Games Reviews

Valthirian Arc: Hero School Story 2 – รีวิว [REVIEW]

โดย G-jang

Valthirian Arc: Hero School Story 2 – รีวิว [REVIEW]

*ขอขอบคุณ Ripples Thailand สำหรับโค้ดรีวิวมา ณ โอกาสนี้ครับ
**รีวิวนี้เล่นบน PlayStation 5

เซ็ตติ้งส่วนมากของสื่อบันเทิงแนวโลกแฟนตาซีมักจะต้องมีมอนสเตอร์ มีจอมมาร มีผู้กล้าที่ลุกขึ้นมากำจัดต้นตอแห่งยุคเข็ญ ส่วนจะบอกเล่าเรื่องราวแบบไหนยังไงก็สุดแท้แต่จะจินตนาการกันไป ผู้กล้านั้นบ้างก็เป็นโดยสายเลือด บ้างก็เป็นโดยสถานการณ์ บ้างก็เกิดจากการฝึกฝนอย่างหนัก และในเกมนี้ คุณจะได้ทำหน้าที่เป็นอาจารย์ใหญ่ของสถาบันการศึกษาที่ให้การฝึกฝนและสั่งสอนบรรดานักเรียนที่จะได้เติบใหญ่ไปเป็นผู้กล้าในอนาคตครับ


เนื้อเรื่อง

ใน Valthirian Arc: Hero School Story 2  นี้ จะเล่าเรื่องราวของดินแดนแฟนตาซีที่ชื่อว่าวัลธิเรีย (Valthiria) ซึ่งแต่เดิมอยู่ร่วมกันเป็นปึกแผ่นมานาน แต่กาลเวลาผ่านไปผู้คนต่างก็เริ่มแยกตัวกันไปปกครองตนเองและกลายมาเป็น 4 ดินแดนใหญ่ที่ปกครองตนเอง ทั้ง 4 ดินแดนต่างก็ถ่วงดุลอำนาจซึ่งกันและกัน

ถึงกระนั้นสิ่งหนึ่งที่วางตัวเป็นกลางและได้รับการยอมรับจากทุกดินแดนก็คือสถาบันการศึกษาที่คอยผลิตผู้กล้าฝีมือดีจำนวนมากออกมาตลอด และผู้กล้าเหล่านี้ก็จะจบการศึกษาออกไปเป็นกำลังสำคัญให้แต่ละดินแดนที่ส่งนักเรียนมาฝึกฝน เพื่อคอยช่วยเหลือผู้คนและรับมือกับเหล่ามอนสเตอร์นั่นเอง ซึ่งผู้เล่นก็จะได้รับบทบาทเป็นอาจารย์ใหญ่หน้าใหม่ที่ต้องคอยดูแลนักเรียนทุกคนในสถาบันการศึกษาแห่งนี้ที่คุณตั้งชื่อเองได้

หากจะว่าไปถึงเนื้อหาโดยรวมแล้ว เซ็ตติ้งของเกมก็มีองค์ประกอบรวม ๆ ของสื่อบันเทิงแฟนตาซีหลาย ๆ เรื่องรวมกันแต่นำเสนอในแบบย่อยง่ายและไม่มีอะไรซับซ้อนมากนักครับ เนื้อหามีจุดหักมุมพอบันเทิงนิด ๆ หน่อย ๆ และเหตุผลในการก่อเหตุของตัวร้ายก็พอจะเดาได้ เพียงแค่จังหวะจะโคนและความเฉียบในการเฉลยมันก็ยังดูทำไม่ค่อยจะถึงเท่าไรนัก ยังไม่นับพวกตัวละครหลักบางตัวที่นิสัยแทบจะกลับหัวกลับหางไปแบบ 180 องศาหลังจากย้ายข้างอีก ทั้งที่เรื่องราวก่อนหน้านั้นก็ดูแฮปปี้กับชีวิตกันดีแท้ ๆ…

