Returnal – รีวิว [Review]
Housemarque น่าจะเป็นชื่อที่คุ้นหูสำหรับคนที่มาสายเกมชูตเตอร์เน้นธีมแบบโลกไซไฟอนาคต โดยเกมล่าสุดของพวกเขาก็คือ Matterfall บนเครื่อง PS4 ที่มีลักษณะแนวเดียวกับธีมที่ว่าไป ด้วยการสั่งสมบุญบารมีด้านนี้มาอย่างยาวนาน จึงน่าจะเป็นเหตุผลให้พวกเขาได้รับความไว้วางใจให้กำเนิดเกมเอ็กซ์คลูซีฟ PS5 ประจำปี 2021 คือ Returnal
การเกิดตายว่ายวนครั้งนี้จะได้รับดอกไม้หรือก้อนอิฐกันแน่ ต่อไปนี้คือความรู้สึกผมที่มีต่อ Returnal ครับ
*ขอขอบคุณโค้ดรีวิวจาก Sony Interactive Entertainment Singapore มา ณ โอกาสนี้ครับ
*รีวิวนี้มาจากการเล่นเกมนี้จบแบบมาตรฐาน คือมี End Credit ขึ้น
Selene, บ้านในศตวรรษที่ 20, เสียงเปียโน, และนักบินอวกาศ
ไม่ใช่เรื่องแปลกครับ ถ้าคุณและผมเองจะตัดสิน Returnal จากเปลือกนอกว่านี่น่าจะเป็นเกม roguelike ที่ถ่ายทอดเรื่องราวไซไฟแบบเข้มข้นจนไม่ต้องเติมช็อตเพิ่ม ซึ่งจะว่าใช่ก็ใช่ครับ เพราะเราจะได้สำรวจโลกที่เต็มไปด้วยอันตรายของเหล่าเอเลียน สิ่งมีชีวิตประจำดวงดาว Atropos และวิทยาการของพวกมัน แต่ยิ่งเรื่องราวดำเนินไปมากเท่าไร ผมกลับรู้สึกว่าการเดินทางของ Selene ไม่ใช่การเดินทางนอกอวกาศเพื่อขยายดินแดนสำรวจออกไปเรื่อย ๆ แต่เป็นการเดินทางกลับเข้าไปสู่บางสิ่งในตัวเธอ กลับไปสู่คำถามที่ Selene พยายามจะปฏิเสธตลอดว่า เธอผ่านอะไรมา?
Returnal ใช้การนำเสนอที่แหกขนบการเล่าเรื่องแบบธรรมดาที่มีต้น กลาง ปลาย เกมสั่นสะเทือนความเคยชินการเสพเนื้อเรื่องของเรา ด้วยการให้เราออกผจญภัยใน “ระหว่างกลาง” ของเรื่องราว เรารู้แค่ว่าจุดที่ยานตกคือการเริ่มต้นของวงจรวิบัติพวกนี้ แต่โชคร้ายก็คือ ดูเหมือน Selene เองก็ตกอยู่ในสภาวะเดียวกับเรา เพราะเธอก็จำเหตุการณ์ต่าง ๆ แทบไม่ได้ นั่นทำให้เราต้องออกเดินทางไปบนดาว Atropos เพื่อเก็บบันทึกเสียงจากซากร่างของเราที่ตายไปในครั้งก่อน แล้วมาประกอบสร้างเรื่องราวว่าเกิดอะไรขึ้น โดยเป้าหมายสูงสุดที่ Selene คิดว่าจะทำให้เธอหลุดพ้นจากวงจรอันบ้าคลั่งนี้คือการตามหา “เงาสีขาว” และการปรากฎตัวของร่างนักบินอวกาศ
