Momotaro Densetsu: Showa Heisei Reiwa mo Teiban Asia Edition – รีวิว [Review]

*ขอขอบคุณ Konami Digital Entertainment สำหรับโค้ดรีวิวมา ณ โอกาสนี้ครับ

Momotaro Densetsu หรือเรียกย่อ ๆ ว่า Momotetsu นี้อาจเป็นแฟรนไชส์ที่เกมเมอร์ชาวไทยไม่ค่อยจะรู้จัก แต่ว่าเกมนี้เป็นแฟรนไชส์บอร์ดเกมจากญี่ปุ่นที่มีประวัติยาวนานและเริ่มต้นมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1988 โดย Hudson Soft ก่อนที่สิทธิของเกมจะมาอยู่กับ Konami ในปัจจุบันครับ ซึ่งภาคล่าสุดที่ชื่อย๊าวยาวในครั้งนี้ก็มาให้เล่นกันบน Nintendo Switch พ่วงท้ายว่า Asia Edition เพื่อวางจำหน่ายในแถบเอเชีย หลังจากที่ตัวเกมจำหน่ายแค่ในญี่ปุ่นไปเมื่อปี 2020 ที่ผ่านมาและทำยอดจำหน่ายไปได้กว่า 4 ล้านชุดในญี่ปุ่น

ส่วนตัวเกมจะเป็นอย่างไรนั้น ผมจะมาบอกเล่ากันในบทความนี้ครับ

---

อย่างที่บอกไปว่าซีรีส์นี้คือบอร์ดเกม และภาคใหม่นี้ก็ยังคงเป็นคอนเซปต์บอร์ดเกมครับ โดยที่ผู้เล่นจะรับบทบาทเป็นประธานบริษัทรถไฟและออกเดินทางไปทั่วญี่ปุ่น เพื่อคอยซื้อสินทรัพย์ต่าง ๆ มาไว้ในครอบครองของตนเอง และเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาการเล่นที่กำหนดเมื่อใด ผู้เล่นที่มีสินทรัพย์ในครอบครองมากที่สุดก็จะเป็นผู้ชนะในตานั้น ๆ

ซึ่งเอาเข้าจริงคอนเซปต์นั้นเล่นง่าย เข้าใจง่าย ไม่มีอะไรซับซ้อน การเดินทางในแต่ละตาคุณก็จะต้องอาศัยดวงในการทอยเต๋าว่าจะออกมากี่แต้มและคุณก็จะต้องเดินให้ครบจำนวนแต้ม ห้ามขาดห้ามเกิน ดังนั้นคุณอาจโชคดีเดินไปตกในช่องที่ทำให้คุณได้เงิน หรือโชคร้ายเดินไปตกในช่องที่เสียเงิน ไม่มีใครบอกได้ว่าผลจะเป็นอย่างไรเหมือนเวลาคุณเล่นบอร์ดเกมจริง ๆ นั่นล่ะครับ

องค์ประกอบหนึ่งที่ผมคิดว่าเข้าท่าไม่เบาก็คือผู้เล่นสามารถกดเลือกสกุลเงินที่ต้องการก่อนเริ่มได้ครับ ซึ่งก็มีเงินบาทของไทยเราด้วยนะเผื่อใครต้องการความคุ้นเคย (แต่ค่าสินทรัพย์ต่าง ๆ สะท้อนความเป็นจริงไหม…อันนี้ก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน) แต่คิดว่าตัวเลือกนี้ได้รับการเพิ่มเข้ามาเพราะเป็น Asia Edition ล้วน ๆ เลยนี่ล่ะครับ

ด้วยความที่เกมนี้เป็นบอร์ดเกม จึงออกแบบมาให้เล่นกับผู้เล่นอื่นเป็นหลัก แต่ว่าใครเล่นคนเดียวก็มีตัวเลือกให้เล่นกับ CPU ได้อยู่นะ ซึ่งเราสามารถเลือกตัวละครแทน CPU ที่เราเล่นด้วยได้ที่จะมีความเก่งและความเฮงแตกต่างกันไป ซึ่งถ้าใครอยากลองวัดฝีมือและดวงตัวเองก็เลือกเล่นกับคุณซาคุมะที่เป็นผู้ให้กำเนิดแฟรนไชส์นี้ได้เลย

