News

เผยข้อมูลระบบการเล่น DRAGON QUEST MONSTERS: The Dark Prince

เสาะหามอนสเตอร์แล้วส่งไปต่อสู้!

DRAGON QUEST MONSTERS: The Dark Prince คือผลงานภาคล่าสุดในซีรีส์ DRAGON QUEST MONSTERS โดยในเกม RPG นี้ คุณจะได้รับบทเป็นผู้ควบคุมมอนสเตอร์อย่างปิซาโร (Psaro) และได้สร้างทีมมอนสเตอร์เพื่อเข้าต่อกรกับศัตรูไปตลอดการผจญภัย ทีมของคุณจะประกอบไปด้วยมอนสเตอร์สูงสุดแปดตัว โดยจะมีสี่ตัวเป็นปาร์ตี้หลัก ส่วนอีกสี่เป็นตัวสำรอง ในระหว่างต่อสู้คุณจะสามารถออกคำสั่งให้กับมอนสเตอร์แต่ละตัวได้ หรือไม่ก็เซ็ตกลยุทธ์ทั่วไปอย่างเช่น “ไม่ต้องปรานี” หรือ “เน้นที่การฟื้นฟูพลัง” แล้วปล่อยให้มอนสเตอร์ของคุณตัดสินใจเอาเองได้เลย

เข้าสู่สภาวะคลั่ง!

หากว่าศัตรูไล่ต้อนคุณจนมุมและชัยชนะก็ยิ่งห่างไกลออกไป มอนสเตอร์ของคุณอาจตกอยู่ในสภาวะคลั่งขึ้นมา หากเป็นเช่นนี้พวกมันจะทำความเสียหายได้มากขึ้นและยังมีโอกาสเคลื่อนไหวเพิ่มขึ้น เพื่อพลิกสถานการณ์ที่อาจพ่ายแพ้ให้กลายเป็นชัยชนะ

จะหามอนสเตอร์เพิ่มเติมได้อย่างไร?

วิธีการเพิ่มจำนวนมอนสเตอร์ของคุณนั้นมีหลายวิธี คุณอาจปล่อยให้โชคชะตาวาสนานำพาแล้วรอมอนสเตอร์มาขอเป็นพวกหลังจบการต่อสู้ก็ได้ แต่มันมีวิธีที่ทรงประสิทธิภาพมากกว่านั้น ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณไปเจอกับมอนสเตอร์ที่ดูแข็งแกร่งและอยากชวนมาร่วมทีม คุณอาจโจมตีมันด้วย Show of Force และพยายามชักชวนมันมาร่วมทีม คุณอาจจะได้พบกับผู้ควบคุมมอนสเตอร์รายอื่นในการเดินทางและยินดีที่จะผสมมอนสเตอร์ของพวกเขาเข้ากับมอนสเตอร์ของคุณเพื่อสร้างเป็นสิ่งมีชีวิตตัวใหม่ก็เป็นได้ และพวกเขายังให้คุณเป็นเจ้าของตัวใหม่ด้วยนะ!

หากคุณใช้งานไอเท็มที่มี อย่างเช่นไอเท็มจำพวกเนื้อและของกินต่าง ๆ ก็ยังสามารถเพิ่มโอกาสที่มอนสเตอร์จะมาขอเป็นพวกได้อีก รวมถึงยังเพิ่มโอกาสโน้มน้าวใจเมื่อใช้ Show of Force อีกด้วย มาใช้ไอเท็มให้เป็นประโยชน์เพื่อชักชวนมอนสเตอร์ที่คุณต้องการกันเถอะ

ทั้งหมดนั้นเป็นวิธีการที่ดี แต่ผู้ควบคุมมอนสเตอร์ต่างมีวิธีโปรดในการพัฒนายกระดับทีมของตน ซึ่งก็คือด้วยการผสมมอนสเตอร์ อันเป็นวิธีในการรวมมอนสเตอร์สองตัวเข้าด้วยกันเพื่อสร้างเป็นตัวใหม่ ระบบการผสมนี้ได้รับการปรับปรุงใหม่หมดสำหรับ DRAGON QUEST MONSTERS: The Dark Prince, และบัดนี้ก็ยังมีรูปแบบการผสมผสานที่จะดูสมเหตุสมผลแม้จะเป็นมือใหม่ของซีรีส์ก็ตาม

ตัวอย่างเช่น เกรตเซเบอร์แคต (Great Sabrecat) ที่มีเขี้ยวแหลมคม เมื่อผสมกับการูดา (Garuda) ที่เป็นนก ก็จะกลายเป็นมิสซิงลิงซ์ (Missing Lynx) ที่มีลักษณะเป็นเกรตเซเบอร์แคตที่เขี้ยวแหลมคมและมีปีกเพิ่มขึ้นมา!