การตายแล้วเกิดใหม่ ก็จะทำให้เราได้เห็นคัตซีนหรือฉากใหม่ ๆ ดังนั้น การใส่ระบบนี้เข้ามาไม่ใช่แค่งานออกแบบเพื่อเกมเพลย์อย่างเดียว แต่มันคือส่วนหนึ่งของการเล่าเรื่องครับ และนอกจากการเล่าเรื่องผ่านลูปแล้ว บ้านศตวรรษที่ 20 ก็คือกุญแจสำคัญที่จะทำให้เราเข้าใจความเป็น Selene มากยิ่งขึ้น ทุกครั้งที่เราผ่านเหตุการณ์สำคัญ ๆ ในเกมเช่นการปราบบอส บ้านหลังนี้ก็จะเปิดให้เราเข้าไปสำรวจ และปลดล็อคห้องกับสิ่งของให้ดูมากขึ้นเรื่อย ๆ เกมเพลย์เมื่ออยู่ในบ้านจะให้ความรู้สึกเหมือนเราเล่นเดโม PT ครับ คือมันจะมีความหลอนปนสงสัยใคร่รู้
สิ่งที่ผมประทับใจในเนื้อเรื่องของ Returnal คือการสื่อความหมายผ่านสัญญะต่าง ๆ ตั้งแต่ชื่อดาวที่ Selene มาเยือนคือ Atropos ซึ่งก็มีที่มาจากชื่อของ 1 ใน 3 พี่น้องแห่งโชคชะตาจากเทวตำนานกรีก เป็นผู้ตัดด้ายชีวิตมนุษย์ให้ขาดจากโลก สื่อถึงการที่ Selene จากโลกของเธอมาแสนไกล รวมถึงของใช้ภายในบ้าน อย่างนาฬิกาที่เวลาหยุดเดินที่เลข 8 พ้องกับสัญลักษณ์อนันต์หรือไม่รู้จบ เสียงเปียโนที่ล่อเราไปเจอบอส ทุกอย่างคือสัญญะที่สามารถตีความถึงตัวตนของ Selene ได้ทั้งสิ้น
บรรยากาศภาพรวมในเกมจะดูอึดอัดครับ ซึ่งผมคิดว่าเป็นความตั้งใจของผู้พัฒนา เพราะตลอดเกมเราแทบจะได้ยินแค่เสียงของ Selene เพียงคนเดียว ที่พยายามหาคำตอบว่าเธอจะออกจากที่นี่ได้อย่างไร โดยลืมคำถามสำคัญคือ ดาวดวงนี้กักขังเธอ หรือเป็นตัวเธอกันแน่ที่ยินดีจะเข้ามาที่นี่แต่แรก?
การไต่เส้นที่ชื่อความท้าทาย
สิ่งแรกที่จะทำให้คุณเหวอก็คือป็อปอัปหน้าต่างเกมก่อนเข้าเล่น ซึ่งให้ข้อมูลว่า เกมนี้ถูกออกแบบมาเพื่อความท้าทาย การตายของตัวละครหมายถึงการกลับมาเริ่มจุดเดิม (จุดที่ยานตก) คุณจะสูญเสียค่าพลังอาวุธและไอเทมที่ไม่ใช่ไอเทมถาวรทั้งหมด แม้แต่การปิดเกมก็ไม่มีเว้น ระบบเซฟของ Returnal มีเพียงอย่างเดียวครับ คือการเปิดเครื่องทิ้งไว้ในโหมดพัก หากคุณไม่อยากกลับไปเริ่มใหม่ พูดได้ว่ามีสายเลือด roguelike อย่างแท้จริง
น่าเสียดายที่การไม่กลับไปเริ่มใหม่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ทำง่ายเลย หลังจากผ่านไปสัก 1 ชั่วโมง คุณจะรู้ซึ้งว่าทำไมเกมถึงได้ชื่อว่า Returnal การเวียนว่ายชั่วนิรันดร์กับศัตรูและความโหดที่ทำให้เราสิ้นหวังขึ้นทุกที ๆ ผมจะอธิบายให้ฟังครับว่าเรื่องมันเป็นยังไง