ธีมของเกมนี้ที่เราเป็นประธานบริษัทรถไฟ ดังนั้นไอคอนแทนตัวผู้เล่นก็คือรถไฟของแต่ละคน และกระดานของเกมนี้ก็คือแผนที่ประเทศญี่ปุ่นทั้งหมดเลย คุณเดินทางไปได้หมดไม่ว่าจะเป็นแถบฮอกไกโด แถบคันโต แถบคันไซ ฯลฯ ซึ่งกิมมิคที่ผมชื่นชอบเป็นพิเศษอย่างหนึ่งก็คือเราสามารถกดดูรายละเอียดเกี่ยวกับเมืองนั้น ๆ ได้ด้วยครับ เผื่อว่าใครอยากทำความรู้จักกับเมืองไหนมากขึ้น หรือคิดถึงเมืองไหนอยากไปเที่ยวก็กดอ่านแก้อยากกันไปพลาง ๆ ได้อยู่

รูปแบบการเล่นในแต่ละแมตช์นั้น คุณจะต้องกำหนดเวลาในการเล่นเป็นหลักปีกันก่อน ว่าแมตช์นั้น ๆ จะเล่นกันกี่ปี ซึ่งแต่ละปีจะสิ้นสุดในเดือนมีนาคม (ที่เป็นเดือนสิ้นสุดปีงบประมาณของหลายบริษัท) ดังนั้นเกมจะเริ่มต้นกันที่เดือนเมษายน และในทุกรอบการเล่นจะมีการสุ่มเส้นชัยกันเอาไว้ให้ผู้เล่นเดินทางไป ถ้าใครที่เข้าเส้นชัยก่อนก็ถือเป็นผู้ชนะในรอบนั้น ๆ ที่มาพร้อมกับเงินรางวัล จากนั้นก็จะมีการสุ่มเส้นชัยจุดใหม่ต่อไป ลูปการเล่นก็จะเป็นไปในลักษณะนี้จนกว่าจะครบกำหนดปีที่ตกลงกันเอาไว้เพื่อหาผู้ชนะที่แท้จริงครับ

ซึ่งจุดนี้ที่จะมีการสุ่มเส้นชัยกันทุกรอบนี้มันก็เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่คาดเดาไม่ได้ของการเล่นครับ เพราะว่าใครที่ชนะในรอบปัจจุบันถ้าดันสุ่มเส้นชัยออกมาประเภทที่ว่าตัวอยู่ฮอกไกโดแต่เส้นชัยอยู่โอซาก้านี่ก็อาจจะมีกระอักเลือด เพราะผู้เล่นอื่นที่แพ้ในรอบก่อนอาจจะใกล้เส้นชัยมากกว่าคุณในรอบใหม่ มันเป็นอะไรที่ทำให้เกมสามารถพลิกไปพลิกมาได้เสมอ

สำหรับการเปลี่ยนผ่านเดือนในเกมนี้ จะนับเมื่อผู้เล่นทอยเต๋ากันครบทุกคนแล้วจึงจะข้ามไปยังเดือนถัดไปครับ และฤดูกาลที่หมุนเวียนเปลี่ยนไปก็จะทำให้สภาพแวดล้อมเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาลเป็นสีสันเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเกมด้วยเหมือนกัน

ผมได้บอกไปแล้วก่อนหน้านี้ว่าตัวเกมเน้นชนะกันที่จำนวนสินทรัพย์เมื่อเล่นกันครบรอบปีที่ตกลงกัน และสินทรัพย์ต่าง ๆ ก็จะได้มาจากการใช้เงินซื้อเมื่อเดินไปตกลงในช่องเมืองนั่นล่ะครับ หากเป็นเมืองใหญ่ก็จะมีสินทรัพย์ราคาแพงที่เล่นกันช่วงแรก ๆ นี่ไม่มีทางซื้อได้แน่นอน ต้องอาศัยการเก็บเล็กผสมน้อยเอา รวมถึงดวงในการเดินไปตกลงช่องที่ได้เงิน แต่สินทรัพย์ที่คุณซื้อไว้ก็ไม่ใช่ซื้อทิ้งไว้เปล่า ๆ แต่ว่าทุกอย่างจะมีบอกหมดว่าคุณจะได้รายได้กลับมากี่เปอร์เซ็นต์ของเงินที่ซื้อไปในแต่ละปี ด้วยเหตุนี้ถ้าคุณลงทุนไปเยอะ คุณก็จะได้ผลตอบแทนกลับมาเยอะเมื่อครบรอบปี

