Games News Reviews

Taiko no Tatsujin Rhythm Festival PS5 – รีวิว [REVIEW]

โดย G-jang

Taiko no Tatsujin Rhythm Festival PS5 – รีวิว [REVIEW]

*ขอขอบคุณโค้ดรีวิวจาก Bandai Namco Entertainment Asia มา ณ โอกาสนี้ครับ
**เนื้อหาบางส่วนของรีวิวนี้จะคล้ายกับเวอร์ชัน Nintendo Switch

Taiko no Tatsujin Rhythm Festival นี้ คือเกมเดียวกันกับที่วางจำหน่ายบน Nintendo Switch ไปในปี 2022 ครับ ซึ่งก็แน่นอนว่าตัวเกมยังคงเป็นเกมดนตรีที่ให้คุณระรัวกลองไทโกะไปตามจังหวะดนตรีมากมาย ซึ่งกว่า 90% จะเป็นเพลงที่คนชื่นชอบวัฒนธรรมญี่ปุ่นและอนิเมญี่ปุ่นจะต้องคุ้นหูครับ


เนื้อเรื่อง

เซ็ตติ้งของเกมเวอร์ชัน PlayStation 5 นี้ก็ไม่ได้ต่างอะไรกับเวอร์ชัน Nintendo Switch ครับ นั่นคือดง-จัง ได้เดินทางมายังเมืองโอมิโกะเพื่อฝึกฝนวิชากลองของตนเอง และที่นี่เขาก็ได้พบกับก้อนเมฆผู้น่ารักอย่างคุโมะ-คิวน์ แล้วทั้งสองก็เลยเป็นเพื่อนกันอย่างรวดเร็วและออกเดินทางฝึกฝนตนเองในเส้นทางแห่งกลองไทโกะ ณ เมืองโอมิโกะแห่งนี้ และระหว่างทางก็จะมีบรรดาตัวละครเก่า ๆ ปรากฏตัวมาช่วยสร้างสีสันและความเฮฮาเหมือนเดิม อย่างเช่นปลาไหลโคมไฟหรือปรมาจารย์บาจิโอะ เป็นต้น

เนื้อหาหลัก ๆ ก็เป็นประมาณนี้แหละครับ ซึ่งพวกเรื่องราวต่าง ๆ จะดำเนินไปเมื่อคุณเล่นเพลงเก็บแต้มไปเรื่อย ๆ จนเลเวลอัปซึ่งก็จะทำให้ได้รับรางวัลเป็นเงินไว้ไปใช้ซื้อพวกของแต่งตัวต่าง ๆ บ้างก็เป็นเครื่องมือที่จะเปลี่ยนเสียงกลอง หรือเป็นพวกลวดลายป้ายชื่อ อีกทั้งยังมีของเล่นให้ไปใช้ในโหมดพิเศษ และในบางเลเวลก็จะเป็นคัตซีนเรื่องราวสิ่งที่เกิดขึ้นในระหว่างที่ดง-จังใช้ชีวิตในเมืองโอมิโกะแห่งนี้ ซึ่งก็มักจะมาพร้อมกับการตีกลองไปกับเพลงใหม่ ๆ ที่จะปลดล็อกมาให้เล่นอิสระหลังเล่นผ่าน

สำหรับตัวเกมบน Nintendo Switch นั้น เดิมทีจะมีโหมดย่อยสองโหมดอย่าง Great Drum Toy War และ Don-chan Band ที่มีฉากเนื้อเรื่องเป็นของตัวเองด้วย และตัวเกมเวอร์ชัน PlayStation 5 นี้จะเพิ่มโหมดย่อยเข้ามาอีกหนึ่งโหมดคือ Run! Ninja Dojo โดยที่แต่ละโหมดย่อยก็จะมาพร้อมกับกิมมิคในการเล่นเฉพาะตัวครับ