การได้มาซึ่งพรสวรรค์

มอนสเตอร์แต่ละตัวจะมาพร้อมกับอย่างน้อยหนึ่งพรสวรรค์ ซึ่งเป็นเซ็ตของเวทมนตร์และความสามารถที่คุณจะค่อย ๆ ปลดล็อกออกมาได้โดยการใช้แต้มพรสวรรค์ที่มอนสเตอร์แต่ละตัวจะได้รับมาเมื่อเลเวลอัปหรือด้วยวิธีการอื่น ๆ โดยที่พรสวรรค์นั้นจะแบ่งกว้าง ๆ ออกเป็นสามหมวดด้วยกัน และแต่ละหมวดก็จะมีการผสมผสานของสกิล, เวทมนตร์, การเพิ่มค่าพลังและอีกมากมาย เมื่อมีการผสมมอนสเตอร์ใหม่ขึ้นมาก็จะกำเนิดมาพร้อมกับพรสวรรค์ที่แฝงอยู่ แต่ก็ยังสามารถสืบทอดพรสวรรค์จากผู้ให้กำเนิดได้เช่นกัน การเข้าใจระบบนี้ถือเป็นกุญแจสำคัญที่จะสร้างมอนสเตอร์อันทรงพลัง

ในเกมนี้จะมีพรสวรรค์ให้คุณได้ค้นหามากมาย บ้างก็จะมีเวทฟื้นฟูที่ช่วยให้รอดชีวิต บ้างก็เปลี่ยนมอนสเตอร์ของคุณให้กลายเป็นสิ่งที่โจมตีได้อย่างดุดันหรือไม่ก็ดูดซับความเสียหายได้มากมาย พรสวรรค์บางส่วนก็ตั้งชื่อตามมอนสเตอร์ที่หลายคนคุ้นเคยอีกด้วย…

พรสวรรค์ “Cure-All”

ด้วยเวทฟื้นฟูอันเข้มข้นอย่างเช่น Multiheal และ Omniheal, รวมถึง Zing เพื่อชุบชีวิตเพื่อนร่วมทีมและยังมี Kabuff ที่เสริมพลังป้องกันอีก พรสวรรค์นี้ถือเป็นสิ่งที่ต้องมีสำหรับฮีลเลอร์ประจำปาร์ตี้ของคุณ

พรสวรรค์ “The Dragonlord”

โจมตีด้วยลมหายใจเปลวเพลิงอันร้อนแรง อย่างเช่น Inferno และ Hellitosis, และยังมี Burning Breath และ Wave of Panic, ผสมกับเวทอย่าง Moreheal และ Kasizzle จึงทำให้ ‘The Dragonlord ‘ เป็นพรสวรรค์ที่น่ากลัวสมชื่อ

พรสวรรค์ประจำตระกูล

มอนสเตอร์แต่ละประเภทจะมีพรสวรรค์เฉพาะตัว ซึ่งเป็นความสามารถแฝงที่สามารถเพิ่มค่าพลังหรือไม่ก็ขัดจังหวะศัตรูได้ พรสวรรค์ใหม่ ๆ จะปลดล็อกโดยอัตโนมัติเมื่อมอนสเตอร์ของคุณมีเลเวลถึงที่กำหนด โดยที่ขนาดของมอนสเตอร์จะส่งผลต่อพรสวรรค์ที่มี ยิ่งมอนสเตอร์ขนาดใหญ่ก็จะมีพรสวรรค์ที่มากขึ้น