หากจะมีอีกหนึ่งจุดที่เสียดายในแง่เนื้อหาก็คือหลังจากจบเหตุการณ์หลักของเกมแล้ว เกมก็ยังดำเนินต่อไปโดยที่ไม่มีบทส่งท้ายกล่าวถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ หลังจบมากนักครับ มันทำให้ทุกอย่างค่อนข้างห้วนและด้วนไปหน่อยนึง แต่ถึงอย่างนั้นเรื่องราวส่วนตัวของนักเรียนแต่ละคนที่เป็น Champion ก็สนุกดีอยู่ ทำให้พอรู้ความสัมพันธ์กับตัวละครอื่น ๆ หรือดินแดนอื่น ๆ ประปรายแม้จะไม่ได้ลงลึกอะไรมากนัก


เกมเพลย์

ในส่วนของเกมเพลย์สำหรับ Valthirian Arc: Hero School Story 2 นี้ จะแบ่งออกเป็นสองส่วนหลัก ๆ ด้วยกันนั่นคือการบริหารจัดการโรงเรียน และการเล่นในแบบ RPG ครับ โดยที่ทั้งสองส่วนนี้จะนำเสนอออกมาในรูปแบบที่เข้าใจง่ายและไม่มีอะไรซับซ้อนมากเหมือนเกมอื่น ๆ ในแนวเดียวกันที่จะเน้นด้านใดด้านหนึ่งเป็นการเฉพาะ

School Management

ด้านการบริหารจัดการโรงเรียนนั้น ตัวเกมจะแบ่งแต่ละเฟสที่เราใส่คำสั่งต่าง ๆ ได้ออกเป็นเดือน ซึ่งในช่วงนี้คุณจะสามารถเลือกได้อิสระว่าจะบริหารโรงเรียนอย่างไรเท่าที่ทรัพยากรจะอำนวย คุณจะต้องเลือกว่านักเรียนแต่ละคนจะเรียนวิชาอะไรสายไหนในเดือนนั้น ๆ จากทั้งหมดสี่สายโดยที่การลงคอร์สเรียนก็จะทำให้นักเรียนเสียค่าพลังงานไปบางส่วน (เต็ม 100) หากค่าพลังงานนี้หมดนักเรียนก็จะถูกกำหนดให้ต้องพักไปในเดือนนั้น ซึ่งวิชาเรียนนี้ก็จะไปสัมพันธ์กับสกิลที่ใช้ได้รวมถึงค่าพลังที่จะเพิ่ม และที่สำคัญคือการเปลี่ยนคลาสของนักเรียนที่จะทำให้เก่งยิ่งขึ้นไปอีก

นอกเหนือไปจากการเลือกคอร์สเรียนให้นักเรียนแล้ว สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือการสร้างศูนย์อำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่จะให้ผลลัพธ์เชิงบวกแบบแพสซีฟแก่ผู้เล่น บ้างก็อาจเพิ่มค่าพลังให้นักเรียนมากขึ้น บ้างก็ฟื้นฟูพลังงานเยอะขึ้น บ้างก็ช่วยเสริมพลังให้แก่นักเรียนโดยตรงในการต่อสู้ ฯลฯ ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนี้ เกมก็ไม่ได้ปล่อยให้คุณต้องมานั่งตัดสินใจว่าจะเลือกเก็บอะไรหรือเน้นด้านไหน เพราะเมื่อเล่นไปทรัพยากรและพื้นที่ของคุณก็จะเพิ่มขึ้นจนสามารถสร้างสิ่งต่าง ๆ ได้ครอบคลุมเกือบทุกด้านอยู่ดีครับ (แต่ก็ตามที่ทรัพยากรของคุณจะอำนวย) โดยที่ศูนย์อำนวยความสะดวกเหล่านี้คุณยังสามารถอัปเกรดเพิ่มผลลัพธ์ได้ด้วยเช่นกัน