เกมเพลย์

สำหรับผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับซีรีส์ Taiko no Tatsujin นั้น ตัวเกมเพลย์สามารถอธิบายได้ว่าเป็นเกมดนตรีที่ผู้เล่นจะใช้ปุ่มทั้งหมดสี่ปุ่มด้วยกันในการตีกลองตามสัญลักษณ์ที่ปรากฏบนจอ โดยสองปุ่มจะเสมือนเป็นการตีหน้ากลองด้านซ้ายและด้านขวา ส่วนอีกสองปุ่มจะเสมือนเป็นการตีขอบกลองด้านซ้ายและด้านขวา ซึ่งหน้าที่ของผู้เล่นก็คือการกดปุ่มให้ตรงจังหวะและตรงตามสีนั่นล่ะครับ

และก็แน่นอนว่ายิ่งเพลงยาก เกมก็จะถาโถมตัวโน้ตเข้าใส่คุณให้กดจนมือเป็นระวิง โดยตัวเกมเวอร์ชัน PlayStation 5 นี้จะเลือกวิธีการเล่นได้ 2 แบบนั่นคือการใช้จอย DualSense ตามปกติ หรือไม่ก็ใช้ Taiko no Tatsujin Drum Controller (แยกจำหน่าย) ครับ

ดังนั้นใครอยากเข้าถึงอารมณ์การตีกลองไทโกะให้สุด คุณก็ต้องไปหาซื้อตัว Drum Controller มาใช้กันดูนะ แล้วเหวี่ยงไม้หวดกลองให้เต็มที่ตามที่หัวใจเรียกร้องได้เลย ส่วนวันรุ่งขึ้นคุณจะเกิดอาการกล้ามเนื้ออักเสบจากการเหวี่ยงแขนมากเกินไปหรือไม่…นั่นก็เป็นอีกประเด็นหนึ่ง

จุดเด่นของเพลงในเกมก็อย่างที่ผมบอกไปตอนต้นนั่นล่ะครับว่ากว่า 90% จะเป็นเพลงญี่ปุ่นล้วน ๆ เลย จะเป็นเพลงป็อป เพลงอนิเม หรือเพลงโวคาลอยด์ เป็นต้น ชนิดที่ว่าถ้าคุณชอบวัฒนธรรมญี่ปุ่นแบบเข้าเส้น ก็ต้องมีเพลงที่คุ้นหูไม่มากก็น้อยแน่ ๆ

กระนั้น สิ่งที่เป็นจานหลักจริง ๆ ในแง่ของเพลงที่มีให้เล่นจะไปอยู่ใน Taiko Music Pass ซึ่งเป็นการซื้อบริการแบบมีระยะเวลาในการเล่นครับ ซึ่งลิสต์เพลงนั้นก็จะเต็มไปด้วยเพลงที่คุ้นเคยกันแน่ ๆ ด้วยจำนวนเพลงที่มีให้เป็นร้อย ๆ เพลงนั้น ต้องมีสักเพลงที่คุณเห็นปุ๊บกดเล่นปั๊บแน่ ๆ ล่ะ อย่างผมเองนี่พอเห็นเพลงอย่าง Cha-La-Head-Cha-La หรือไม่ก็ Genkai Toppa Survivor จาก Dragon Ball ก็กดเล่นแบบไม่ลังเล

ถ้าคุณชอบเพลงอนิเมหรือเพลงป็อปญี่ปุ่นล่ะก็ใน Taiko Music Pass นี่มีให้เลือกเต็มอิ่มแน่ ๆ นี่ยังไม่นับว่าปัจจุบันเพลงในพาสก็มีอัปเดตเข้ามาเรื่อย ๆ ถึงขนาดว่าเพลงจาก Vtuber หลายคนจาก Hololive เองก็มีให้เล่นครับ ใครที่เป็นแฟนของซุยเซย์เอย มารีนเอย รวมถึงคนอื่น ๆ อีกมากมายก็จะอยากกดสมัครบริการนี้แน่นอน