หนึ่งในองค์ประกอบของเกมที่ช่วยเพิ่มรสชาติ (และอาจจะความหัวร้อน) ก็คือระบบเทพแห่งความยากจนนี่ล่ะครับ กล่าวคือเมื่อมีใครเข้าเส้นชัยที่กำหนดได้แล้ว จะมีผู้เล่นคนนึงที่อยู่ห่างจากเส้นชัยมากที่สุดโดนเทพแห่งความยากจนเข้าสิงสู่ และผลก็คือผู้เล่นคนนั้นจะโดนหักเงินหรือไม่ก็โดนบังคับขายสินทรัพย์ที่มีในทุกตาการเล่น เรียกง่าย ๆ ว่าไม่มีประโยชน์อะไรเลย เพราะจะมาทำให้ผู้เล่นจนลงล้วน ๆ และวิธีการเอาตัวรอดก็คือคุณต้องทอยเต๋าไปชนกับผู้เล่นอื่นเพื่อถ่ายโอนความซวยไปให้คน ๆ นั้นแทน (ส่วนจะทะเลาะกันนอกจอไหม ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง) แต่ถ้าคุณโดนเกาะติดหนึบไม่ปล่อย โอกาสที่บริษัทคุณจะติดตัวแดงเถือกก็มีมากมายมหาศาลนั่นล่ะครับ

อีกหนึ่งองค์ประกอบที่จะช่วยตัดสินผู้ชนะก็คือบรรดาการ์ดพิเศษต่าง ๆ นี่ล่ะครับ ผลลัพธ์ก็หลากหลายเช่นทำให้คุณทอยเต๋าได้มากขึ้นเพื่อตาเดินที่เยอะกว่าเดิม บ้างก็ทำให้คุณเดินทางไปยังเมืองหลักที่ระบุได้ในทันที ประเภทว่ากดปุ๊บขึ้นคอปเตอร์ไปลงได้ปั๊บ แต่บางการ์ดที่ให้ผลทางลบก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีเหมือนกัน

บางทีก็มีอีเวนต์พิเศษที่สินทรัพย์ของคุณได้รับความนิยมจนได้เงินพิเศษ ส่วนใครที่หนี้สินล้นพ้นตัว เล่นไปเล่นมาติดแต่ตัวแดงก็อาจจะมีพระเจ้าลงมาปลดหนี้ให้กลายเป็น 0 เพื่อที่จะยังมีโอกาสเล่นกับผู้เล่นคนอื่น ๆ ต่อได้

ว่ากันง่าย ๆ ก็คือใครที่ซวยต่อเนื่องก็อาจได้รับโอกาสใหม่อีกครั้ง ส่วนใครที่รุ่งเรืองอยู่ถ้าประมาทก็มีโอกาสหัวทิ่มได้เหมือนกัน เกมใส่ระบบพวกนี้ลงมาให้คล้าย ๆ กับในชีวิตจริงนั่นล่ะครับ

ทั้งหมดทั้งมวลนี้เป็นองค์ประกอบที่ทำให้ Momotetsu ภาคนี้เป็นบอร์ดเกมสไตล์เกมเศรษฐีที่เล่นได้สนุกสนานเพลิน ๆ ไม่เบา กราฟิกก็น่ารักสบายตา เหมาะเป็นเกมเล่นกับครอบครัวและเพื่อนฝูงครับ และถ้าใครชอบท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นเป็นทุนเดิมก็จะยิ่งชอบเซ็ตติ้งในเกมนะ