พรีวิว Stellar Blade (เดโม)
สารภาพครับว่า Stellar Blade เป็นหนึ่งในเกมเอ็กซ์คลูซีฟของ Sony ที่ผมไม่ค่อยได้ติดตามเท่าไร รู้แค่ว่ามันน่าจะเป็นรสชาติใหม่ แต่ในอีกแง่มุมมันก็น่าสนใจมาก เพราะว่านี่เป็นเกมจากฝีมือของ Shift Up Corporation สตูดิโอเกาหลีใต้ ซึ่งช่วงหลังเกมจากเกาหลีใต้ก็พิสูจน์ตัวเองมาระดับนึงแล้วว่าเขาพร้อมที่จะมายืนแถวหน้าของวงการเกมได้ ไม่ว่าจะทั้งเกมอินดี้อย่าง Dave The Diver หรือเกมใหญ่อย่าง Lies of P ซึ่งก็ประสบความสำเร็จทั้งสองเกม
Stellar Blade เลยเป็นอะไรที่ไม่ควรมองข้ามครับ แล้วเป็นอีกเกมที่รองรับภาษาไทยอีกแล้วนะครับ มารัว ๆ เลยจริง ๆ ถัดจากโรนิน ก็เป็นเกมนี้เลย
แล้วนี่ก็คือความรู้สึกของผมหลังจากได้ลองเดโมช่วงแรกของ Stellar Blade
ก่อนอื่นเลย คิดว่าหลายคนน่าจะอยากรู้ว่าไอ้ Stellar Blade เนี่ย เรื่องราวมันเป็นมาเป็นไปยังไง ทำไมต้องมีสาวน้อยมากวัดแกว่งดาบสู้กับสัตว์ประหลาด เรื่องย่อมันจะประมาณนี้ครับ ในอนาคตหลายสิบปีข้างหน้ามนุษยชาติได้พ่ายแพ้ให้กับสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าเนติบา แล้วต้องอพยพพากันไปอาศัยบนโคโลนีในอวกาศ จนถึงเวลาหนึ่งมนุษย์ก็พยายามจะทวงคืนบ้านตัวเอง ด้วยการส่งหน่วยพลร่มที่ได้รับการฝึกฝนลงไปกวาดล้างพวกมัน เราจะได้รับบทเป็นอีฟ หนึ่งในหน่วยทหารพลร่มที่รอดชีวิตและต้องออกผจญภัยบนโลกที่ตอนนี้มันไม่ใช่บ้านของมนุษย์อีกต่อไปแล้ว
ผมจะขอเริ่มจากส่วนที่ชอบ แล้วก็ส่วนที่รู้สึกว่า ฮื้มม มันแปลก ๆ นิดนึง จากนั้นก็ปิดท้ายด้วยจุดสังเกต
ส่วนที่ชอบ
ส่วนแรกที่ผมชอบก็คืองานภาพของเกมนี้ครับ มันค่อนข้างสวยแบบเตะตาแตกเลย ดีเทลของตัวยานค่อนข้างละเอียด เฟรมเรตระดับลื่น ๆ ประมาณ 60 FPS ถึงบางช่วงจะเห็นความไม่เนียนของวัตถุในเกมบ้าง แล้วก็งานดีไซน์ของสัตว์ประหลาดในเกมนี้ค่อนข้างมีเอกลักษณ์ของตัวเอง บางครั้งเหมือนกำลังต่อสู้กับแมลงสาปกลายพันธุ์
มาดูในแง่เกมเพลย์นะครับ ก็อย่างที่หลายคนน่าจะเห็นจากตัวอย่างเกมแล้วว่านี่เป็นแอ็กชัน แอดเวนเจอร์ เน้นระบบต่อสู้ แต่ว่าข่าวร้าย (หรือ ข่าวดีสำหรับใครหลาย) คนก็คือ ใครที่คิดว่า เกมนี้น่าจะเป็นเกม Hack & Slash มัน ๆ เดินฟันไปได้เรื่อย ๆ จะบอกว่าถ้าคุณเลือกเล่นความยากปกติเจอกีกี้ช่วงแรกแม่งแทบจะดับฝัน มันเป็นเกมค่อนไปทางยาก (ย้ำว่าในโหมดปกติ) แล้วได้กลิ่นเกมตระกูลโซลส์อีกแล้วนะจ๊ะ ศัตรูตีแรง จังหวะการเติมพลังชีวิต การวางศัตรูแอบตรงหัวมุม มันมาแนวเดียวกับเกมโซลส์เลย แต่มันจะมีการปรุงความเป็น Bayonetta เข้าไปนิด ๆ Sekiro หน่อย ๆ
แต่เอางี้ มันไม่ใช่ยากบ้าบอขนาดนั้น แต่มันฟันมั่ว ๆ ไม่ได้แน่ ๆ เพราะเราต้องบริหารค่าชีลด์หรือโล่ของเรา การกดป้องกันจะทำให้ค่าชีลด์เราน้อยลงเรื่อย ๆ และถ้าหมดเมื่อไรการโจมตีศัตรูก็จะเริ่มเข้าเนื้อเราแล้ว ส่วนฝั่งศัตรูก็มีชีลด์ของมันเหมือนกัน โดยเฉพาะพวกบอสที่ต้องมีชีลด์ยาวกว่าเรามาก
วิธีที่จะล้มพวกมันให้เร็วที่สุดน่ะเหรอ ถูกต้อง มันคือ แพร์รี ยังไงล่ะ!
