News Previews

พรีวิว [PREVIEW] – Avatar: Frontiers of Pandora

by Reviewer Ocelot

พรีวิว [PREVIEW] – Avatar: Frontiers of Pandora

พรีวิว [PREVIEW] – Avatar: Frontiers of Pandora

ปี 2023 พูดได้ว่าทั้งต้น กลาง จนท้ายปีผมไม่รู้สึกว่าเราขาดเกมใหม่ ๆ ที่มีคุณภาพเลยนะครับ แม้ว่าตอนนี้หลายคนอาจจะรู้สึกอิ่มแล้วหลังจากเจอกับไอ้แมงมุมภาค 2 ที่ทำออกมาได้สมการรอคอย สมกับทุกบาทที่เสียไป แต่สองเดือนหลังก็ใช่ว่ากระเป๋าเงินเราจะปลอดภัยนะครับ เพราะเรามี Far Cry Pandora เอ้ย Avatar: Frontiers of Pandora จาก Ubisoft ที่ก็ถือว่าเป็นเกมฟอร์มยักษ์ที่จะมาปิดม่านปีนี้กันเลย มันก็เหลือคำถามเดียวแล้วล่ะครับว่าจะปิดสวยหรือไม่สวย

อ่ะ ถึงจุดนี้ผมว่าเราก็พูดกันแบบตรง ๆ เลยนะครับว่าเกมนี้ มันมีความ Far Cry ถ้ามันไม่ใช่นี่สิจะแปลกมาก เพราะก็สร้างมาจากรากฐานเดียวกัน แต่การที่พูดว่ามันเหมือน Far Cry มันไม่จำเป็นจะต้องเป็นเรื่องในแง่ลบเสมอไป เพราะเอาเข้าจริงความเป็น Far Cry มันไม่ใช่ปัญหาในตัวของมันเอง การไปหยิบกรอบ หยิบสูตรสำเร็จของเกมรุ่นพี่มาใช้แล้วเกมออกมาดีก็มีให้เห็นเยอะแยะนะครับ อย่าง Lies of P ก็เดินตามรอย Bloodborne แล้วเขาก็ทำออกมารอด คนก็ชมกันเยอะ

พูดง่าย ๆ ว่าผมโอเคเรื่องเกมไหนจะเดินตามเกมไหน หัวใจสำคัญมันอยู่ที่ว่าไปเอาของเดิมมาทำแล้ว ทำสนุกมั้ย เพิ่มเติม ดัดแปลง ต่อยอด ให้มีความเป็นตัวของตัวเองมากขึ้นรึเปล่า ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล่ะครับที่ผมจะมาพูดถึงในวิดีโอนี้

ช่วงเริ่ม

โอเค เกริ่นมานานแล้ว เอาเรื่องแรกที่ผมอยากพูดก่อนเลย คือ ในเดโมที่เขาให้สื่อเล่นครั้งนี้นะครับ เขาไปคัดช่วงที่เกมมันเดินเรื่องไปประมาณ 20 กว่าเปอร์เซ็นต์แล้ว (ตัวเลขเป๊ะ ๆ จำไม่ได้แต่น่าจะประมาณนี้) แล้วจะให้เล่นประมาณ 3 ภารกิจหลัก ให้พอเข้าใจระบบต่าง ๆ ที่เกมใส่เข้ามานะครับ มีเวลาเล่นประมาณ 2 ชั่วโมง

เริ่มมาขอบ่นก่อนเลย มันไม่ใช่ปัญหาของตัวเกมหรอก แต่มันคือปัญหาที่ตัวเดโมเอง เรื่องของเรื่องคือภารกิจแรกที่เขาให้คนเข้าไปทดสอบทำ คือการไปตามหาผลไม้ผลหนึ่ง ฟังดูแล้วก็ไม่น่ามีอะไร เป็นเควสต์ตามเก็บของโง่ ๆ ทั่วไป แต่ปัญหามันคือ

