รีวิว Total War: WARHAMMER III – Omens of Destruction
* ขอขอบคุณ SEGA สำหรับโค้ดรีวิวมา ณ โอกาสนี้ครับ
** รีวิวนี้เล่นบน PC
ย้อนอ่านงานรีวิวเกม Total War: WARHAMMER III ที่ผ่านมา ได้ที่นี่:
รีวิว Shadows of Change – Total War: WARHAMMER III
รีวิว – TOTAL WAR: WARHAMMER 3 THRONES OF DECAY
Omens of Destruction คือ DLC ตัวล่าสุดของ Total War: WARHAMMER 3 ซึ่งเปิดตัวให้เล่นกันไปแล้วเมื่อ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นเนื้อหาเสริมชุดที่ 26 แล้ว! สำหรับเกมภาค 3 ของ Total War: WARHAMMER นับว่าค่ายเกม CREATIVE ASSEMBLY และ Feral Interactive รวมไปถึง SEGA ด้วย เขาเน้นขายของ/ขายตัวเสริมกันอย่างเป็นจริงเป็นจังอย่างมาก กับแฟรนไชส์ที่ถือว่าประสบความสำเร็จพอสมควรเกมนี้
โดยใน Omens of Destruction แท้จริงแล้วก็คือการเติม Legendary Lords ใหม่เข้าไปอีก 3 ตัวให้เล่นกันได้ในเกมหลักนั่นแหละ บวกกับการอัปเดตและเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ เข้าไปด้วย ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้น ผมจะค่อย ๆ เล่าให้ฟังดังนี้
อันดับแรก สำหรับเกมการเล่น มันก็ยังคงเป็น Total War ที่แฟนเก่า ๆ น่าจะคุ้นเคยกันดี และผมเชื่อเหลือเกินว่า แฟนเกมนี้เกินครึ่งในไทย เฉพาะกลุ่มที่ตามซื้อเกมนี้เล่นแบบจริงจังก็คงเป็นเหล่าขาประจำของโต๊ะเกมค้อนสงครามเป็นแน่ เพราะกลุ่มแฟนคลับสายนี้ ถ้าเข้าแล้วออกยาก 555 น่าจะหามาเล่นกันแทบจะครบทุกคนเลยล่ะมั้งเนี่ย
ด้าน Legendary Lords ใหม่ที่เพิ่มเข้ามาใน Omens of Destruction จะแบ่งเป็นสามเผ่า ก็คือ Khorne, Ogre Kingdoms และ Greenskins
เริ่มที่ตัวแรก Skulltaker แห่ง Khorne ที่มาพร้อมแคมเปญ Daemons of Chaos ซึ่งมีเงื่อนไขชัยชนะที่ไม่ขึ้นอยู่กับอาณาเขต ช่วยให้คุณไม่ต้องยึดพื้นที่ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยชัยชนะของ Skulltaker นั้นเชื่อมโยงกับกลไก Cloak of Skulls ซึ่งมอบการอัปเกรดที่ไม่เหมือนใคร Skulltaker ไม่สนใจเรื่องการตั้งถิ่นฐานมากนัก เน้นการสู้รบทำลายล้างกันไปข้าง
ทีนี้เมื่อเล่นแคมเปญของ Skulltaker พวก AI มันก็จะหนีกันอย่างเดียวเลยครับ เราต้องไล่ล่าพวกมันไปทั่วแผนที่กันเลยทีเดียว (จึงเป็นที่มาของสกิลอย่าง Cloak of Skulls นี่แหละ ที่ใช้เพื่อเทเลพอร์ตไปยังลอร์ดศัตรูคนใดก็ได้ที่อยู่ในสายตา ตราบที่ยังมีแต้ม Champion Essence เก็บไว้เพียงพอให้ใช้น่ะนะ) เมื่อรวมกับการอัปเกรดที่ทำให้ Skulltaker สามารถรับ XP ของลอร์ดที่พ่ายแพ้ ก็ยิ่งทำให้เขาแข็งแกร่งมากขึ้นและยิ่งดึงดูดให้คนเล่นไล่ล่าฆ่าศัตรูไปทั่ว