อย่างแรกก็คือความท้าทายจากฝั่งตัวละครเราครับ Selene จะเริ่มต้นลูปด้วยปืนพกกระบอกเดียว พลังชีวิต (ในเกมเรียกว่าค่า Integrity) โดยไม่มีไอเทมฟื้นเลือดติดตัวแม้แต่ชิ้นเดียว การฟื้นพลังชีวิตจะอาศัยการเก็บชิ้นส่วน Resin สีเขียวตามฉาก และสามารถซื้อได้ในจุดที่ให้ซื้อเท่านั้น แถมซื้อได้เพียงชิ้นเดียวต่อจุดซื้อด้วย นี่คือหนทางหลัก ๆ ที่คุณจะแบกชีวิตข้ามทัพศัตรูอันโหดร้ายไปได้ แต่ก็จะมีทางเลือกอื่นให้ด้วย เช่น การข้ามเขตไปยังพื้นที่ใหม่ (ในเกมจะแบ่งพื้นที่ต่าง ๆ เป็นไบโอม) ในช่วงเริ่มต้นไบโอมก็จะมีไอเทมกล่องพยาบาลให้คุณฟรี ๆ หนึ่งชิ้น
สำหรับปืนชนิดต่าง ๆ ก็จะมีเลเวลความเชี่ยวชาญของมันเอง ซึ่งได้จากการฆ่าศัตรู และเก็บไอเทมเพิ่มเลเวล (เต็มที่ที่เลเวล 30) ปืนที่เลเวลสูงก็หมายถึงความแรง ความเร็ว การบรรจุกระสุนที่ดีขึ้น นอกจากนี้ ปืนแต่ละชนิดจะมี Trait ที่แตกต่างกัน ประมาณ 3 Trait ในหนึ่งชิ้น เช่น ปืนพกที่มีความสามารถยิงทะลุ ยิงชิ่ง หรือยิงลำแสงติดตาม ยิ่งเลเวลของปืนสูง ก็จะยิ่งปลดล็อคความสามารถในการทำลายล้างได้มากขึ้น แต่ก็เช่นเดียวกับพลังชีวิตนั่นแหละครับ ถ้าคุณตาย คุณก็ต้องกลับมาเริ่มนับหนึ่งไหม ถ้าเข้า Act 2 ก็จะกลับมาเริ่มนับที่เลเวล 15 ใหม่ แต่ไอเทมเพิ่มเลเวลก็จะมีให้เก็บพร้อมกล่องพยาบาลในแต่ละไบโอมเหมือนกัน
การออกรันแต่ละครั้งจึงเป็นเดิมพันที่สูง และจะสูงขึ้นเรื่อย ๆ หากคุณเดินทางไปไกล ๆ โดยไม่ตาย คุณยิ่งต้องระวังตัว เพราะการพลาดแทบจะหมายถึงการนับหนึ่งใหม่ทั้งหมด
ความปรานีที่เกมพอจะมีให้ก็คือ เลเวลความเชี่ยวชาญอาวุธจะเป็นแบบครอบคลุมปืนทุกชนิด หมายความว่าถ้าเลเวลอาวุธของคุณคือ 10 ปืนที่ดรอปชิ้นต่อ ๆ ไปจะไม่มีทางเลเวลต่ำกว่านี้ และหากคุณต้องการเล่นแบบเซฟ ๆ เกมก็จะมีไอเทมหุ่นนักบินอวกาศที่ทำให้คุณคืนชีพได้หนึ่งครั้ง ซึ่งได้จากการหาตามฉากหรือการซื้อ (แน่นอนว่าแพง) รวมถึงแท่น Reconstuction ที่ทำหน้าที่คล้ายจุดเช็คพอยต์ ด้วยการจ่าย Ether (ค่าเงินอีกแบบในเกม หาเก็บได้ตามฉาก และช่วยแก้แค้นให้เพื่อนแบบออนไลน์) คือไม่มีอะไรง่ายเลยจริง ๆ