การที่เขาโยนผู้เล่นลงมาในช่วงกลางเกม ที่มันมีระบบและตัวเลือกมากมายประมาณนึงแล้ว แล้วนึกเอาเองว่าคนที่มาทดสอบจะสามารถเข้าใจระบบพวกนี้ได้ในเวลาสั้น ๆ อ่ะ ผมเล่นเกมมาก็ไม่น้อย แต่ขอสารภาพครับว่า ผมหาไอ้ผลไม้นี้ไม่เจอ ผ่านไปประมาณ 20 นาที ก็เดินวนไปวนมาอย่างนั้นน่ะ พยายามจะทำความเข้าใจกับหน้าต่างเควสต์ พยายามกดปักหมุดแล้วมันก็ยังหาไม่เจอ จนคนที่ดูแลเขาต้องยื่นมือเข้ามาช่วยประมาณว่า กูทนเห็นไม่ไหวละ ขอมาเอดดูเขตหน่อยนะ

เล่นเอาผมสมเพชตัวเองไปเลย ประสบการณ์เล่นเกมนับสิบปี เดินหาผลไม้ทำเควสต์โง่ ๆ ไม่เจอ แต่พอหลังจากออกจากห้องเทสต์แล้วได้คุยกับคนมาเล่นเดโมคนอื่นน่ะ ปรากฏว่าเจอปัญหาเดียวกันกับเควสต์แรกนี่แหละ ต่างคนต่างหาไม่เจอ

มันเหมือนจะนอกเรื่อง แต่มันก็สะท้อนแนวทางเกมออกมาในระดับหนึ่งว่า เขาก็คงมีพวกตัวระบุเป้าหมาย ตัวชี้เป้าให้เราดูบนแผนที่ แต่มันจะไม่ถึงขนาดจูงมือว่าต้องยิงตรงไหน เก็บของตรงไหน มันจะมาแนวบอกขอบเขตให้เรากว้าง ๆ ว่าเป้าหมายอยู่แถวนี้ ที่เหลือยูไปหาทางกันเอาเอง

ส่วนที่น่าสนใจ

มาในส่วนที่ผมรู้สึกว่ามันน่าสนใจ (ดี หรือ ไม่ดีจริงต้องไปตัดสินกันที่ตัวเกมเต็มอีกที แต่ตอนนี้บอกได้แค่ว่ามันดูน่าสนใจ) ก็คือเรื่องการสร้าง หรือ จินตนาการโลกแพนโดราขึ้นมา ผมรู้สึกว่าเขาทำได้ค่อนข้างน่าตื่นตาตื่นใจอยู่นะครับ อย่างแรกก็คือสเกลของโลก เท่าที่ได้เดินเที่ยวมาก็รู้สึกว่ากว้างใหญ่อยู่นะครับ แล้วคราวนี้ไม่ได้จำกัดแค่บนพื้นดิน แต่รวมถึงพวกเกาะลอยฟ้าต่าง ๆ เพราะฉะนั้นมันจะไปส่งผลกับการเดินทางของเราที่มันไม่ได้จำกัดแค่แนวระนาบอย่างเดียว คราวนี้จะมีแนวดิ่งด้วย เราสามารถปีน หรือ บินไปกลางอากาศได้ แล้วผมคิดว่าสัดส่วนของการเดินทางกลางอากาศในเกมน่าจะมีเยอะพอสมควรเลย เพราะเขาถึงขนาดมีสายสกิลของ Ikran หรือ สัตว์ที่เราใช้บินแยกมาให้อัปโดยเฉพาะ

ส่วนที่สองก็คือ สภาพแวดล้อมในเกม พวกพืชพรรณ สัตว์ป่าต่าง ๆ ที่มันจะมีการตอบสนองกับการกระทำของเรา เช่น พวกต้นชื่ออะไรก็ไม่รู้แต่ว่าเราเดินเข้าไปแล้วมันจะหุบใบหนี หรือ การเก็บพวกผลไม้จากต้นก็จะมีมินิเกมประมาณว่าเราต้องให้ตัวละครดึงถูกทิศทางด้วยมันถึงจะเด็ดออกมาได้

แล้วมันก็ยังมีพวกพืชแปลก ๆ ที่เขาเอามาทำเป็นพัซเซิลให้เราแก้ปริศนา เช่น ต้องไปแตะ หรือ ไปยิงใบเล็ก ๆ ที่เชื่อมกับใบใหญ่ ๆ ก่อนมันถึงจะยอมเปิดทางให้ ไปจนถึงใช้เป็นเครื่องมือปีนป่ายของเราได้ด้วย ซึ่งสิ่งพวกนี้เราพอจะได้เห็นจากตัวอย่างมาบ้าง แต่พอได้มาเจอของจริง ผมคิดว่ามันมีชีวิตชีวาแล้วก็เยอะมากพอจะนิยามความเป็นแพนโดราได้

