*ขอขอบคุณ Sony Interactive Entertainment Singapore สำหรับโค้ดรีวิวมา ณ โอกาสนี้ครับ
**รีวิวนี้เล่นบน PlayStation 5 และต้องมี PlayStation VR2
ผมคิดว่าแพลตฟอร์ม VR นั้นเป็นอะไรที่น่าสนใจและมี potential มากในตัวเองครับ เพียงแต่ว่าด้วยลักษณะของตัวอุปกรณ์เอง รวมถึงราคามันก็อาจทำให้เป็นสิ่งที่หลายคนอาจจะจับต้องได้ยากสักหน่อย เพราะสำหรับ PSVR2 นั้นก็เช่นเดียวกับตัวอุปกรณ์รุ่นก่อนหน้า ที่คุณไม่สามารถใช้งานเดี่ยว ๆ ได้แต่จะต้องใช้มันในฐานะอุปกรณ์เสริมของ PlayStation 5 อยู่ดี
ทีนี้ ด้วยความที่ตัวอุปกรณ์ทุกยี่ห้อจะออกแบบมาเป็นเฮดเซ็ตที่คุณจะต้องสวมหัวเอาไว้ตลอดเวลา หลายเกมที่พัฒนาเพื่อเล่นแบบ VR ก็เลยมักจะมีสไตล์ในแบบของเกมยิงมุมมองบุคคลที่หนึ่งไปกว่า 90% ในท้องตลาด (แน่นอนว่าตัวเลขนี้ผมเดาเอาโดยไม่มีการค้นข้อมูลแต่อย่างใด) ซึ่งสำหรับ Firewall Ultra นี้ก็พัฒนาขึ้นมาเพื่อเป็นเกมยิง FPS อย่างที่กล่าวไปนั่นล่ะครับ
ต้องบอกก่อนว่าผมเคยเล่นเกม VR มาบ้างพอสมควร และคิดว่าที่ผ่านมาก็ได้เล่นเกมที่เข้าท่าเข้าทางและยอดเยี่ยมมาระดับหนึ่งเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็น Astrobot Recue Mission เอย Blood & Truth เอย หรือเกมอย่าง Horizon Call of the Mountain ก็เช่นเดียวกัน แต่ละเกมที่ว่ามาก็มีข้อดีแตกต่างกันไป และที่สำคัญคือใช้ประโยชน์จาก VR ได้ดีมาก
เกริ่นมาสามย่อหน้าแบบนี้ แล้วผมคิดยังไงกับ Firewall Ultra ล่ะ?
ถ้าจะให้อธิบายเกี่ยวกับ Firewall Ultra ล่ะก็ นี่คือเกม Tactical FPS ที่เน้นการเล่นเป็นทีมครับ คุณจะได้เล่นและบังคับตัวละครเราในลักษณะเหมือนเกม FPS ทั่วไปเลย คือต้องเดินเอง วิ่งเอง กดย่อหลบอะไรแบบนั้น จะต่างกับ Blood & Truth ที่ดีไซน์เกมออกมาในลักษณะเป็น Corridor Shooter เหมือนกึ่ง ๆ ดูภาพยนตร์ ซึ่งรูปแบบการเล่นของ Firewall Ultra จะไม่ใช่แค่ว่าเปลี่ยนปืน เติมกระสุนแล้วยิงถล่มทุกอย่างที่ขวางหน้า แต่ว่าคุณจะต้องเคลียร์เป้าหมายและทำภารกิจในแต่ละฉากด้วย ต้องรู้จักใช้อุปกรณ์ ต้องสื่อสารกับทีม ทุกคนต้อง “รู้งาน” ภารกิจของคุณจึงจะสำเร็จได้
ด้วยเหตุนี้ ตัวเกมก็เลยแบ่งหลัก ๆ ออกเป็นโหมดแข่งขันกับผู้เล่นอื่นในสไตล์ PVP แบบ 4 ปะทะ 4 หรือไม่ก็ PVE ที่เล่น 4 คนเพื่อเคลียร์เป้าหมายและจะต้องสู้กับศัตรูที่เป็น AI ในฉาก โดยตัวละครที่คุณเลือกมาจะมีจุดเด่นและความถนัดต่างกันไป ส่วนโหลดเอาต์ต่าง ๆ จะเลือกอะไรมาก็สุดแท้แต่และคุณสามารถใช้พวกเงินหลังเคลียร์แต่ละตามาซื้อของปรับแต่งหรืออาวุธใหม่ ๆ ได้ตามสะดวก
ถึงอย่างนั้น อ่านมาถึงจุดนี้แล้วผมคิดว่าหลายคนน่าจะมองเห็นปัญหาของเกมนี้แล้วนั่นคือเกมออกแบบมาเพื่อเป็นเกมออนไลน์แข่งขันเป็นหลักเลยครับ ถ้าจะให้เทียบเคียงก็คงคล้าย ๆ การเล่น Rainbow Six Siege ที่เป็น VR นั่นล่ะ เพียงแค่ว่าตัวละครที่มีให้เล่นจะน้อยกว่า
แล้วที่สำคัญคือ…การหาคนเล่นด้วยนั้นจะลำบากยากเข็ญมาก เพราะการที่จะพอ “เล่นได้” สำหรับ Firewall Ultra นั้น คุณต้องมีกลุ่มเพื่อนที่เล่นด้วยกันบน PlayStation 5 ทั้งหมดสี่คน และสี่คนนี้ทุกคนจะต้องซื้อ PlayStation VR2 เท่านั้นไม่พอทุกคนต้องซื้อเกม Firewall Ultra มาเล่นด้วยกันอีก ส่วนจะหาห้องเจอหรือเล่นกับคนอื่นในตอนที่พร้อมเล่นกันได้รึเปล่าก็เป็นอีกเรื่องนึงนะ
หากจะมีโหมดที่พอจะเล่นคนเดียวได้ก็คือโหมด PVE ครับ แต่จากการทู่ซี้เล่นคนเดียวไป ผมคิดว่ายังไงมันก็ไม่เวิร์กเพราะคุณจะไม่มีคนไว้คอยสนับสนุน และการต้องวิ่งทำอะไรทั้งหมดคนเดียวแบบงง ๆ โดยที่ไม่รู้ว่าศัตรูหลบซ่อนตรงไหนบ้างนั้นเป็นอะไรที่ไม่สนุกอย่างแรง เพราะคุณจะไม่มีใครคอยดูกล้องให้ ไม่มีใครช่วยระวังหลัง มิหนำซ้ำพอเล่นคนเดียวนี่ถ้าพลาดปุ๊บจบตาทันทีไม่มีรีสปอว์น เพราะไม่มีใครวิ่งมาชุบให้
สรุปสำหรับ Firewall Ultra ในครั้งนี้ ผมไม่รู้จะให้คะแนนยังไง เพราะโอกาสที่จะเล่นได้แบบที่เกมออกแบบมาให้เล่นนั้นยากมาก ถ้าคุณไม่มีกลุ่มเพื่อนที่มี PSVR2 กันครบสี่คนล่ะก็ ผมแนะนำว่าให้ลองมองหาเกม VR อื่น ๆ มาเล่นน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าครับ