ความท้าทายอย่างที่สองก็คือศัตรูกับระยะทาง อย่างที่ผมได้เกริ่นไปแล้วในพรีวิวก่อนว่า เกมจะใช้วิธีการสุ่มสร้างฉากขึ้นมาใหม่ทุกครั้งที่เราตายหรือปิดเกม ซึ่งหลายคนก็คงจะตั้งธงในใจแล้วว่า การเดินทางในเกมนี้จะต้องซับซ้อน และน่าปวดหัว แถมยังไม่มีภาษาไทยอีก แต่ผมพูดให้สบายใจได้เลยว่า หน้าที่คุณคือเอาชีวิตรอดไปให้ถึงจุดนั้น ๆ แล้วก็ปราบบอส
ครับ เป้าหมายมันก็มีแค่นั้นจริง ๆ แต่ถ้าใครคิดว่าทางเดินระหว่างจุดเกิดกับห้องบอสในซีรีส์ Souls มันไกลแล้ว ขอแสดงความยินดีด้วยครับ เพราะ Returnal จะมาทำลายสถิตินั้นแน่นอน พอพูดแบบนี้ไม่ได้หมายความว่าเกมจะไม่มีทางลัดให้เลยนะครับ แต่มันจะมีให้ในจุดสำคัญ ๆ เท่านั้น หรือการปลดล็อคไอเทมเนื้อเรื่องบางชิ้น ที่ทำให้คุณเข้าถึงพื้นที่ต่าง ๆ ได้เร็วขึ้น แต่ถ้าคุณรู้สึกว่าดวงของตานั้นไม่อำนวยจริง ๆ เกมจะมีตัวเลือกให้คุณรีเซตลูปใหม่ได้ตลอดเวลา
ผมพอจะบอกได้ว่า Returnal ใช้เทคนิคเดียวกับเกมตระกูล Souls หรือ Nioh คือการไต่เส้นความยากนรกกับการให้รางวัล แต่ Returnal จะผาดโผนกว่านั้นครับ คือถ้าเกมถลำไปมากกว่านี้อีกนิดเดียว มันจะล้ำเส้นตรงนี้ไปเลย ความท้าทายของเกมหมิ่นเหม่อยู่ระหว่างยากแบบยั่วให้เล่นหรือยั่วให้เลิก พูดได้เต็มปากเลยครับว่านี่เป็นเกมที่กดดัน อึดอัด และคุณอาจจะต้องงัดทุกทักษะของประสบการณ์เล่นเกมของคุณขึ้นมาฟาดกับมัน แต่สิ่งที่จะเล่าต่อไปนี้จะพิสูจน์ว่า ถึงการผจญภัยใน Returnal จะเหมือนนรกของความไม่สิ้นสุด แต่มันก็เป็นนรกที่น่าตีตั๋วลงไปลองสักครั้ง
Haptic Feedback + Gunplay = นิพพาน
ในทีแรก ผมคิดว่า Demon’s Souls Remake จะเป็นเกม Showcase พลังเทคโนโลยีของ PS5 แต่การมาของ Returnal เป็นการบอกว่าทุกสิ่งที่ได้ลองไป มันแค่หนังตัวอย่างเท่านั้น คุณสามารถสัมผัสสิ่งนี้ได้ในฉากเปิดเกมที่มีฝนตกกระทบ คอนโทรลเลอร์คุณจะสั่นรัว ๆ เบา ๆ ให้เข้ากับบรรยากาศฝนตกกระทบพื้น บวกกับเสียงที่ส่งผ่านจอย