อย่างที่ผมบอกไปก่อนหน้านี้ว่าตัวเกมในรอบนี้มีโหมดย่อยอีกสามโหมด ที่เพิ่มเติมลูกเล่นทำให้ตัวเกมมีรสชาติขึ้น ซึ่งสามโหมดที่ว่าก็คือ Great Drum Toy War,  Don-chan Band และ Run! Ninja Dojo ครับ

Great Drum Toy War

โหมดนี้เป็นการเล่นแข่งกับ AI หรือจะเล่นกับคนก็ได้ เพียงแต่ก่อนเล่นนั้นคุณจะได้จัดทัพของเล่นของตนเอง ที่แต่ละชิ้นจะมีเอฟเฟคต์ต่าง ๆ กันไป ซึ่งคุณสามารถใช้ก่อกวนคู่แข่งได้ (ยิ่งของเล่นที่มีคอสต์สูงเอฟเฟคต์ก็จะยิ่งดี แต่คุณก็ต้องบริหารคอสต์ไม่ให้เกินเพดาน) เช่นการทำให้ตัวโน้ตหายไป หรือมีสิ่งต่าง ๆ มาบังหน้าจอเป็นต้น เป้าหมายของการเล่นในโหมดนี้ก็คือการกดตัวโน้ตให้ถูกต้องเพื่อทำการเรียกของเล่นฝั่งคุณมาให้เยอะกว่าคู่แข่งในตอนจบเพลงครับ ซึ่งมันสนุกกว่าที่ผมคิดไว้ตอนแรกพอควรเลย เพราะต้องใช้สมาธิสูงเอาเรื่องในการจับจังหวะและกดตัวโน้ตเมื่อโดนเอฟเฟคต์เล่นงาน

Don-chan Band

โหมดนี้จะเปลี่ยนลูกเล่นไปอีก โดยจะเน้นเป็นการเล่นสไตล์ co-op สูงสุด 4 คน ที่ทุกคนจะได้เล่นเพลงเดียวกันในคนละจังหวะตามแต่ช่วงของเพลง แต่ว่าเป้าหมายของโหมดนี้คือทั้ง 4 คนจะต้องแสดงฝีมือให้เต็มที่เพื่อเล่นเพลงไปจนจบได้ครับ นั่นแปลว่าถ้าใครกดผิดกดพลาดบ่อยก็จะเป็นการฉุดทั้งทีมลงมาได้ทันทีและอาจโดนมองแรงได้ กระนั้นเมื่อจบเพลงก็จะมีการประมวลผลคะแนนเพื่อบอกให้รู้กันไปเลยว่าใครที่เป็น MVP ประจำเพลง ทำให้แม้ว่าตัวโหมดจะเป็นการช่วยกันเล่น แต่จบเพลงจะเป็นจังหวะให้ผู้เล่นได้ขิงใส่กันนั่นล่ะครับ

Run! Ninja Dojo

โหมดนี้คือการเล่นแข่งขันกันระหว่าง 4 ผู้เล่น ซึ่งผู้เล่นก็จะต้องกดตัวโน้ตกลองให้ตรงจังหวะเช่นเคย แต่ว่าตัวโน้ตจะเปลี่ยนจากสัญลักษณ์ปกติเป็นหุ่นไม้หรือไม่ก็ชูริเคนแทนครับ ใครที่เล่นโหมดนี้แรก ๆ จะต้องปรับตัวกันใหม่ระดับหนึ่งเลย เป้าหมายของการเล่นคือเข้าเส้นชัยก่อนคู่แข่งคนอื่น ๆ ซึ่งก็ทำได้จากกดโน้ตให้ถูกนั่นล่ะครับ แล้วเราจะวิ่งขึ้นนำหน้าคนอื่น ๆ แต่ความยากของมันคือยิ่งคุณวิ่งนำ คุณจะมีเวลาตอบสนองตัวโน้ตน้อยลงนั่นเองครับ คือยิ่งคุณเล่นเก่งก็ยิ่งมีอุปสรรคมากขึ้นกว่าคนอื่น