ผมคิดว่าสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ก็คือพวกเกมบริหารจัดการนี่มันจะมาพร้อมกับ micro management เป็นของคู่กัน และเกมนี้ก็ไม่ต่างกันเพียงแค่ว่ามันจะมาในรูปแบบที่เรียบง่าย เข้าใจง่าย คุณไม่ต้องมานั่งดูตัวเลขกำไรขาดทุน หรือกังวลว่าเดือนนี้ผลประกอบการจะแดงเถือกไหมอะไรแบบนั้น เพราะเกมค่อนข้างผ่อนปรนพอควรครับ

อย่างเช่นพวกศูนย์อำนวยความสะดวกนี่จะต้องใช้ค่าอาร์คสโตน (Arc Stone) ในการบำรุงรักษาในแต่ละเดือน ซึ่งคุณจะได้อาร์คสโตนเพิ่มในแต่ละเดือนจากค่าเล่าเรียนของนักเรียน แต่ถ้าเดือนไหนคุณมีอาร์คสโตนไม่พอ เกมก็จะทำการปิดการใช้งานศูนย์อำนวยความสะดวกให้อัตโนมัติ โดยผลที่เกิดขึ้นก็ไม่กระทบอะไรมากแค่ทำให้คุณสมบัติที่จะได้มันลดจำนวนลงแค่นั้น แต่ถ้าคุณมีเหลือพอก็ไปปรับคุณสมบัติเพิ่มได้เอง (แน่นอนว่าอาร์คสโตนที่ต้องใช้ก็จะเยอะตาม)

ตามที่ผมบอกไปข้างต้นว่าดินแดนในเกมนี้จะมีด้วยกัน 4 ดินแดน ซึ่งองค์ประกอบนี้จะนำเสนอในเกมด้วยค่าความสัมพันธ์กับแต่ละดินแดน และยิ่งคุณมีความสัมพันธ์ที่ดีกับดินแดนไหน เวลาไปวิ่งเล่นทำเควสต์ในดินแดนนั้นก็จะได้ผลตอบแทนกลับมาดีขึ้น โดยที่ค่าความสัมพันธ์พวกนี้จะขึ้นและลงได้ตามภารกิจประเภท errand ที่เราจะได้เลือกนักเรียนให้ไปปฏิบัติครับ บางภารกิจอาจเป็นการขับไล่มอนสเตอร์จากดินแดนหนึ่ง แต่ไปเพิ่มมอนสเตอร์ให้อีกดินแดนหนึ่งแทน ค่าความสัมพันธ์ก็เลยมักจะขึ้น ๆ ลง ๆ ได้ แต่คุณก็เลือกที่จะส่งเงินส่งอาร์คสโตนไปเพื่อรักษาน้ำใจกันได้อยู่ (และพอไปท้าย ๆ เกมเงินก็เหลือมากพอไปฟาดหัวได้ทุกคนนั่นล่ะครับ)

RPG Gameplay

เมื่อเลือกอะไรต่ออะไรครบถ้วนแล้ว คุณก็สามารถกดผ่านไปยังเดือนถัดไปได้ แต่หากว่านักเรียนมีพลังงานเหลือและคิดว่าค่าพลังรวมถึงสกิลสูงพอแล้ว คุณก็สามารถเลือกรับเควสต์ได้ครับ ซึ่งเควสต์เหล่านี้คุณจะได้เลือกนักเรียนมารวมทีมกันทั้งหมดสามคนเพื่อไปวิ่งเล่นในแต่ละแมปและทำภารกิจที่ได้รับมอบหมาย บ้างก็เป็นการกำจัดศัตรู บ้างก็เป็นการเก็บของ หรือบางทีก็เป็นการคุ้มกัน NPC ไปยังจุดหมาย โดยที่แมปจะทยอยเปิดออกมาเพิ่มให้เล่นกันตามการดำเนินเรื่องของคุณในช่วงนั้น ๆ