แต่ทันทีที่ Selene ได้เข้าสู่การต่อสู้ หลังจากนั้นคือความอลังการ การเหนี่ยวไกที่ให้ทั้งเสียงและน้ำหนักแตกต่างกันไปตามปืนนับสิบชนิด! ปืนกลให้อารมณ์กระชาก ดุดัน ส่วนปืนยิงลูกระเบิดก็ปล่อยพลังเสียงทำลายล้างผ่านออกมา ไม่เว้นแม้แต่เสียงบรรจุกระสุน
แน่นอนว่างานด้านเทคนิคเพียงอย่างเดียวก็ผลักเกมให้ไปไกลได้แค่ระดับหนึ่ง แต่ Gunplay ของเกมนี้ก็ร้ายกาจไม่แพ้กัน การยิงต่อสู้กับศัตรูจะช่วยเพิ่มค่าอะดรีนาลีนไต่ระดับไปเรื่อย ๆ ค่านี้จะช่วยทำให้เรามองเห็นสัญญาณศัตรูหลังสิ่งกีดขวาง เพิ่มพลังโจมตี เพิ่มค่าความชำนาญการใช้อาวุธ และอีกมากมาย แล้วยังมีระบบ Overload ก็คือเมื่อกระสุนเราหมด จะมีแถบขึ้นตรงกลางจอขณะบรรจุกระสุน หากคุณกดถูกจังหวะ Selene จะบรรจุกระสุนได้ทันที (ใครที่เล่น Nioh ลองนึกถึงอารมณ์การใช้ Ki ครับ อารมณ์เดียวกันเลย)
ระบบการควบคุมของเกมทำออกมาได้ครอบคลุม คล่องตัว สิ่งที่จะแบกชีวิตเราตลอดทั้งเกมคือการแดชสั้น แดชยาว เพราะการแดชในเกมนี้จะทำให้คุณเป็นอมตะชั่วขณะ คุณสามารถพุ่งผ่านกับดักต่าง ๆ อย่างม่านเลเซอร์ได้เลย การยิงจะมีทั้งการเล็ง หรือยิงแบบไม่เล็ง ซึ่งตลอดที่เล่นมาเกือบ 90% ผมคลุกคลีกับการยิงแบบหลังมากที่สุด เพราะกระสุนศัตรูที่มาจากทุกทิศทางมันไม่เอื้อการตั้งท่าเล็งเลย ยกเว้นคุณจะเล็งยิงศัตรูจากระยะที่ไกลมาก ๆ
เหนือสิ่งอื่นใด คือความหลากหลายของอาวุธปืนและ Trait ที่ติดมา ซึ่งขนาดใช้เวลาจนเลยกลางเกมก็ยังต้องร้องว่า “ยังมีใหม่อีกเหรอวะ” ทุกไบโอมคุณจะได้ปืนใหม่อย่างน้อยหนึ่งกระบอก และมันจะต้องมีสักกระบอกที่โดนใจคุณอย่างจัง ร่ายมาตั้งแต่ปืนพกธรรมดา ปืนกล ปืนยิงจรวด ปืนกระสุนติดตาม ปืนลูกซอง ปืนยิงพิษ ไปจนถึงปืนที่มีกลไกการทำงานแปลก ๆ แต่แรงได้ใจ อย่างปืนที่ยิงฉมวกไปยึดพื้นที่ ยึดตัวศัตรู แล้วส่งไฟฟ้าสีแดงทำความเสียหายอย่างต่อเนื่อง
ยังไม่รวม Trait ที่ติดปืนมาอีก เช่น ยิงเลื่อยพลังงาน และเปิดประตูมิติยิงบีมช่วยเราอีก ทั้งหมดที่ว่าไปเป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น อาจจะยังมีให้ปลดล็อคอีกก็ได้ ยังไม่ต้องพูดถึงดาบที่เราสามารถใช้ฟันศัตรูให้เสียหลักด้วย ไม่มีอะไรจะพูดสำหรับ Gunplay ครับนอกจากสุดยอดมาก สุดยอดจริง ๆ เป็นส่วนประสมที่ถึงเราจะรู้สึกขยาดกับรสเผ็ดจากความยาก แต่ก็จัดจ้านจนต้องเผลอพูดในใจตอนตายว่า “ขออีกรอบเถอะ” ซึ่งก็มักจะไม่ใช่รอบสุดท้าย
