เล่นชิมลาง เดโม One Piece Odyssey
*การพรีวิวครั้งนี้มาจากประสบการณ์เล่นเดโมในช่วงต้นเกมไม่เกิน 3 ชั่วโมง
** ขอขอบคุณโค้ดเดโมเกมเพื่อการทดลองเล่น จากบริษัท Bandai Namco Entertainment Asia มา ณ โอกาสนี้ครับ
สารภาพตามตรงว่าผมไม่ได้ตั้งความหวังกับตัว One Piece Odyssey ด้วยคอนเสป RPG และตัวอย่างที่ปล่อยออกมาหลายอย่าง ทรงมันมาแนว 100 ปี แห่งความว่างเปล่ามาก คือคนเล่นที่เป็นทั้งแฟนและไม่ใช่แฟนซีรีส์ดูไม่น่าจะได้อะไรกลับไปมากนัก
แต่ยังไงซะ ถึงจะยังไม่ได้ลองกิน แต่ลองชิมแล้วมาเล่าสู่กันฟังก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายครับ
ว่ากันที่ส่วนเนื้อเรื่องกันก่อนเลย ใครที่เป็นแฟน One Piece ก็จะเข้าใจสไตล์การขายของแฟรนไชส์นี้อยู่แล้ว ว่าอะไรที่มันไม่รวมอยู่ในเนื้อเรื่องหลัก ก็มักจะเป็นกาชาเสมอ (คือมีดีก็พอตัว แต่มีเกลือก็มาก) ถึงจะเอาชื่อชั้น อ. โอดะ มาค้ำคอการันตี แต่จะมีกี่คนที่ยังไม่รู้ว่ามันเป็นแค่การตลาด?
ใน One Piece Odyssey เราก็จะได้เจอตัวละครใหม่ที่โฆษณาว่า อ. โอดะ มาออกแบบให้เองเลยเหมือนกัน คือหนุ่มผมยาวใช้ปืนสองกระบอกชื่ออาดิโอ และน้องริม ซึ่งตอนน้องโผล่มาครั้งแรกเพื่อขโมยพลังกลุ่มหมวกฟางนี่ทีมเขียนบทเอาฮาจริงอะไรจริง คือ น้องจะมาทำอะไรง่าย ๆ แบบนี้ไม่ได้นะลูก
ถ้าให้ผมเดา ผมคาดว่าเนื้อเรื่องใหม่ใน One Piece Odyssey ไม่น่ามีสัดส่วนเยอะ เพราะเกมก็มีเปิดเผยมาแล้วว่าพวกลูฟี่ต้องมีการย้อนความทรงจำไปช่วงเนื้อเรื่องที่แฟน ๆ ชอบกันด้วย ทั้ง ช่วงอลาบาสตาร์ ช่วงวอเตอร์เซเว่น และช่วงอื่น ๆ อีก ซึ่งก็อาจจะเป็นการเซอร์วิสแฟน ๆ ที่อยากกลับไปเล่นเนื้อเรื่องพวกนั้นในแบบ RPG เผลอ ๆ ส่วนที่ย้อนความทรงจำอาจมีเกิน 50% ด้วยซ้ำ
สำหรับด้านเกมเพลย์ก็จะแบ่งเป็น 2 เฟสหลักอย่างที่รู้กันครับ คือ เฟสเดินสำรวจ และ เฟสต่อสู้ เท่าที่เล่นเดโมมา เฟสการออกสำรวจค่อนข้างน่าเบื่อครับ ในเกมนี้มีอะไรในพื้นที่ให้สำรวจเยอะ แต่เอาเข้าจริงมันไม่ได้ทำหน้าที่อื่น นอกจากมาช่วยเสริม Lore ของเนื้อเรื่องใหม่ในเกมนี้ การกำกับ หรือ การวางคัตซีนในช่วงออกสำรวจก็ไม่ได้หวือหวาอะไร บางครั้งผมกลับรู้สึกว่าเกมใส่คัตซีนมากไปด้วยซ้ำ และเป็นคัตซีนที่ไม่ค่อยช่วยให้เราเข้าใจเนื้อเรื่อง หรือ อะไรที่มันเป็นแก่นสารมากกว่าเดิม
แต่พอพูดถึงในส่วนของเฟสต่อสู้แล้ว ผมค่อนข้างเซอร์ไพรส์ที่ One Piece Odyssey สามารถตกผมได้พอสมควร อย่างแรกเลยก็คือแอนิเมชันตัวละครตอนปล่อยท่าต่าง ๆ ทำออกมาสวย เท่ ดุดัน รุนแรง ดูได้อารมณ์ไม่แพ้ตอนเราจินตนาการจากมังงะ หรือ ตอนดูอนิเมะ
แล้วไม่ใช่แค่ฝั่งกลุ่มหมวกฟางที่ทำได้ดี ฝั่งศัตรูอย่างพวกกีกี้ ลูกกระจ๊อก ก็มีท่าโจมตีที่สวยเอาเรื่องเหมือนกัน และอาจได้คะแนนเพิ่มสำหรับคนที่ชอบงานออกแบบตัวละครสไตล์ Dragon Quest
เกมยังเพิ่มความลึกในแง่กลยุทธ์เข้าไปในการต่อสู้หลายอย่าง เช่น การโจมตีบางท่าที่เราสามารถตีศัตรูให้เด้งไปชนอีกตัวได้ การแบ่งพื้นกันสู้ (ถ้ายังเอาชนะศัตรูในพื้นที่ตัวเองไม่ได้ ก็จะไปช่วยเพื่อนในพื้นที่อื่นไม่ได้) การทำตามเงื่อนไขเฉพาะในแบทเทิลนั้น ๆ เช่น กำจัดศัตรูที่กำหนดก่อน แล้วจะได้ Exp ตอนจบเยอะขึ้น ยังไม่รวมพวกองค์ประกอบพื้นฐานอื่น ๆ ที่เกมแนวนี้ต้องมีอยู่แล้ว เช่น ความเสียหายธาตุ จุดอ่อนและจุดแข็งศัตรูที่ไม่เหมือนกัน
อีกเรื่องที่ผมคิดว่ามันทำให้ระบบต่อสู้เกมนี้ครบเครื่อง คือระบบ AI ที่เราสามารถให้ตัวละครเราต่อสู้อัตโนมัติได้ แล้วยังมีระบบเร่งเวลาซึ่งเหมาะสำหรับสายเก็บเวลแต่ไม่อยากเสียเวลากดต่อสู้อีก เรียกว่าประยุกต์ใช้พวกนวัตกรรมเกมเพลย์จากเกมมือถือมาได้ลงตัวมาก
เพราะฉะนั้น โดยสรุปในช่วงต้น One Piece Odyssey มีเนื้อเรื่องที่ดูไม่ค่อยมีศักยภาพมากเท่าไร การกำกับเฟสช่วงสำรวจที่ค่อนข้างกลาง ๆ ไปทางน่าเบื่อ แต่ถูกแบกไว้ด้วยระบบต่อสู้ที่เกมเพลย์ออกแบบมาแข็งแรงและคิดมาค่อนข้างรอบด้าน รวมถึงงานการแปลที่เชื่อในคุณภาพได้ การใส่ฟอนต์ให้เข้ากับ UX UI ในเกมก็อยู่ในระดับมืออาชีพแล้ว ถ้ามีโอกาสลองเกมตัวเต็ม จะมารีวิวให้ฟังกันอีกรอบครับ