ระบบการต่อสู้นั้นเข้าใจง่ายและไม่มีอะไรซับซ้อนครับ ตัวเกมจะใช้ระบบเทิร์นเบสในแบบคลาสสิกที่ลำดับการใส่คำสั่งของแต่ละฝ่ายจะแสดงอยู่ด้านบน และเมื่อถึงเทิร์นของฝ่ายนักเรียนแล้วคุณเลือกได้ว่าจะให้ใครออกแอ็กชันในเทิร์นนั้น และสกิลที่นักเรียนใช้ได้ก็จะขึ้นอยู่กับว่าก่อนมาลงรับเควสต์นี้คุณติดตั้งสกิลอะไรมาให้ (หนึ่งคนติดได้สองสกิล) ซึ่งในการใช้สกิลแต่ละครั้งจะต้องใช้ค่า AP ที่รวมกันมาจากนักเรียนทั้งสามคนที่คุณเลือกนั่นล่ะ ทำให้ค่านี้จะเปลี่ยนไปตามสมาชิกทีมในขณะนั้น

วิธีการต่อสู้หลัก ๆ เลยจะเน้นที่การตีเกราะของศัตรูให้แตกเป็นหลักเพื่อทำแดเมจรุนแรงครับ คลาสของนักเรียนจะเป็นสิ่งบ่งบอกว่าคน ๆ นั้นจะตีเกราะชนิดไหนเข้า ซึ่งเกมก็จะแยกเกราะเป็น 4 ประเภทตามสายวิชาที่เรียนได้ หากศัตรูมีเกราะสายกายภาพ ก็ต้องใช้นักเรียนคลาสกายภาพตี หากเป็นเกราะสายเวทก็ต้องใช้นักเรียนสายเวทตี ซึ่งสิ่งนี้ก็จะไปสัมพันธ์กับการเปลี่ยนคลาสของนักเรียนอีกนั่นล่ะครับ ถ้านักเรียนคุณมีคลาสแบบผสมผสานก็จะตีเกราะแตกได้สองสายในคนเดียว หรือจะเน้นให้นักเรียนอัปคลาสไปเป็นขั้นแอดวานซ์ที่ตีทีเดียวเกราะแบบเดียวกันแตกไปสองพอยต์เลยก็ได้ สุดแท้แต่คุณจะเลือก

โดยรวมแล้วจากที่ผมเล่นมาจนจบ ในส่วนเกมเพลย์แบบ RPG นี้มันก็เพลิน ๆ ดีใช้ได้ แต่ด้วยความที่มันค่อนข้างเรียบง่ายก็อาจไม่ค่อยถูกใจสายฮาร์ดคอร์ที่อยากได้เกมเพลย์ชนิดที่สามารถปรับแต่งตัวละครได้เยอะ ๆ หรือวางแผนได้แยะ ๆ อะไรแบบนั้น เพราะสกิลที่มีเหมือนจะเยอะ แต่พอมันใส่ได้แค่คนละสองสกิลในทีมที่ลงได้สามคน สุดท้ายมันก็เลยทำให้ผมเลือกสกิลมาตรฐานมาใช้บ่อย ๆ มีโจมตี มีฟื้นพลัง มีโจมตีหมู่ ฯลฯ แบบที่ไม่ค่อยเปิดโอกาสให้ลองเล่นอะไรแปลก ๆ ครับ

อีกจุดที่แอบเสียดายคือการสู้กับศัตรูในเกมนี้ไม่ได้ให้รางวัลอะไรนอกไปจากเงินครับ แต่ละแมปจะมีพวกศัตรูระดับบอสประจำฉากอยู่ที่คุณไปสู้ตอนไหนก็ได้ แต่พอชนะแล้วก็ไม่ได้อะไรกลับมานอกเหนือไปกว่าเงินที่มากขึ้น เพราะเกมนี้ไม่มีไอเท็มดรอป ไม่มีพวกอาวุธชุดเกราะใหม่ ๆ ให้เปลี่ยน