Replay Value อันเป็นนิรันดร์
การที่เกมใช้ระบบสุ่มสร้างฉากกับศัตรูเป็นส่วนหนึ่งของการทำให้เกมนั้น ๆ มี Replay Value สูงขึ้น แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมดที่จะทำออกมาแล้วได้ผล และดูเหมือนผู้สร้างจะรู้เรื่องนี้ดี พวกเขาเลยทำให้ Returnal มีคอนเสปที่เรียบง่าย มีเป้าหมายชัดเจน คือการฝ่าไปให้ถึงบอสแต่ละตัว แต่ยิ่งคุณดำดิ่งเข้าไปใน Atropos เท่าไร คุณจะพบว่าในความเรียบง่ายนั้นมันมีเลเยอร์ของความซับซ้อนของเกมเพลย์ให้ทำความเข้าใจสูงมาก จนต้องมานั่งปอกเปลือกกันแบบนี้ครับ
สิ่งที่คุณจะพบในฉากของเกมนอกจากศัตรู ปืน ไอเทมเพิ่มพลังชีวิตแล้ว มันยังมีหีบ เตียงเสริม stat เตียงฟื้นพลัง หรือไอเทมที่ปนเปื้อนด้วย (สีม่วง) ซึ่งตรงจุดนี้เจตนาของผู้สร้างค่อนข้างชัดเจนว่าพวกเขาต้องการให้ โชค เข้ามามีบทบาทในการต่อสู้ของเราอย่างมาก เพราะการเลือกจะไปยุ่งกับสิ่งที่ปนเปื้อนนั้นจะมีเงื่อนไขอยู่ เช่น หากคุณเก็บไอเทมสีม่วง มันจะมีเงื่อนไขว่า หากเก็บแล้วคุณมีโอกาสจะฟื้นพลังชีวิต หรืออาจจะเสียพลังชีวิตแทนก็ได้ ส่วนเตียงเสริม stat สีแดง ก็จะให้ค่าพลังบางอย่างกับคุณ แต่มันก็จะมีโอกาสทำให้ Selene บาดเจ็บด้วยเช่นกัน
Selene ยังสามารถเก็บไอเทมที่ช่วยให้ Selene ใช้ความสามารถต่าง ๆ ได้ เช่นการกางอาณาเขตโล่ การเรียกหนามขนาดยักษ์ขึ้นมาแทงศัตรูใกล้ตัว หรือการระเบิดพลังบีมสีแดงรอบตัวซึ่งจะช่วยพลิกสถานการณ์ได้จริง ๆ หากใช้ได้ถูกเวลา
เกมยังมีสิ่งที่เรียกว่า ปรสิต ซึ่งจะให้ทั้งคุณและโทษกับเรา ปรสิตจะมีเงื่อนไขการให้ประโยชน์ล้านแปด ตั้งแต่การเพิ่มพลังโจมตี การเร่งค่าความเชี่ยวชาญอาวุธให้เร็วขึ้น แต่มันจะมาพร้อมเงื่อนไขเสมอ ปรสิตบางตัวอาจทำให้คุณโจมตีศัตรูแรงขึ้นมาก แต่ก็จะทำให้คุณแดชได้ไม่รัวเท่าปกติ การรันในแต่ละรอบจึงให้ประสบการณ์ที่ไม่เหมือนกันเลย และอาจจะเป็นตัวเลือกที่ทำให้เกมเมอร์ไทยหลายคนต้องลำบากใจหน่อย เพราะตัวเกมไม่ได้รองรับภาษาไทย