เกมเพลย์ของแฟรนไชส์ไทโกะนั้นยังคงสนุกเหมือนเดิม แต่ใครอยากได้ความท้าทายและแปลกใหม่เพิ่มขึ้นก็สามารถหาได้จากสามโหมดที่กล่าวไปครับ


กราฟิกและการนำเสนอ

กราฟิกของเกมนี้ นำเสนอในแบบตัวการ์ตูนน่ารักและเรียบง่ายครับ สิ่งที่ผมชอบเป็นพิเศษก็คงไม่พ้นการดีไซน์ตัวละครต่าง ๆ ของเกมที่เป็นตัวของตัวเองจริง ๆ นอกจากดง-จังที่เป็นกลองไทโกะซึ่งมีหน้ามีตาและแขนขาแล้ว ตัวละครอื่น ๆ ก็เป็นการหยิบเอาสิ่งที่ดูไม่น่าจะนำมาเป็นคาแรคเตอร์ได้มาใช้หมดเลย ทาโกะยากิบ้างล่ะ ปลาไหลบ้างล่ะ อะไรทำนองนี้ ซึ่งเข้าใจว่าคอนเซปต์ก็หยิบยกมาจากพวกสิ่งต่าง ๆ ที่พบเห็นได้ตามงานเทศกาลของญี่ปุ่นนั่นล่ะครับ

แต่เอาเป็นว่าทั้งเกมจะเต็มไปด้วยสิ่งที่น่ารักทั้งนั้นเลย ถ้าใครจะซื้อให้ลูกให้หลานเล่นก็จะไม่มีอะไรที่ชวนตกใจหรือเซอร์ไพรส์ครับ


เพลงประกอบ

อันที่จริงหัวข้อนี้ก็พูดถึงไปแล้วในส่วนของเกมเพลย์ แต่ก็ขอมาเน้นย้ำอีกทีว่าแต่ละเพลงที่มีให้เล่นนั้นถูกใจผมเป็นพิเศษ เพราะได้เล่นเพลงที่คุ้นเคยเยอะมาก แม้แต่บางเพลงที่อาจไม่รู้จักหรือไม่เคยได้ยินแต่พอได้เล่นแล้วก็พบว่ามีแต่เพลงเพราะและจังหวะสนุกทั้งนั้นเลยครับ ถ้าใครที่ติดตามและชื่นชอบวัฒนธรรมญี่ปุ่นคุณจะยิ่งชอบเกมนี้เป็นพิเศษแน่ ๆ


สรุป

Taiko no Tatsujin: Rhythm Festival ถือเป็นภาคล่าสุดของแฟรนไชส์ที่สนุกสนานและให้ความบันเทิงได้มาก หากคุณชอบเกมที่จะเล่นกับคนในครอบครัวได้อย่างสนุกสนานและบันเทิงเริงใจล่ะก็ นี่คือตัวเลือกที่ขอแนะนำ หากใครที่เล็งเกมนี้เอาไว้ตั้งแต่คราวที่ลง Nintendo Switch ล่ะก็ เกมนี้มาให้คุณได้สัมผัสกันบน PlayStation แล้วครับ ไปหามาหวดกลองกันได้เลย

The Review

80% ไทโกะภาคใหม่ มาให้เล่นแล้วบนเพลย์สเตชัน

Taiko no Tatsujin Rhythm Festival คือเกมดนตรีที่เหมาะกับคนทั้งครอบครัว และบรรดาเพลงมากมายที่ผู้ชื่นชอบวัฒนธรรมญี่ปุ่นจะต้องถูกใจ

80%

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ข้ามไปยังทูลบาร์