ขนาดและแรงก์ของมอนสเตอร์

ในเกม DRAGON QUEST MONSTERS: The Dark Prince นี้ มอนสเตอร์จะมีด้วยกันสองขนาด เล็กหรือไม่ก็ใหญ่ มอนสเตอร์ขนาดเล็กจะใช้เนื้อที่เพียงสล็อตเดียวในทีม ส่วนมอนสเตอร์ขนาดใหญ่จะใช้สองสล็อต นั่นแปลว่าคุณจะจัดทีมมอนสเตอร์ขนาดเล็กได้ทั้งหมดสี่ตัว หรือไม่ก็ขนาดใหญ่สองตัว หรือไม่ก็ตัวเล็กสองตัวและตัวใหญ่หนึ่งตัว ไม่เพียงแต่มอนสเตอร์ขนาดใหญ่จะมีค่าพลังที่สูงกว่าขนาดเล็กเท่านั้น แต่ยังสามารถเคลื่อนไหวได้หลายครั้งต่อหนึ่งรอบของการต่อสู้ด้วย

นอกเหนือไปจากขนาดตัวแล้ว มอนสเตอร์ยังมีด้วยกันทั้งหมด 9 แรงก์นั่นคือ G, F, E, D, C, B, A, S หรือ X, ซึ่งเรียงจากต่ำสุดไปสูงสุด แรงก์นี้จะมาพร้อมกับประเภทของมอนสเตอร์และไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ในบรรดามอนสเตอร์แรงก์ S นั้นคุณจะได้พบกับเหล่าตัวร้ายที่คุ้นหน้าคุ้นตาจากซีรีส์ แต่มอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งอย่างน่าสะพรึงจะมีแค่ในแรงก์ X

มาทดสอบฝีมือในลานประลองแห่งสองโลก!

เมื่อการผจญภัยของปิซาโรดำเนินไป จะมีลานประลองสองแห่งให้คุณได้ทดสอบฝีมือของมอนสเตอร์ นั่นคือเอ็นดอร์โคลอสเซียม (Endor Colosseum) ในโลกมนุษย์เทอร์เรสเทรีย (Terrestria) และมอลลอสเซียม (Maulosseum) ในดินแดนแห่งมอนสเตอร์นาดิเรีย (Nadiria) คู่ต่อสู้ในลานประลองแต่ละแห่งล้วนแต่เป็นผู้ควบคุมมอนสเตอร์ระดับสูง คุณจะสามารถเอาชนะทุกคนได้เพื่อรวบรวมกองกำลังไปโค่นล้มเจ้าแห่งมอนสเตอร์ได้หรือไม่?

เหล่าผู้ที่คุ้นเคยจาก DQXI และมอนสเตอร์หน้าใหม่ให้ค้นหา

DRAGON QUEST MONSTERS: The Dark Prince จะมีมอนสเตอร์กว่า 500 ตัวให้คุณผูกมิตร ซึ่งก็รวมถึงแจสเปอร์ อันบาวด์ (Jasper Unbound) และคริสตาลินดา (Krystalinda) จาก DRAGON QUEST XI: Echoes of an Elusive Age และก็แน่นอนว่าจะมีมอนสเตอร์ใหม่เอี่ยมที่คุณไม่เคยพบด้วยเช่นกัน

แจสเปอร์ อันบาวด์ (Jasper Unbound) อดีตแม่ทัพแห่งอาณาจักรอันโด่งดังผู้ที่ตกอยู่ในความมืดมิดเพราะความทะเยอทะยานและเปลี่ยนตนเองให้กลายเป็นมอนสเตอร์

คริสตาลินดา (Krystalinda) แม่มดน้ำแข็งผู้ถูกผนึกเอาไว้ในหนังสือต้องห้ามนับตั้งแต่โบราณกาล

เกรตเตอร์ แพลเตอพังก์ (Greater Platypunk) มอนสเตอร์สุดนุ่มฟูจากตระกูลสัตว์อสูรที่ว่ากันว่าเป็นราชาแห่งเหล่าแพลเตอพังก์

แกนเดอร์ (Gander) มอนสเตอร์จากตระกูลสัตว์ปีศาจที่มักปรากฏตัวต่อหน้าสิ่งมีชีวิตที่กำลังจะตายเพื่อรับชมวาระสุดท้าย

DRAGON QUEST MONSTERS: The Dark Prince จะวางจำหน่ายบน Nintendo Switch ในวันที่ 1 ธันวาคม 2023

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ข้ามไปยังทูลบาร์