อีกอย่างต้องไม่ลืมพูดถึงเรื่องสัตว์ป่าในโลกของแพนโดรา อย่างที่หลายคนน่าจะรู้กันแล้วนะครับว่าตัวละครเราในเกมนี้จะมีความเป็นลูกครึ่งของทั้งฝั่งนาวีและฝั่ง RDA ทำให้มีความสามารถในการใช้อาวุธได้จากทั้งสองเผ่า ความน่าสนใจคือถ้าเราฆ่าสัตว์ที่มันวิ่งอยู่ตามแผนที่ด้วยอาวุธของชาวนาวี เวลาเราเข้าไปลูตของ หรือ เก็บชิ้นส่วน ตัวละครเรามันจะมีการพูดประมาณว่าขอขมาที่ฆ่าชีวิต ตามประสาชาวนาวีที่เป็นสายกรีน รักสิ่งแวดล้อม

แต่ถ้าเราใช้อาวุธพวก RDA แบบปืนกลฆ่าสัตว์พวกนี้ มันจะขึ้นสถานะว่าเสื่อมสลาย เสียหาย ทำให้เราไม่สามารถเอาชิ้นส่วนพวกมันมาใช้ประโยชน์ต่อได้ ส่วนนี้ผมคิดว่าน่าสนใจ เพราะความแตกต่างมันลงลึกไปถึงมิติของเนื้อเรื่องที่ใส่เข้ามาในเกมเพลย์ด้วย จุดนี้ต้องรอดูต่อไปว่ามันจะไปส่งผลกับทางเลือกต่าง ๆ ของเส้นเรื่องในตัวเกมเต็มมั้ย

จุดสังเกต

แล้วมาในส่วนที่มีคนถามกันเยอะพอสมควรคือเรื่องมุมมองของเกมว่าเป็นบุคคลที่ 1 หรือ บุคคลที่ 3 ก็ขอตอบตรงนี้ชัด ๆ ครับว่าเป็นบุคคลที่ 1 ครับ แต่จะมีการสลับไปเป็นบุคคลที่ 3 ตอนที่เราขี่สัตว์ต่าง ๆ ในเดโมนี้เขายังไม่ให้ขี่ตัวที่ไดร์ฮอร์ส ตัวที่คล้ายม้านะครับ แต่คิดว่ากลไกน่าจะคล้าย ๆ กัน

การขี่ตัว Ikran จุดนี้มีทั้งชอบและไม่ชอบ เอาที่ชอบก่อนคือมันเรียกง่าย แล้วมันมีฉากการต่อสู้กลางอากาศด้วย ถ้าจะมีอะไรที่ไม่ชอบนิดหน่อยก็คือการควบคุมมันบังคับยากไปนิดนึง แต่ไม่รู้ว่าในเกมตัวเต็มเราจะสามารถปรับปุ่มอะไรพวกนี้ได้มั้ย ต้องรอดูครับ

ตัวเกมมีระบบปรับแต่งตัวละครแบบ RPG อยู่บาง ๆ ก็คือของสวมใส่ที่แบ่งเป็นเกราะแขน เกราะลำตัว และเกราะขา ซึ่งแต่ละชิ้นจะมีค่าพลังรวมถึง perk ต่างกัน และแต่ละชิ้นก็ยังใส่ mod เพื่อปรับคุณสมบัติได้อีก คนที่ชอบปั้นบิลด์ตัวละครก็สบายใจได้ เกมนี้ยังมีอะไรแบบนั้นอยู่ครับ

แล้วจากที่ลองเดโมมาพบว่าของสวมใส่ได้มาจากการแลกกับ NPC ในชุมชน โดยสิ่งที่ใช้แลกจะเรียกว่าค่า Favor ที่คิดว่าน่าจะเพิ่มจากการทำภารกิจหรือกิจกรรมต่าง ๆ ครับ พูดง่าย ๆ ว่ายิ่งคุณอุทิศตนแก่ชุมชนมากก็ยิ่งแลกของได้มากนั่นแหละ เข้าใจว่าค่า Favor น่าจะทำหน้าที่เป็น Currency หรือ ค่าเงินหลัก ของเกมนี้