ตอนสู้กับศัตรูหลายตัวคุณจะเห็นแถบจุดเหลืองที่อยู่ใต้พลังชีวิตศัตรู นั่นคือค่าที่จะทำให้มันเสียหลัก ถ้าคุณสามารถแพร์รีได้ เกมนี้การแพร์รีก็ถือเป็นหัวใจสำคัญอีกอย่าง ถ้าคุณทำจุดสีเหลืองของศัตรูหมด มันก็จะเสียหลักแล้วเปิดช่องให้เราใช้ท่าโจมตีแบบรุนแรง คอนเสปมันก็เหมือนเกมโซลส์ทั่วไป ประเด็นก็คือไอ้จังหวะการแพร์รีในเกมนี้จังหวะมันอาศัยความเป๊ะค่อนข้างเยอะ ถ้าคุณคิดว่า Rise of the Ronin ยาก เกมนี้น่าจะพอ ๆ กันหรือแอบยากกว่านิดนึง
ที่สำคัญกว่านั้นคือ เวลาเรากดโจมตีเป็นคอมโบแล้วอยากจะเปลี่ยนไปเป็นแพร์รีหรือป้องกันกลางทาง เกมนี้ดูจะทำไม่ได้นะครับ เกมอื่นเรายังสามารถแคนเซิลท่าโจมตีแล้วเปลี่ยนไปกลิ้งได้ แต่ Stellar Blade มันเหมือนถ้าเรากดโจมตี 3 ครั้ง ก็ต้องตีให้ครบ 3 ครั้งก่อน มันถึงจะสามารถทำแอ็กชันอื่นได้ เป็นอะไรที่ค่อนข้างท้าทายอยู่
ถึงมันจะฟังดูยาก แต่ถ้าชินกับระบบมัน ผมคิดว่านี่เป็นเกมที่มีระบบต่อสู้โอเคเลย โดยเฉพาะจะมีสกิลที่ชื่อ บลิงก์ เป็นสกิลที่ผมว่าเจ๋งดี คือเราสามารถวาร์ปไปด้านหลังศัตรูที่กำลังจะโจมตีหนักใส่เราได้
อีกส่วนที่ผมชอบก็คือท่าโจมตีเหมือนปืนยิงระยะไกลของเรามันดูไม่ก๊อกแก๊ก มันยิงแล้วรู้สึกว่าบอสแม่งเจ็บ
ส่วนที่รู้สึกว่ามันแปลก ๆ นิดนึง
ส่วนตัวเลยผมรู้สึกว่าเพลงประกอบตอนต่อสู้มันดูไม่เข้ากันยังไงไม่รู้ คือมันเป็นเพลงแนวป๊อปที่มีเสียงผู้หญิงร้อง คลอไปตอนที่เราเอาดาบฟาดฟันศัตรู พูดตามตรงว่าผมรู้สึกจั๊กจี้นิดนึงกับการเลือกเพลงของเขา
แต่มันมีจุดนึงที่ผมรู้สึกว่าค่อนข้างน่าเป็นห่วงยิ่งกว่าคือระบบปีนป่าย ต้องบอกว่าตอนแรกผมคาดหวังว่าตัวละครอย่างอีฟ ดูแล้วเป็นตัวละครที่มีความคล่องตัวสูง การปีนป่ายน่าจะทำได้ง่าย แต่พอมาเล่นจริง ๆ ผมรู้สึกว่าการควบคุมมันค่อนข้างดูช้าและกะจังหวะยาก ถ้าให้เปรียบเทียบผมคิดนาธาน เดรก ยังปีนยังกระโดดได้คล่องกว่านี้
ไม่รู้เหมือนกันว่าพอเล่นเกมตัวเต็มมันจะมีสกิลหรืออุปกรณ์อะไรมาช่วยเราในเรื่องนี้รึเปล่า แต่ถ้าเกิดมันมาทรงนี้ทั้งเกม ผมว่าเสี่ยงจะโดนตัดคะแนนจุดนี้ได้
อีกส่วนหนึ่งคือเรื่องใบหน้าตัวละคร ผมสังเกตว่าฉากคัตซีนตอนแรกเขาดูพยายามเลี่ยงที่จะให้เห็นหน้าของพวกตัวประกอบ ไม่รู้เพราะปัญหาทางเทคนิคอะไรเหมือนกัน
สรุปจากการลองเล่นเดโม ผมรู้สึกว่า Stellar Blade จากคนที่ไม่ค่อยสนใจ ผมก็รู้สึกว่าเกมนี้มันมีอะไรน่าจับตามองน่ะ โดยเฉพาะระบบต่อสู้ที่ มันยากกำลังดี ต้องถ้าเรียนรู้จนชินแล้วผมว่าสนุกเลยแหละ ที่เหลือพวกเนื้อเรื่อง พวกการปีนป่าย พวกเพลงประกอบ ที่มันมีจุดขัดใจเล็ก ๆ อันนี้ก็ต้องไปรอดูเกมตัวเต็มแล้วกัน