ตัวต่อมาคือ Golgfag Maneater แห่ง Ogre Kingdoms ซึ่งจะมอบประสบการณ์แคมเปญแบบแหวกแนวสุด ๆ กล่าวคือ คุณสามารถเล่นเป็น Golgfag ได้โดยไม่ต้องพิชิตดินแดนใด ๆ เลย เพราะ Golgfag นั้นเป็นทหารรับจ้างเพียว ๆ โดยเขาจะ “รับงาน” หรือก็คือการทำสัญญาจากฝ่ายใดก็ตามที่มีข้อเสนอยื่นมาให้ จากนั้นคุณก็จะเป็นศัตรูกับฝ่ายที่ถูกจ้างให้หมายหัว เป็นระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งคุณก็ต้องไปทำสงครามทำลายพวกมันตามสัญญาจ้าง ก็จะเป็นอันจบ ถือว่า “ปิดจ๊อบ” จากนั้น Golgfag ก็พร้อมเปิดพิจารณาหมายงานลำดับต่อไปทันที
ทั้งนี้ งานจ้างก็จะมีหลากหลายรูปแบบ อาทิ การเอาชนะกองทัพ การลอบสังหารขุนพล การก่อกวนการตั้งถิ่นฐาน และการบุกยึดดินแดนเป้าหมาย ฯลฯ ส่วนค่าตอบแทนก็จะเป็นพวกความร่ำรวยจำนวนมหาศาลรวมถึงเนื้อสด ๆ ซึ่งเป็นทรัพยากรที่สำคัญสำหรับโอเกอร์
อย่างไรก็ตาม คุณไม่จำเป็นต้องรับงานจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแต่เพียงข้างเดียว เพราะคุณจะหันมารับงานจากอดีตศัตรูก็ย่อมได้ เพื่อให้พวกมันรบกันไป-มา จะได้ไม่มีใครยึดครองดินแดนได้ทั้งหมดในแผนที่ รักษาสภาพสงครามให้ดุเดือดไปเรื่อย ๆ เพื่อที่ Golgfag จะสามารถสร้างกำไรได้สูงสุด (บนความชิบหายของผู้คนทั่วทั้งแผ่นดิน เหอ ๆ ๆ)
ตัวสุดท้ายได้แก่ Gorbad Ironclaw แห่งพวก Greenskins ซึ่งมีการเล่นแบบดั้งเดิมที่สุดใน DLC นี้ เนื่องจากมีวิธีการเล่นเน้นการยึดครองดินแดนตามปกติ อย่างไรก็ตาม เจ้า Gorbad จะมีกลไกเฉพาะตัวนั่นคือ Da’ Plan ที่จะช่วยเพิ่มความลึกของยูนิตพูล โดยมันจะมีช่อง Da’ Plan สามช่องสำหรับ Tactics ซึ่งเป็นบัฟชั่วคราวที่สามารถเปิดใช้งานได้ ซึ่งสิ่งพิเศษเกี่ยวกับ Tactics ก็คือ แต่ละอันจะกำหนดให้คุณต้องมีหน่วยรบเฉพาะในกองทัพของคุณ จะใช้งานได้ก็ต่อเมื่อคุณมีหน่วยทหารครบตามประเภทที่ต้องใช้สำหรับ Tactics นั้น ๆ มันนำมาซึ่งการออกแบบแผนการรบได้มากมายตามใจคนเล่น และแต่ละแผน ก็เชิญชวนให้คุณได้ทดลองการจัดทัพ และค้นหาสมดุลที่สมบูรณ์แบบระหว่างยูนิตประเภทต่าง ๆ
สรุปแล้ว Omens of Destruction ก็คือการมอบ 3 จอมทำลายล้างให้กับ Total War: Warhammer 3 โดยมอบประสบการณ์แคมเปญที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากที่สุดตั้งแต่ที่เกมตัวหลักออกวางจำหน่าย และนอกจาก Legendary Lords ทั้งสามตนนี้แล้ว เกมยังมีสิ่งใหม่ ๆ เพิ่มเติมให้อีกตามข้อมูลด้านล่างนี้ครับ
สรุปสิ่งใหม่ที่มีเพิ่มในชุดนี้เมื่อคุณซื้อหามาเล่นก็ได้แก่
● 3 Legendary Lords
● 4 Legendary Heroes
● 5 Lords & Heroes
● 15 Battle Units
● 9 Regiments of Renown
● การอัปเดตระบบเกมและฟีเจอร์ทั่วไป