครับ พร้อมแล้วก็ไปไล่หวดฝูงซอมบี้กระหายเลือดในแอล.เอ.กันเลย! และถ้าใครยังไม่ได้อ่านรีวิวเกม Dead Island 2 จากเรา สามารถอ่านได้เลยที่นี่