นอกจากตัวเกมหลักแล้ว ผู้เล่นก็ยังสามารถเข้าไปประลองฝีมือใน Daily Challenges ผ่านคอมพิวเตอร์ในยานของ Selene ได้เหมือนกัน
Boss Fight
สำหรับผม Boss Fight เกมนี้ สอบผ่านและงานดีทุกตัวครับ เป็นเรื่องน่าแปลกมาก เพราะการโจมตีของพวกมันก็คือการเอาเอฟเฟกต์ลำแสง ลูกบอลพลังแบบเดิม ๆ มายิงใส่เรา แต่ผมรู้สึกว่าแต่ละตัวมีเอกลักษณ์ของมันชัดเจนมาก บางตัวบินจู่โจม บางตัวต้องยิงจุดอ่อนเท่านั้น แต่ละตัวจะมีแถบพลังชีวิต 3 หลอด ซึ่งก็คือ 3 เฟสที่ทวีความบ้าบอในพลังพวกมันจนบางทีก็รู้สึกว่าเอาชนะพวกมันมาได้ยังไง
สามารถชมตัวอย่างฉากสู้บอสได้ ที่นี่ ครับ
ข้อจำกัดด้านเทคนิค
ถึงกราฟิกของเกม Returnal จัดว่าอยู่ในคุณภาพสูง และมีเฟรมเรตที่ลื่นไหล แต่ในหลาย ๆ ฉาก โดยเฉพาะฉากท้าย ๆ ที่เรามีปืนเอฟเฟกต์เยอะ ๆ และศัตรู 4-5 ตัว สาดกระสุนแสงสีเสียงไปทั่วจอ เราจะเห็นอาการกระตุกแบบไม่ต้องจับสังเกตเลย และแอบเห็นฉากที่โหลด Texture ไม่ทันอยู่บ้าง แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ให้อภัยได้สำหรับเกมชูตเตอร์แบบฝ่าดงกระสุน และต้องมีการแดชพร้อมหมุนมุมกล้องตลอดเวลา การแสดงประสิทธิผลของภาพได้ในระดับนี้ก็ถือว่าน่าพอใจ
อย่างไรก็ตาม เกมมีบั๊กตัวหนึ่ง นั่นคือเวลาปิดและเปิดเกมมาใหม่ การรันครั้งแรกคุณอาจจะเจอกับปัญหาที่ไม่สามารถสำรวจเพื่อเก็บไอเทมหรือเปิดประตูได้ ซึ่งมักจะเกิดขึ้นเมื่อคุณผ่านคัตซีน ต้องมารอดูกันว่าแพทช์ในวันวางจำหน่ายวันแรกจะแก้ปัญหาส่วนนี้หรือไม่ ส่วนบั๊กร้ายแรงอื่น ๆ ก็ไม่พบอีกเลยตลอดเกมครับ
สรุป
Returnal คือความกล้าเสี่ยงของ Housemarque ที่จะไต่เส้นความท้าทายไปอีกขั้น ด้วยเกมแนว roguelike ที่ซ่อนชั้นความซับซ้อนของเกมเพลย์เอาไว้มากมาย เกมทรงพลังใน Replay Value สูงมาก แต่ก็หมิ่นเหม่อยู่ระหว่างความยากที่คนส่วนหนึ่งจะรู้สึกว่ามันยั่วให้เล่นต่อ แต่อีกหลายคนก็รู้สึกว่ามันยั่วให้เลิก ถึงแบบนั้น ด้วยพลังของ Haptic Feedback และงานออกแบบ Gunplay คือสิ่งที่ทำให้เราต้องมองคอนโทรลเลอร์ในมือใหม่ เพราะมันไม่ใช่แค่เครื่องมือที่เราสั่งการอย่างเดียวแล้ว แต่มันคือสิ่งที่สามารถถ่ายทอดประสบการณ์การเล่นได้ด้วย และ Returnal คือเกมที่พิสูจน์สิ่งนี้ได้จริง