ส่วนภารกิจสุดท้ายของตัวเดโมนี้ก็คือเขาจะให้เราบุกฐานของ RDA ฐานนึง ก็จะเป็นจุดที่เราได้ปะทะกับศัตรูจริงจัง เราจะเล่นแบบลอบเร้น หรือ ตีหัวเข้าบ้านก็ได้ ข้อสังเกตคือธนูเราแรงมาก ไม่ใช่แค่ใช้ยิงคนธรรมดานัดเดียวร่วง แต่ยิงพวกหุ่นไม่กี่นัดก็ทำลายได้สบาย ๆ ถ้าเล็งโดนจุดอ่อน (ลืมบอกไปครับว่าตัวละครเราสามารถเข้าโหมด Navi Senses) มันก็คือโหมดตรวจจับศัตรูที่เห็นกันบ่อย ๆ นั่นล่ะ แต่เพิ่มเติมคือถ้าศัตรูมีจุดอ่อนมันจะขึ้นไฮไลต์สีเหลืองให้เราด้วย

ความรู้สึกส่วนตัวผม ระบบต่อสู้ก็สนุกดี ให้อารมณ์เดียวกับการไปยึดป้อม ยึดด่านใน Far Cry หลาย ๆ ภาค แต่ที่ผิดคาดไปนิดนึงคือพวกหุ่นที่ขับกันมันตัวบางกว่าที่คิด แล้วตัวเราเองก็บางด้วย เพราะอีกฝั่งอาวุธก็ไม่ใช่ธรรมดา ความยากมันก็อยู่ในระดับที่พอหอมปากหอมคอ

ส่วนที่ต้องปรับปรุง

ที่ต้องปรับด่วนเลยคือกราฟิกของเกม ความจริงไม่ใช่ว่าไม่สวย เพราะคอมพิวเตอร์ที่ใช้เล่นเขาก็ปรับกราฟิกในระดับสูงมาให้แล้ว แต่มันเห็นชัดเจนเลยว่าเขาเอาเกมบิลด์ที่ยังไม่สมบูรณ์มาให้เล่น เพราะตอนมองท้องฟ้าบางครั้งนี่เห็นเมฆแหว่ง เมฆรุ่งริ่งโคตรจะชัดเลยครับ ผมเป็นห่วงประสิทธิภาพในเกมตัวเต็ม เพราะรายละเอียดสภาพแวดล้อมของเกมนี้มันเยอะมาก แถมมันมีทั้งการสลับมุมมองบุคคลที่ 1 บุคคลที่ 3 ไปมา ถ้าทำออกมาได้ไม่ดี น่าจะโดนหักคะแนนส่วนนี้หนักอยู่ครับ

สรุป

สำหรับความรู้สึกที่ได้ไปลองเดโม Avatar: Frontiers of Pandora ถ้าให้พูดตรง ๆ ภาพรวมผมคิดว่าเกมนี้มันเป็นลูกผสมของ Far Cry: Primal แล้วก็เติมความ Horizon Forbidden West เข้าไปด้วย ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไรถ้ามันออกมาแล้วมันไม่ทำให้คนเล่นรู้สึกเสียดายเงิน ซึ่งตอนเล่นเดโมจบผมยังไม่ได้มองเกมนี้ในแง่ลบ มันมีสิ่งที่ทั้งน่าสนใจ และน่าติดตามต่อว่าเขาจะปรับปรุงในเกมตัวเต็มหรือเปล่า

แล้วผมเข้าใจเลยว่ามีคนรู้สึกลังเลที่จะซื้อเกมนี้เยอะ เพราะในแง่การตลาด Ubisoft ค่อนข้างโปรโมตเกมนี้น้อย ถ้าเทียบกับเกมค่ายตัวเองอย่าง Mirage นะครับ ทั้งที่อีกเดือนหนึ่งเกมมันก็จะออกแล้ว อาจจะเพราะมีข้อจำกัดกับทาง Disney ด้วย ผมก็หวังว่าพรีวิวตัวนี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจง่ายขึ้นไม่มากก็น้อยสำหรับเกมที่จะมาปิดท้ายปีเดือด 2023 นี้ครับ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ข้ามไปยังทูลบาร์