ภาพรวมของเกมเพลย์

ตามที่ผมบอกไปก่อนหน้านี้ว่าตัวเกมเน้นนำเสนอด้วยความเรียบง่ายและเข้าใจง่ายเป็นหลัก มันเลยทำให้เล่นได้เพลิน ๆ แบบไม่ต้องเครียดกับมันมาก ช่วงแรก ๆ อาจจะต้องทำความเข้าใจระบบก่อน แต่พอชินแล้วลูปของเกมเพลย์มันจะเร็วพอควรในแต่ละรอบครับ พอเข้าเดือนใหม่คุณก็เลือกคอร์สเรียนให้แต่ละคน อัปเกรดศูนย์อำนวยความสะดวก จากนั้นก็ส่งนักเรียนไปทำ errand หรือไม่ก็ลงไปเล่นเควสต์แล้วผ่านไปเดือนต่อไป

ช่วงเปลี่ยนผ่านเข้าฤดูกาลใหม่ ในบางครั้งเกมก็จะเปิดโอกาสให้เราเล่นมินิเกมประจำฤดูกาลครับ โดยที่รางวัลเมื่อเราเล่นชนะก็มีสามอย่างคือทำให้ค่าพลังที่ได้รับจากศูนย์อำนวยความสะดวกเพิ่มขึ้น ฟื้นฟูพลังงานของนักเรียนทุกคนจนเต็ม หรือลดค่า AP ในการต่อสู้ลง ซึ่งผู้เล่นเลือกได้ตามใจชอบไม่มีผลเสียอะไรกลับมา

เกมเพลย์ไม่ว่าจะในส่วนของการบริหารจัดการหรือการต่อสู้นั้น ช่วงแรก ๆ อาจจะขลุกขลักลำบากนิดหน่อย แต่เมื่อเล่นไปถึงท้ายเกมที่คุณมีศูนย์อำนวยความสะดวกครบครัน ค่าพลังนักเรียนเต็มเท่าที่จะเต็มได้แล้ว ทุกอย่างมันก็จะง่ายลงแบบเห็นได้ชัดครับ คุณตีบอสใหญ่แบบไม่สนเกราะเลยยังได้ถ้าแดเมจสูงพอ

กระนั้น เกมก็ค่อนข้างบังคับให้คุณต้องสลับสับเปลี่ยนนักเรียนในทีมอยู่ดีครับ เพราะว่านักเรียนหนึ่งคนจะใช้เวลาในโรงเรียนกันแค่สามปี จากนั้นก็จะจบการศึกษาออกไปพร้อมด้วยนักเรียนใหม่ที่จะหมุนเวียนเข้ามา คุณเลยจำเป็นต้องปั้นเด็กใหม่ขึ้นมาเสมอ ๆ ไม่สามารถหวังพึ่งพาแค่ไม่กี่คนได้


กราฟิกและการนำเสนอ

กราฟิกในเกมนี้ ถือว่าโอเคไม่แย่และไม่ได้โดดเด่น เมื่อพิจารณาว่านี่เป็นเกมสเกลอินดี้จากทีมขนาดเล็กครับ โมเดลตัวละครจะนำเสนอแบบ SD ที่รายละเอียดไม่เยอะ สภาพแวดล้อมในฉากเอย พวกเอฟเฟกต์ต่าง ๆ เอยจะทำออกมาแบบเรียบง่าย แต่ก็เห็นถึงความตั้งใจในการดีไซน์สิ่งต่าง ๆ อยู่ ไม่ได้มีลักษณะเป็นการหยิบ asset มาวางแปะ ๆ ให้เต็ม

หากจะมีจุดหนึ่งที่ทีมงานสอดแทรกเข้ามาก็คงเป็นดีไซน์ตัวละคร หรืออาคารต่าง ๆ ในบางจุดที่จะมีองค์ประกอบของวัฒนธรรมอินโดนีเซียเข้ามาครับ โดยเฉพาะดีไซน์ของอาจารย์ใหญ่ที่เป็นตัวแทนของผู้เล่นนี่จะชัดเจนมาก ด้วยองค์ประกอบร่วมและวัฒนธรรมร่วมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นี่ หากคุณเล่นปุ๊บก็จะสังเกตเห็นได้ปั๊บแน่นอน นั่นเพราะสตูดิโอ Agaté ผู้พัฒนาเป็นทีมงานจากอินโดนีเซียนั่นล่ะครับ


ระบบเสียง

ก่อนอื่นเลยก็ต้องบอกว่าเกมนี้ไม่มีเสียงพากย์ครับ เต็มที่จะมีแค่เสียงตอนสู้อย่างฮึ่ย! ย่าห์! แค่นั้น ซึ่งประเด็นนี้ผมคิดว่าปล่อยผ่านได้ด้วยขนาดและโปรดักชันของเกม ส่วนของดนตรีก็โอเคฟังได้เพลิน ๆ สบาย ๆ ตลอดเกมแม้จะไม่ค่อยมีเพลงไหนที่ผมรู้สึกว่าติดหูมากนักก็ตามทีครับ


การแปลไทย

Valthirian Arc: Hero School Story 2 นี้เป็นอีกหนึ่งเกมที่ได้รับการแปลไทยทั้งเกม ไม่ว่าจะเป็นบทสนทนา คำอธิบายระบบต่าง ๆ ของเกม ฯลฯ ทั้งหมด ซึ่งคุณภาพการแปลก็อยู่ในระดับที่พอได้ครับ หากว่าคุณเป็นคนที่ภาษาอังกฤษไม่แข็งแรงเลย การเล่นภาษาไทยก็จะช่วยให้คุณเข้าใจอะไร ๆ ได้ในระดับหนึ่ง แต่ส่วนตัวผมคิดว่ามีหลายจุดที่ยังแปลแข็งและตรงตัวเกินไปจากต้นฉบับภาษาอังกฤษโดยไม่มีการปรับบริบทให้ไหลลื่นในแบบภาษาไทย และบางจุดก็มีที่ผิดบริบทจนตลกไปเลยเหมือนกัน

เอาเป็นว่าถ้าคุณได้ภาษาอังกฤษอยู่แล้ว การเล่นภาษาอังกฤษจะทำให้คุณเข้าใจตัวเกมได้ดีกว่า แต่ถ้าไม่ เล่นภาษาไทยก็เป็นทางเลือกที่จะทำให้คุณเล่นได้สะดวกขึ้นครับ


สรุป

Valthirian Arc: Hero School Story 2 เป็นเกมลูกผสมของเกมแนว Builder Sim และเกม RPG ไว้ด้วยกัน ซึ่งลดความยุ่งยากหลายอย่างลงไปและทำให้เกมง่ายต่อการเข้าถึง ตัวเกมยังต้องการการขัดเกลาในหลาย ๆ จุด เพราะบั๊กก็ยังมีประปรายแต่ไม่ใช่บั๊กใหญ่ที่ทำให้เกมพัง ระบบพื้นฐานต่าง ๆ ถือว่าทำออกมาได้ดีและเพลินอยู่ สามารถต่อยอดต่อไปในอนาคตได้ครับ

The Review

70% รับบทอาจารย์ใหญ่ ให้ผู้กล้าเติบโต

Valthirian Arc: Hero School Story 2 เป็นเกมลูกผสมของแนววางแผนสร้างเมืองและอาร์พีจีที่มีระบบเรียบง่ายและเล่นได้เพลิน ๆ ถือเป็นอีกหนึ่งเกมอินดี้ที่สนุกและราคาไม่แรงครับ

70%

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ข้ามไปยังทูลบาร์